สืบเนื่องจากกรณี “ป้าบัวผัน” หรือ “ป้ากบ” คดีฆาตรกรรม ที่หลังจากที่ถูกฆ่าทิ้งสระน้ำข้างโรงเรียนแห่งหนึ่ง เขตเทศบาลเมืองอรัญประเทศ จ.สระแก้ว ยังเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจ ที่ผู้สงสัยที่ถูกจับกุมตัวไปคือ ลุงเปี๊ยก สามีป้าบัวผัน ที่เดินทางไปทำแผนรับสารภาพ และทำการฝากขัง แต่ก็ได้ถูกปล่อยตัวไปเมื่อเวลา 19.20 น. ของวันที่ 15 มกราคม 2567
แต่ต่อมาก็ได้ปรากฎภาพกล้องวงจรปิด หรือ CCTV ขณะที่ป้าบัวผัน ถูกกลุ่มเยาวชน 5 คน รุมทำร้ายร่างกาย จนเสียชีวิต ตำรวจสามารถเข้าจับกุมตัวได้แล้วทั้งหมด เป็นเยาวชนอายุระหว่าง 13-16 ปี โดยในจุดนี้ ทำให้เป็นประเด็นข้อถกเถียง ว่าเท็จจริงนั้น ยังขัดแย้งกันอยู่ ว่า ตกลงแล้วใครกันแน่ที่เป็นคนเจอหลักฐานกล้องวงจรปิดก่อนกัน ระหว่าง นักข่าว และ ตำรวจ
ไล่เลียงไทม์ไลน์
ล่าสุด ในรายการโหนกระแส ได้มีการสัมภาษณ์เกี่ยวกับ คดีของ “ป้าบัวผัน” ได้มีการพูดคุยกับนักข่าวช่อง 8 นายณัฐดนัย นะราช ได้เล่าเหตุการณ์ไว้ โดยเหตุการณ์เริ่มจาก
วันที่ 12 มกราคม ไปถึงพื้นที่ค่ำๆ ลงพื้นที่สัมภาษณ์แหล่งข่าวปกติ และได้เจอลุงปัญญาตอน 6 โมงทุ่มหนึ่ง และในวันนั้นเจอเจ้าหน้าที่สอบสวนอยู่ ก็ยังเห็นลุง ยังไม่สามารถพูดคุยได้ ยังอ้ำๆอึ้งๆ
วันที่ 13 มกราคม ช่วงเราได้ทราบข่าวว่าจะมีการทำแผน เราเลยลงพื้นที่ ตอนนั้นที่ไป เขากำลังทำแผนจุดที่ 3-4 แล้ว จุดที่ผมไปทันคือจุดทิ้งร่างนั้นก็คือ “บ่อน้ำ” โดยตำรวจจะทำแผนจุดแรก ที่หน้าโรงพยาบาล ละจุดสุดท้ายคือจุดทิ้งเสื้อ
ก่อนฝากขัง
เรื่องมันเกิดขึ้นตรงที่ มันมีจังหวะหนึ่งก่อนจะฝากขัง ผมได้ไปนั่งคุยกับลุง และผมเอารูปเก้าอี้ไปให้ลุงปัญญาดู ลุงปัญญาให้สัมภาษณ์กับผมตอนทำแผนว่าเอาเก้าอี้ตี 3 ครั้ง แต่พอผมมาถามซ้ำ ลุงบอกตี 1 ครั้ง ผมก็เอ้า แล้วผมต้องเขียนข่าวไปยังไง สรุปลุงตีกี่ครั้ง มันไม่ตรงกัน
หลังฝากขัง
สุดท้ายพอทำแผนและฝากขังลุงเสร็จ ผมก็ลงพื้นที่อีกครั้งเพื่อหากล้อง คือจุดที่ทิ้งขยะ ลุงบอกผมว่า ทิ้งตอนตี 5 วันที่ 11 ผมเลยไปหากล้องจากปั้มแห่งนึ่งที่ตรงข้ามกับถังขยะ ตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 11 จนถึงตี 5 สรุป ไม่ปรากฎภาพลุง หรือผู้ชายคนไหนเดินไปจุดนั้น ผมเลยสงสัยว่าลุงได้มาทิ้งขยะจริงมั้ย หรือตำรวจจำวันผิด
