Apple Vison Pro ทำเอาหลายๆคนต้องร้อง “ว้าว!” หลังจาก เปิดตัวไปในงาน WWDC 2023 เพราะมันเหมือนว่าเราหลุดเข้าไปในโลกของหนัง Sci-Fi และเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าไม่เคยมีใครทำมาก่อน ได้รับเสียงตอบรับมากมาย รวมถึงการตั้งคำถามมากมายด้วยเช่นกัน เพราะราคาเปิดตัวไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่ง Apple ได้เปิดตัว Vison Pro มาใน ราคา 125,000 บาท จะมีความสามารถและความพิเศษอะไรบ้าง ? กับราคาที่แพงมหาศาลขนาดนี้ และอีกคำถามที่หลายคนสงสัย ” Vison Pro คนใส่แว่นสายตาใช้ได้มั้ย? ” วันนี้เราจะมาไขคำตอบพร้อมกันค่ะ

• รู้ทันสาเหตุแบตโทรศัพท์หมดไว และ 10 วิธีแก้แบบง่าย ๆ

• ตอบทุกข้อสงสัย ChatGPT คืออะไร ใช้งานอย่างไร จบครบที่เดียว

• Digital Marketing Agency ตัวช่วยธุรกิจให้เติบโตกับ AsiaSearch

Vision Pro คืออะไร?

Apple จำกัดความ Vison Pro ว่ามันคือ Spatial Computer รุ่นแรกของ Apple ถ้าอธิบายแบบเข้าใจง่าย ๆ ก็คือคอมพิวเตอร์สวมใส่ที่สามารถแสดงผลภาพแบบดิจิทัลเข้ากับภาพของโลกจริงได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งทำงาน และความบันเทิง หรือถ้าให้อธิบายเพิ่มเติมก็คือแว่นที่รวมเอาเทคโนโลยี VR และ AR มาไว้ในอุปกรณ์เดียวกันนี่เอง

กิจกรรมที่ Apple พรีเซนต์ในตัวของ Vison Pro คือการดูหนังจอยักษ์แบบส่วนตัว , เล่นเกมผ่าน Apple Arcade ด้วยจอยักษ์ส่วนตัว , ดูคอนเท้นต์ 360 องศา และวิดีโอคอลล์ได้เหมือนคุยกันต่อหน้า

สเปค Vision Pro

Vision Pro ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ VisionOS และขับเคลื่อนด้วยชิป Apple M2 ร่วมกับชิป R1 ที่ถูกออกแบบมาสำหรับประมวลผลกล้อง + เซนเซอร์ + ไมโครโฟน ที่อยู่รอบแว่นอีกทีนึง ทำให้การผสานกราฟิกต่าง ๆ เข้ากับโลกจริงมีความแม่นยำและรวดเร็วแบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะเป็นการสั่งงานผ่านมือและนิ้วจะมีกล้องคอยตรวจจับท่าทางการสั่งงานโดยที่ไม่ต้องมีอุปกรณ์ที่ต้องถือเพื่อสั่งงาน นอกจากนี้ยังสามารถสั่งงานผ่านปุ่มกด และ Digital Crown ที่อยู่บน Vision Pro ได้อีกด้วย

หน้าจอของ Vision Pro ทั้งซ้าย-ขวา มีความละเอียดสูงถึงข้างละ 4K เป็นจอแบบ micro-OLED ความละเอียดสูงถึง 23 ล้านพิกเซล และใช้เลนส์ข้างละ 3 ชิ้น ทำให้ภาพแบบคมกริบ ละเอียดยิบ และสีสันสดสวยสมจริง แถมยังครอบด้วยเลนส์ ZEISS เพิ่มความชัดเจน และลดความผิดเพี้ยนของมุมมองด้านในด้วย

จากประสบการณ์ใช้งานของสื่อแทบทุกสำนักบอกว่า Eye Tracking ของ Vision Pro มีความแม่นยำในระดับสุดยอดแบบที่ไม่เคยใช้จากที่ไหนมาก่อน ซึ่งการใช้งานครั้งแรกระบบจะให้เรา Calibrate เซนเซอร์การตรวจจับสายตาก่อนเพื่อความแม่นยำในการใช้งานก่อนด้วย

Apple เคลมว่า Vision Pro ใช้งานต่อเนื่องได้ราว ๆ 2 ชั่วโมง โดยแบตเตอรี่ของมันจะใช้แบบต่อสายออกมาข้างนอกซึ่งมีพอร์ต USB-C ให้เสียบกับสายชาร์จได้อีกต่อนึง แน่นอนว่าก็จะต้องนั่งเล่นยืนเล่นอยู่กับที่ เดินเพ่นพ่านไปมาไม่ได้แล้ว 

ระบบเสียง Spatial Audio

Vision Pro รองรับระบบเสียง Spatial Audio ที่จะเล่นเสียงออกมาจากลำโพงที่สายคาดหัว ซึ่งระบบ Spatial Audio จะมีความที่เหมาะกับเทคโนโลยี AR มาก ๆ เพราะมันจะเล่นเสียงมาจากทิศทางที่นั้น ๆ เลย ยกตัวอย่างเราดูไลฟ์การแข่งขัน NBA แบบ 360° อยู่ เมื่อเราหันหน้าไปที่สนามเสียงการแข่งขันก็จะอยู่ด้านหน้าตามปกติ แต่พอเราหันข้างเสียงการแข่งขันก็จะมาจากข้าง ๆ แทน ไม่เหมือนการใช้หูฟังทั่วไป ที่เสียงจะมาเท่า ๆ กันไม่ว่าจะหันไปทางไหน

การพิมพ์ด้วยคีย์บอร์ดเสมือนจริง

คีย์บอร์ดเสมือนที่ลอยอยู่ตรงหน้า แล้วใช้นิ้วจิ้มเอาเหมือนคีย์บอร์ดจริง ๆ แต่แน่นอนว่าการจิ้ม ๆ กลางอากาศแบบนี้จะเมื่อยมากเลยเวลาใช้ไปซักพัก

ข้อดี:

• Vision Pro มีการแสดงภาพที่ทำออกมาได้ดี มีความคมชัด สว่าง และให้มุมมองที่กว้างขวาง ซึ่งทำให้มันเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับดูหนัง เล่นเกม และทำงานโปรเจกต์ที่ต้องอาศัยความครีเอทีฟสูงๆ
• ระบบติดตามความเคลื่อนไหวดวงตาและมือของ Vision Pro ถือเป็นหนึ่งในระบบที่ดีที่สุดในตลาดตอนนี้ ซึ่งผู้ใช้งานสามารถสื่อสารกับตัวแว่นได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดย Nilay กล่าวว่า “ครั้งแรกที่คุณได้ลองเล่นกับมัน ประสบการณ์มันทำให้รู้สึกเหมือนว่าเรามีพลังพิเศษเลย” 
• ฟีเจอร์การมองผ่านแบบทะลุ (Passthrough Video) เป็นฟังก์ชันที่ยังคงทำให้ผู้ใช้งานรับรู้และมองเห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับโลกภายนอกได้ ในขณะที่กำลังสัมผัสกับประสบการณ์ Mixed Reality
• ซอฟต์แวร์ แม้ว่ากำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นแต่ก็มีของเล่นให้ลองหลายอย่างแล้ว และเรายังสามารถมองเห็นแอปพลิเคชันหลายแอปพลิเคชันได้ในเวลาเดียวกัน

ข้อเสีย:

• Vision Pro มีน้ำหนักค่อนข้างสูงที่ 600-650 กรัม ขึ้นอยู่กับชนิดของสายรัดที่เลือกใช้ ซึ่งน้ำหนักประมาณนี้ค่อนข้างใกล้เคียงกับ iPad Pro ขนาด 12.9 นิ้ว (682 กรัม) ทำให้การสวมใส่ให้ความรู้สึกที่เหมือนมี iPad Pro ติดอยู่บนหน้าตลอด
• ความจุของแบตเตอรี่ต่อการใช้งานยังไม่ค่อยดีนัก โดย Nilay กล่าวว่า การใช้งานแบบไม่เสียบสายชาร์จจะอยู่ได้ประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที
• ฟีเจอร์การมองผ่านแบบทะลุ ที่แม้ว่าจะทำให้ผู้ใช้งานมองเห็นโลกภายนอก แต่ก็ไม่ได้ทำได้แบบสมบูรณ์และยังมีข้อจำกัดเรื่องภาพที่ยังมีความเบลออยู่
• ข้อเสียอีกอย่างที่หลายคนน่าจะพอเห็นได้แม้จะยังไม่เคยลองใช้ก็คือ ราคาที่แพงกว่าคู่แข่งอย่าง Meta Quest 3 ที่สนนราคาอยู่ประมาณ 17,800 บาท หรือน้อยกว่าราว 7 เท่าตัว

Vision Pro คนใส่แว่นสายตาใช้ได้มั้ย?

Vision Pro มีขนาดที่ค่อนข้างเล็กหากเทียบกับพวกแว่น VR อื่น ๆ ในตลาดที่ถูกออกแบบมาให้ใส่แว่นสายตาซ้อนไว้ได้ นั่นหมายความว่าคนที่ใส่แว่นสายตา ต้องถอดแว่นออกก่อนถึงจะใช้ Vision Pro ได้ ทีนี้ก็เกิดคำถามแล้วว่าแบบนี้คนสายตาสั้น/ยาว/เอียง จะมองชัดเหรอ?

ตรงนี้แหละคือปัญหาของคนที่มีปัญหาสายตา เพราะจะต้อง ซื้ออุปกรณ์เสริม ที่ต้องเอาเลนส์สายตาของเราไปแปะเพิ่มในตัว Vision Pro (เป็นคลิปเลนส์แบบใช้แม่เหล็กติด) ถึงจะใช้งานได้แบบชัดเจน ซึ่งเลนส์ดังกล่าวจะผลิตโดย ZEISS และต้องเป็นเลนส์ที่รองรับการใช้ Eye Tracking รวมถึงการสแกนม่านตาเพื่อเข้าบัญชีด้วย เดาไว้ก่อนเลยว่าราคาไม่ถูกแน่ๆ

ที่มา ขอบคุณข้อมูลจาก thestandard , droidsans , springnews