สาวโมโหจนหน้ามืด ลูก 2 ขวบร้องปลุก ใช้ “ถุงพลาสติก” ฆ่ารัดคอ แล้วกลับไปนอนต่อ เผยคำพูดสามีก่อนช่วยฝังศพ ยิ่งช็อก

นางเจีย (นามสมมุติ) เธอพบกับนายหวัง (นามสมมุติ) รู้จักกันผ่านทางออนไลน์ ทั้งสองพูดคุยเข้ากันได้ดีมาก ไม่นานก็ตกหลุมรักกัน และจัดงานแต่งงานขึ้นในไม่กี่ปีต่อมา แต่ในความเป็นจริงแล้ว ทั้งสองคนไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน

อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคนหลังแต่งงานยังค่อนข้างดี หลังใช้ชีวิตคู่ได้ 5 ปี มีลูกด้วยกัน 2 คน ลูกสาววัย 4 ขวบ และลูกชายวัย 2 ขวบ ในสายตาคนนอก พวกเขาช่างเป็นครอบครัวที่มีความสุขและน่าอิจฉา

กระทั่งในเช้าวันที่ 11 ต.ค. 2557 ครอบครัวของพวกเขาขณะนั้นอาศัยอยู่ในกรุงปักกิ่ง นางเจียยังคงหลับฝันหวานอยู่ แต่จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงแปลกๆ เธอก็หงุดหงิดมากที่ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมา แต่ก็ลุกขึ้นทันทีเพื่อดูว่าเสียงดังมาจากไหน ก่อนพบลูกชายวัย 2 ขวบกำลังฉีกห่อขนมที่อยู่ในเปลของเขา นั่นคือที่มาของเสียงแปลกๆ

อย่างที่เราทราบกันดีว่าเด็กๆ สนใจในทุกสิ่ง ซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่นางเจียกลับโกรธอย่างมากเพราะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ นี้ เธอจ้องมองลูกชายคนเล็กด้วยความโกรธจนเขาตกใจ เด็กน้อยหยุดนิ่งทันทีและไม่กล้าขยับตัวอีก เมื่อเห็นว่าลูกชายเงียบลงแล้ว เธอจึงกลับไปนอนต่อ

แต่เพียงแค่หลับไปได้สักพัก เสียงนั้นก็เริ่มดังขึ้นอีก นางเจียที่ถูกปลุกให้ตื่นซ้ำๆ ทนไม่ไหวอีกต่อไป อาจเป็นเพราะเธออยู่ในอารมณ์ไม่มั่นคงตั้งแต่เมื่อคืน จากสงครามเย็นระหว่างสามีภรรยา ที่ส่งผลให้สามีออกไปจากบ้านและยังคงไม่กลับมาจนเช้านี้

สุดท้ายด้วยอารมณโกรธ นางเจียวิ่งไปที่ห้องนั่งเล่น ทั้งทุบตีและดุด่าลูกชายวัย 2 ขวบ ทำให้เด็กตกใจกลัวและร้องไห้เสียงดัง เมื่อได้ยินเสียงร้องเธอก็ยิ่งใช้มือของตัวเองบีบคอลูกรุนแรงมากขึ้น จนกระทั่งใบหน้าของเด็กเปลี่ยนเป็นสีแดงและสีม่วง อย่างไรก็ตาม เสียงไออย่างรุนแรงของลูกชายหลังจากเธอปล่อยมือ ก็ไปกระตุ้นให้เธอรู้สึกไม่พอใจอีก

นางเจียทำสิ่งที่โหดร้ายเกินคาดคิด ใช้ถุงพลาสติกพันรอบศีรษะของลูกชาย แล้วคลุมด้วยผ้าห่มอีกชั้น ในตอนนั้นเสียงของเด็กชายวัย 2 ขวบเริ่มเงียบสงบ ไปพร้อมๆ กับชีวิตที่ถูกแม่ผู้ให้กำเนิดฆ่าตาย

หลังจากลงมืออย่างโหดเหี้ยมกับลูกชายแล้ว นางเจียก็กลับไปกอดลูกสาวเข้านอนอย่างสงบ กระทั่งเมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้งและเห็นลูกชายที่แน่นิ่งราวกับกลายเป็นศพไปแล้ว เธอก็โทรหาสามีอย่างตื่นตระหนก แม้จะกลับมามีสติในเวลานี้ แต่มันก็สายเกินไปแล้ว…