- นักข่าว ถาม! ตำรวจ ได้ภาพ CCTV ก่อน ทำไมพาลุงเปี๊ยกไปทำแผน
- ครอบครัวป้ากบ พูดแล้ว เผย ตร.บอกว่าลุงเปี๊ยกทำ ทั้งที่ไม่มีหลักฐาน
- ชาวบ้านแฉสันดาน! แก๊งลูกตำรวจ ที่ฆ่า ป้าบัวผัน พฤติกรรมถ่อยมาก
ก็เลยสงสัยอีก และไปหา กล้องที่จุดแรก คือ บริเวณด้านข้างโรงพยาบาล ที่ลุงบอกว่าจุดนี้นะไปเจอกับป้า และมีปากเสียงกัน ก็เลยไปไล่กล้องเพื่ออยากเห็นภาพว่าลุงมีการทะเลาะกับคนตายตอนไหน และจากจุดเนี้ยเดินไปถึงจุดที่เก้าอี้ตีป้ากี่โมง ผมก็เริ่มไล่กับทีมงาน
พอไปถึง ปรากฎวว่าเราไม่เห็นลุงเลย เห็นแต่ภาพสุดท้ายคือลุงปั่นจักรยานไปตรงสี่แยก พอลุงออกไปป้าก็เดินมา ซึ่งเวลาก็ห่างกันอยู่นะครับ (00.52 น.)
ผมไปค้น กล้องวงจรปิด มาคือ การเข้ามาของแก๊งนี้ไม่ได้เป็นการมาเจอป้าบัวผันโดยบังเอิญ แต่พวกนี้พยายามมองหาป้าบัวผันในร้านสะดวกซื้อจุดที่ 2 ให้ได้
เราเห็นภาพที่เด็กใช้เท้ากระทำกับป้า เราเลยรู้สึกว่าเอ้า แล้วเมื่อเช้าไปทำแผนกับลุงมา เล่าเป็นฉากๆ แต่ไม่มีลุงให้การก่อเหตุเลย จนกระทั่งฉากสุดท้าย ที่มุ่งหน้าไปทางโรงเรียนที่มีบ่อน้ำ เราเลยคุยกับทีมงานว่า ไม่ใช่คนร้ายตัวจริงแล้วแหละที่เราทำแผนเมื่อเช้า ผมจึงไปปรึกษา บก. ว่ามันมีเรื่องแบบนี้จนกระทั่งมีการเปิดเผยไป
หนุ่ม กรรชัย ถามว่า ตำรวจเขายืนยันว่าเขาได้กล้องก่อน“อันนั้นผมดีใจนะครับที่เขายืนยันแบบนั้น เพราะว่าเขาเห็นหลักฐานก่อน แต่ผมยังติดใจแค่ว่าทำไมคุณได้หลักฐานแล้ว แต่ปล่อยให้คนบริสุทธ์เข้าสู่กระบวนการฝากขังขนาดนั้น”
ผมได้กล้องวันที่ 13 มกราคม เวลาประมาณ 5 โมงเย็น ซึ่งได้กล้องหลังจากการไปทำแผน ตอนนั้นที่ได้ภาพ ยังไม่มีตำรวจติดต่อมา และไม่ได้ส่งให้ตำรวจ เพราะทราบมาว่าหลังจากที่ช่อง 8 ออกอากาศไป ตำรวจก็ได้เข้าไปเอาภาพมา แต่ในมุมของผม ผมมองว่าตำรวจเขาอาจจะไปเอาภาพมาแล้วส่วนหนึ่งก็ได้นะครับ
สุดท้ายนี้ นายณัฐดนัย นักข่าวช่อง 8 อยากจะฝากบอกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราไม่ได้ทำงานเพื่อโจมตีใคร แต่ปรากฎว่าเมื่อเราเห็นภาพตรงหน้า เราก็แค่คิดว่าอยากช่วยคนตายและคนที่ไม่ได้ทำผิดจริงๆ ผมคิดแค่นั้นครับ จะได้กล้องก่อนหลังไม่ใช่เรื่องสำคัญเท่ากับว่าเอามาเปิดเผยให้ประชาชนเห็นนะครับ และตอนนี้กำลังเดินทางไปให้ปากคำกับตำรวจ