ความคืบหน้ากรณี ภรรยาชาวไทยถูกสามีชาวสวิตเซอร์แลนด์ ฆาตกรรมเสียชีวิตภายในบ้านพักหลังหนึ่ง ใน ต.เฉลียง อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ก่อนนำศพไปทิ้งกลางไร่ข้าวโพด ห่างจากบ้านพักไปประมาณ 3 กิโลเมตร

ทางครอบครัวและญาติได้กราบนิมนต์ พระครูสุทธิธรรมวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดโคกแขวน ไปทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณของ ผู้ตาย ณ จุดที่ผู้ต้องหาทิ้งศพเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา ท่ามกลางครอบครัวและบรรดาญาติพี่น้องของผู้ตาย ที่มาร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง และนำรูปถ่ายกับเครื่องเซ่นไหว้มาประกอบพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณของผู้ตายกลับบ้าน

พระครูสุทธิธรรมวัฒน์ กล่าวว่า เกิดความผิดปกติเหนือธรรมชาติขณะทำพิธีบางอย่าง เหมือนมีพลังงานจากอีกศาสตร์ความเชื่อหนึ่ง มาปะทะต่อต้านไม่ยอมให้ทำพิธี ทำให้ตนรู้สึกพะอืดพะอม หายใจไม่ออก เกือบจะอาเจียน ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ส่วนตัวคาดว่า น่าจะเป็นการสกัดกั้นจากอะไรบางอย่าง เหมือนมีคนทำของเอาไว้ ต้องกล่าวเชิญดวงวิญญาณถึง 3 รอบ จึงสามารถทำพิธีจนจบ ซึ่งเรื่องนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล แต่ตนเคยเจอมาแล้วหลายครั้ง

มีเพียงเหตุการณ์ครั้งนี้ที่แปลก ตรงที่ตนรู้สึกอึดอัด หายใจไม่ออก และพะอืดพะอม บางทีพลังลี้ลับนี้อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องทำให้ไม่มีใครพบหรือได้กลิ่นศพผู้ตาย ทั้ง ๆ ที่อยู่ในไร่ข้าวโพด ห่างจากถนนไม่ถึง 5 เมตรเท่านั้น

ส่วนกรณีที่มีไพ่ยัดอยู่ในปากของผู้ตายนั้น ตนไม่สามารถบอกได้ ว่าทำไปเพื่อเหตุผลใด เพราะไม่เคยรู้หรือเจอกับพิธีแบบนี้มาก่อน

ขณะเดียวกัน หลังจากแพทย์โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ชันสูตรศพ ผู้ตาย เสร็จแล้ว ครอบครัวและญาติได้ไปติดต่อรับร่างของ ผู้ตาย กลับมาประกอบพิธีทางศาสนา เมื่อเวลาประมาณ 15.15 น.ของวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่วัดโคกแขวน ต.เฉลียง อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา และเมื่อมาถึงวัด ได้ทำพิธีตัดกรรมกับบรรดาพ่อแม่ญาติพี่น้อง เพื่อให้ดวงวิญญาณของ ผู้ตายไปสู่สุขติ ไร้ความกังวล แล้วจึงประกอบพิธีรดน้ำศพ และสวดอภิธรรมศพ เป็นเวลา 4 คืน โดยจะทำพิธีฌาปนกิจในวันที่ 4 ก.พ.นี้ ที่เมรุวัดโคกแขวน

ส่วนความคืบหน้าทางคดี ผู้ต้องหาได้ถูกนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนครราชสีมาแล้ว และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจภูธรภาค 3 ได้เข้าไปเก็บหลักฐานเพิ่มเติมที่บ้านพักของผู้ต้องหาอีกครั้ง โดยเก็บเทปกาว เทปพันสายไฟที่อยู่ในบ้านกลับไปด้วย เพื่อตรวจสอบว่า จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับรูปคดีนี้หรือไม่

ซึ่งพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีนี้ ได้เล่าเหตุการณ์บางส่วนให้ฟังว่า กลางดึกคืนก่อนวันที่ผู้ต้องหาจะยอมรับสารภาพ ว่า ลงมือฆ่าผู้ตาย ขณะที่ตนกำลังนั่งทำงานอยู่ในห้องสอบสวน เกิดเผลอหลับไปด้วยความเหนื่อยล้า พนักงานสอบสวน กล่าวต่อว่า ปรากฏร่างของ ผู้ตาย สวมเสื้อผ้าชุดเดียวกันกับที่พบเป็นศพ เดินเข้ามาหาในห้องสอบสวน เมื่อตนเห็นก็รู้สึกตกใจพอสมควร แต่ก็พยายามถามว่า ไปอยู่ที่ไหนมา คนตามหากันทั่ว อยู่ตรงไหนก็ช่วยบอกหน่อยจะได้ไปพากลับบ้าน พนักงานสอบสวน กล่าวอีกว่า แต่ผู้ตายไม่ตอบอะไร แล้วเดินออกจากห้องสอบสวนไปแบบเงียบ ๆ จากนั้น ตนก็สะดุ้งตื่น จนวันต่อมามีการเค้นสอบปากคำ จนผู้ต้องหายอมรับและนำไปชี้จุดทิ้งศพในที่สุด

ซึ่งพนักงานสอบสวนคนนี้ บอกว่า เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกกับตัวเอง มีหลายคดีที่มีวิญญาณมาเข้าฝันหรือมาในรูปแบบกลิ่น อย่างเช่น คดีการหายตัวไปของน้องน้ำที่ถูกสามีฆ่าหั่นศพแล้วเผาทำลาย ก่อนจะนำไปทิ้งน้ำเพื่ออำพรางคดีเมื่อเดือนมี.ค.ปีที่แล้ว ก็มีกลิ่นธูปตลบอบอวนอยู่ภายในห้อง หลังจากที่ตำรวจพบศพ

คล้ายกับว่า จะมาบอกลาและขอบคุณกับทุก ๆ คนที่มีส่วนช่วยคลี่คลายคดี ส่วนกรณี ผู้ตายน่าจะมาบอกใบ้ว่า จะพยายามช่วยให้ผู้ต้องหายอมรับสารภาพในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งทุกครั้งหลังจากที่ปิดคดี ตนจะไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิตให้ไปสู่สุขคติ ไม่ต้องมีห่วงกังวลอะไร

โดยส่วนตัวเชื่อว่า คนที่ลงมือฆ่าผู้อื่น คน ๆ นั้นจะไม่สามารถลอยนวลอยู่ได้อย่างสบายใจ เพราะว่าวิญญาณผู้เสียชีวิตจะตามอาฆาต รบกวนอยู่ไม่ห่าง ไม่มีวันสงบสุข และสุดท้ายก็ต้องได้รับผลกรรมที่ก่อเอาไว้อย่างแน่นอน