พรรคเพื่อไทย เปิดตัวทีมโฆษกฯ “บรู๊ค ดนุพร” นำทัพเดินหน้าสื่อสารเชิงรุก
พรรคเพื่อไทย เปิดตัวทีมโฆษกพรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย, นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ กรรมการบริหารพรรค และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย, น.ส.ชญาภา สินธุไพร สส.ร้อยเอ็ด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย และนายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย
นายดนุพร กล่าวว่า ในช่วงที่พรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้านในรัฐบาลที่ผ่านมา ก็ทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ และเมื่อได้เป็นรัฐบาล ทำให้ต้องแยกกันทำงานหลายกลุ่ม ทั้งในส่วนทีมสื่อสารของพรรค และรัฐบาล โดยขณะนี้ ทีมโฆษกพรรค ได้ประสานข้อมูลกับทั้งโฆษกรัฐบาล โฆษกกระทรวงต่างๆ เพื่อทำงานในเชิงลึกในการพูดคุย หารือ และเตรียมงาน ทั้งในส่วนของงานนายกรัฐมนตรี และกฎหมายที่มีความสำคัญ ที่เตรียมบรรจุเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ เช่น ร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม และ Sex worker
“คำติชมจากทุกฝ่าย เรายินดีรับฟังทุกข้อคิดเห็น และเราจะมุ่งมั่นตั้งใจพัฒนาการสื่อสารให้รวดเร็วมากขึ้น โดยต้องมาพร้อมกับความถูกต้อง แม่นยำ ของข้อมูลที่ต้องตรวจสอบก่อนชี้แจงข้อเท็จจริง ถือว่ามีความสำคัญที่สุด” โฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุ
ด้านนายชนินทร์ กล่าวถึงการวิพากษ์วิจารณ์จุดยืนการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทย ที่ไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ระหว่างนายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ สส.พรรคเพื่อไทย ทุกคนที่ลงชื่อร่วมกันเสนอต่อสภา กับข้อเสนอของคณะกรรมการ ชุดที่มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เป็นประธานนั้น ขอย้ำว่า การดำเนินการของพรรคเพื่อไทย เป็นไปเพื่อประโยชน์ต่อประชาชนอย่างแท้จริง ไม่มีปัญหาใดๆ ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับคณะกรรมการศึกษาแนวทางในการทำประชามติ เพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560
สำหรับแนวทางของพรรคเพื่อไทย ได้เคยเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 ในสมัยรัฐบาลที่ผ่านมา ซึ่งในขณะนั้นมีการพิจารณาร่างนี้ในสภาฯ วาระ 1 และวาระ 2 จนมีการร้องศาลรัฐธรรมนูญ ก่อนที่จะมีการลงมติในวาระ 3 โดยหลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยแล้ว พรรคเพื่อไทยยังยืนว่าสามารถพิจารณาร่างนี้ต่อได้จนจบกระบวนการ และพรรคได้มีมติรับร่างในวันนั้น แต่เนื่องด้วยมีผู้ที่มีความเห็นต่าง ทำให้การลงมติในวาระ 3 ในวันนั้น ไม่สามารถดำเนินการได้จนแล้วเสร็จ หลังจากนั้น พรรคจึงได้ยื่นร่างนี้เข้าไปอีกครั้ง ในสมัยประชุมถัดไป แต่ไม่ได้รับการบรรจุวาระในสภา
พรรคเพื่อไทย ยังยืนยันตามหลักการและจุดยืนเดิมที่มีมาตั้งแต่ในสมัยรัฐบาลที่แล้ว โดยเชื่อว่าการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 สามารถดำเนินการได้โดยที่ไม่ต้องทำประชามติก่อน เพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ระบุว่าการจะดำเนินการต้องถามประชาชนก่อนร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งการแก้ไขมาตรา 256 ไม่ถือเป็นการจัดการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่เป็นการจัดเตรียมวิธีการร่างรัฐธรรมนูญ จึงได้ยื่นญัตติเพื่อพิจารณาร่างนี้เข้าสู่สภาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
“ขอให้คำมั่นพี่น้องประชาชนว่า ไม่ว่าผลของการยื่นครั้งนี้ จะนำไปสู่การยื่นวินิจฉัยต่อศาลรัฐธรรมนูญ และจะมีการตัดสินว่า จำเป็นต้องทำประชามติครั้งแรกหรือไม่ พรรคเพื่อไทย หรือรัฐบาล น่าจะเห็นชอบไปในทิศทางเดียวกัน และจะทำให้กระบวนการขับเคลื่อนเพื่อให้เกิดการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ มีความชัดเจน ปลอดภัยมากขึ้น และบรรลุเป้าหมายได้ดีขึ้น” รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุ