เปิดที่มา เก๋งสีขาวหัวร้อนชนแท็กซี่เขียว-เหลือง ที่ถนนรัชดา ตำรวจเผยรู้ตัวแล้วว่าใคร โชเฟอร์อีกคันที่โดนชนเล่านาทีระทึก
กรณีคลิปแชร์สนั่นในโลกออนไลน์ เหตุการณ์หน้าห้างดังแห่งหนึ่ง ย่านรัชดา ที่รถแท็กซี่ถูกรถเก๋งสีขาว เร่งเครื่องพุ่งชนแท็กซี่ ก่อนจะถอยอีกครั้ง และเร่งครื่องพุ่งชน พร้อมกับขับไปทันที จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์จำนวนมากนั้น
ล่าสุด ตำรวจเตรียมตรวจร่างกาย คนขับเก๋งสีขาว และพบน้ำสีเหลืองทิ้งในรถ เตรียมตรวจหาแอลกอฮอล์ในร่างกาย รวมทั้งยึดรถของกลาง ที่จอดทิ้งในซอยอินทามระ 26 มาตรวจสอบแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (15 ม.ค.) นายยุทธพงศ์ โชเฟอร์แท็กซี่เขียว-เหลือง เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟังว่า ขณะที่ตนกำลังขับรถแท็กซี่ อยู่เลนขวาสุดบนถนนรัชดาภิเษก บริเวณด้านหน้าห้างสรรพสินค้า ย่านพระราม 9 ซึ่งขณะนั้นตนกำลังจะเบี่ยงซ้ายเพื่อเข้ามารับผู้โดยสาร แต่ปรากฏว่ามีรถเก๋งสีขาวขับมาด้วยความเร็วสูงตามท้ายรถของตน แล้วเสียบพุ่งชนรถของตน ครูดตามแนวยาวบริเวณฝั่งคนขับแล้วขับหลบหนีไป พร้อมกับไปเฉี่ยวชนรถแท็กซี่อีก 1 คันในละแวกนั้น
ตนจึงรีบขับรถแท็กซี่ตามไป จนไปทันที่บริเวณสามแยกเทียนร่วมมิตรซึ่งอยู่ไม่ไกล จากนั้นตนจึงรีบปาดหน้ามาจอดขวางบริเวณเลนขวาสุดเพื่อสกัดไม่ให้รถเก๋งคันดังกล่าวหลบหนีบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ย่านรัชดา
แต่ทว่ารถเก๋งคันดังกล่าว ได้ถอยรถแล้วขับพุ่งชนรถของตนบริเวณที่นั่งผู้โดยสารฝั่งซ้ายและท้ายรถอีก 5 ครั้ง ซึ่งจากในคลิปจะเห็นว่า รถเก๋งขับชนตน 2 ครั้ง แต่จริง ๆ แล้วมีก่อนหน้านั้นอีก 3 ครั้ง แล้วคนขับรถเก๋งก็ขับหลบหนีออกไปทันที รวมแล้วรถเก๋งขับชนรถแท็กซี่ตนถึง 6 ครั้งด้วยกัน
หลังเกิดเหตุ ตนได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ไว้แล้วซึ่งพนักงานสอบสวนแจ้งความคืบหน้าเบื้องต้นว่า ขณะนี้ทราบตัวคนขับรถเก๋งคนดังกล่าวแล้วและจะออกหมายเรียกให้มาพบพนักงานสอบสวนในวันนี้ ซึ่งตนก็จะเดินทางมาพบในช่วงหลังบ่ายสองวันนี้เช่นกัน
ลุงยุทธพงศ์ ระบุอีกว่า ตนรู้สึกแย่มาก ตลอด 30 ปีที่ผ่านมาที่ตนขับรถแท็กซี่ ตนเคยถูกมอเตอร์ไซต์ชนแค่ครั้งเดียวเมื่อหลายปีก่อน ครั้งนี้ถือว่าหนักและแย่ที่สุด อีกทั้งมองว่า คนขับรถเก๋งมีเจตนาตั้งใจจะหลบหนีและเชื่อว่าเมาแล้วขับแน่นอน ซึ่งไม่ควรเป็นเช่นนั้น เพราะเขาควรจะต้องลงมาดูเหตุการณ์มากกว่า
ด้าน พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก. สน.ห้วยขวาง กล่าวถึงกรณีรถเก๋งชนแท็กซี่กลางถนนรัชดาภิเษก ว่า จากการสืบสวนเบื้องต้นพบว่า เหตุการณ์ครั้งนี้มีคู่กรณีจำนวน 3 คัน เป็นแท็กซี่ 2 คัน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเป็นรถที่ปรากฏในคลิป และรถเก๋งโตโยต้า คราวน์ สีขาวออกบรอนซ์ คันก่อเหตุ