ในเวลานั้นนายหวังกำลังเล่นเกมอยู่ที่ร้านอินเตอร์เน็ต เมื่อภรรยาบอกว่าลูกชายตายแล้ว แน่นอนว่าในตอนแรกเขาไม่เชื่อ คิดว่าเธอใช้เรื่องแบบนี้เพื่อทำให้ตกใจและข่มขู่เขา กระทั่งเมื่อกลับมาบ้านและเห็นศพลูกจริงๆ

ในเวลานั้นนางเจียได้ฟื้นคืนสติแล้ว เธอเจ็บปวดอย่างมากกับการกระทำของตนเอง ยอมจำนนต่อความผิดและพร้อมรับโทษ แต่สามีกลับปรี่เข้ามาแย่งโทรศัพท์ที่กำลังจะโทรสารภาพกับตำรวจ เขาปลอบใจภรรยาว่าเธอจะไม่เป็นอะไร

 “ผมจะมีลูกให้คุณอีกคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้คุณ!” นายหวังกล่าว

ในตอนนั้นนายหวังเปิดเผยความคิดของเขาออกมาตรงๆ โดยบอกว่า ถ้าเขายอมแพ้ตอนนี้ อาจเสียทั้งภรรยาและลูกๆ ไปทั้งหมด แต่ตราบใดที่ภรรยายังมีชีวิตอยู่ข้างกัน ลูกก็ยังสามารถเกิดใหม่ได้ในอนาคต

หลังจากที่ทั้งคู่สงบลงแล้ว พวกเขาก็คุยกันเรื่องการหาสถานที่ฝังศพลูกชาย เช่ารถบรรทุกสีเทาคันหนึ่งขับนำศพไปที่เนินเขาในจางเจียโข่ว มณฑลเหอเป่ย เพื่อฝังศพลูกชายซ่อนไว้ที่นั้น

แต่การจะผ่านเรื่องนี้ไปได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ อย่างที่นางเจียจินตนาการไว้ เธอใช้ชีวิตอยู่กับความรู้สึกผิดอย่างไม่รู้จบ ทรมานทุกวันทั้งคืน ทันทีที่เธอหลับตาเธอก็เห็นใบหน้าที่ไร้เดียงสาและน่ารักของลูกชายตัวน้อย แม้ว่าตอนนี้จะไม่มีเสียงรบกวนจากเด็กแล้ว แต่เธอก็ไม่สามารถข่มตานอนหลับได้อีกต่อไป

ในที่สุด นางเจียผู้ซึ่งถูกทรมานจิตใจมากจนทนไม่ไหว ก็ยอมจำนนที่สถานีตำรวจพร้อมกับแม่ของเธอ

ในศาลเธอยอมเล่าเรื่องราวปัญหาชีวิตครอบครัว ที่แตกต่างจากความสุขซึ่งคนภายนอกมองเห็น ความจริงนับตั้งแต่แต่งงานเธอและสามีก็มีความขัดแย้งกันมาตลอด เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างคนสองคนนั้นไม่ชัดเจนเมื่อพวกเขามีความรัก แต่จะชัดเจนมากขึ้นหลังจากที่พวกเขาแต่งงานและมีลูก

ปรากฎว่านายหวังเคยถูกตัดสินจำคุก 1 ปี ฐานลักทรัพย์ตั้งแต่ปี 2552 ต่อมาเพราะประวัติเรื่องนี้จึงมักหางานไม่ได้ ทั้งสองคนไม่มีแหล่งรายได้ และมักทะเลาะกันเรื่องเงิน

ต่อมา นางเจียให้กำเนิดลูกคนแรก เป็น “ลูกสาว” ครอบครัวของสามีไม่พอใจอย่างมาก เพียงเพราะเด็กผู้หญิง ไม่ใช่ผู้ชาย และพวกเขาก็ปฏิบัติต่อลูกสาวของเธออย่างเลวร้าย กระทั่งเมื่อเธอให้กำเนิดลูกชายคนเล็ก ทัศนคติของคนพวกนั้นก็เปลี่ยนไป เธอยิ่งรู้สึกทุกข์และเป็นปมในใจมาโดยตลอด เมื่อเห็นการปฏิบัติที่แตกต่างกันนั้น

สุดท้าย ในวันที่ 1 มิถุนายน 2558 ศาลประชาชนกลางแห่งที่ 2 แห่งปักกิ่ง ได้พิพากษาคดีนี้ นางเจียถูกตัดสินจำคุก 11 ปีในข้อหาฆาตกรรมโดยเจตนา และนายหวังถูกตัดสินจำคุก 1 ปี 3 เดือน ในข้อหาปกปิดซ่อนเร้นความผิด ซึ่งทั้งสองไม่ได้ยืนอุทธรณ์