พบว่าแท็กซี่เขียวเหลืองที่ปรากฏในคลิป ขับมุ่งหน้ามาจากแยกผังเมือง ก่อนเลี้ยวขวาแยกพระราม 9 เข้าสู่ถนนรัชดาภิเษกและพยายามเบี่ยงซ้ายมารับผู้โดยสารบริเวณด้านหน้าโลตัสพระราม 9 หรือฟอร์จูนทาวน์ ส่วนรถเก๋งคันก่อเหตุขับมุ่งหน้ามาจากดินแดง แล้วเลี้ยวซ้ายที่แยกพระราม 9 เข้าสู่ถนนรัชดาภิเษก ก่อนจะมาขับพุ่งชนรถแท็กซี่เขียวเหลืองคันดังกล่าว
จากนั้นรถเก๋งคันก่อเหตุ ได้ขับมุ่งหน้าตรงไปยังแยกเทียนร่วมมิตร ซึ่งได้เฉี่ยวชนรถแท็กซี่อีก 1 คัน บริเวณด้านหน้าตึก RS ก่อนที่แท็กซี่เขียวเหลืองจะสามารถมาปาดหน้าดักสกัดได้ทันบริเวณด้านหน้าห้าง แล้วก็เกิดเหตุการณ์ดังที่ปรากฏในคลิป ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บและโชคดีที่มีพลเมืองดีในพื้นที่สามารถบันทึกคลิปเอาไว้ได้
หลังเกิดเหตุ คนขับรถแท็กซี่ผู้ได้รับความเสียหายได้เข้ามาแจ้งความกับพนักงานสอบสวนเป็นที่เรียบร้อย เบื้องต้น สามารถพิสูจน์ทราบรถเก๋งคันก่อเหตุได้แล้วว่าใครเป็นผู้ครอบครอง แต่ยังไม่สามารถพิสูจน์ทราบได้ว่า ผู้ครอบครองรถกับคนขับในวันก่อเหตุเป็นคนเดียวกันหรือไม่
ทั้งนี้ พบว่าผู้ครอบครองเป็นชายไทย อายุประมาณ 40 ปี แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถติดต่อได้ ตนจึงได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนเร่งออกหมายเรียกผู้ครอบครองรถมาให้กันที่สถานีตำรวจและสั่งการชุดสืบสวนให้ติดตามตัวผู้ครอบครองรถคนดังกล่าวแล้ว
เบื้องต้นเตรียมแจ้งข้อหาผู้กระทำความผิดในข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย, ข้อหาชนแล้วหนี, และข้อหาทำให้เสียทรัพย์ ส่วนจะมีการแจ้งข้อหาเมาแล้วขับหรือไม่ ต้องรอให้ได้ตัวคนขับรถผู้ก่อเหตุก่อนถึงจะนำมาตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์และผู้ร่วมพยานหลักฐานดำเนินคดีต่อไป
ล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น. นายวิญญู อายุ 42 ปี คนขับรถแท็กซี่สีชมพู หนึ่งในรถที่ถูกรถเก๋งคันสีขาวเฉี่ยวชนบริเวณถนนรัชดาภิเษก เมื่อคืนที่ผ่านมา ได้เดินทางเข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง
นายวิญญู กล่าวว่า เมื่อคืนนี้ประมาณ 4 ทุ่มกว่า ๆ ขณะที่ตนกำลังขับรถบนถนนรัชดาภิเษกเลนที่ 3 ปรากฏว่าตนได้ยินเสียงรถเก๋งคันสีขาวขับตามมาข้างหลังด้วยความเร็วสูงและมีการบีบแตร ก่อนจะมาเบียดเฉี่ยวชนกับรถของตนบริเวณฝั่งด้านคนขับ แล้วรถเก๋งก็ขับพุ่งตรงไปยังสามแยกเทียนร่วมมิตร โดยมีแท็กซี่เขียวเหลืองขับไล่ตามมาด้วย
พอมาถึงบริเวณหน้าห้างดังย่านรัชดา ก็เห็นว่ารถแท็กซี่เขียวเหลืองได้ขับปาดหน้าขวางรถเก๋งคันสีขาว ก่อนจะพุ่งชนกันตามที่ปรากฏในคลิป ซึ่งรถแท็กซี่ของตนที่ขับตามมา ก็ได้แต่จอดห่าง ๆ เพราะกลัวจะถูกลูกหลง เมื่อรถเก๋งสีขาวได้ขับหนีออกไป ตนก็พยายามขับตาม แต่ตอนนั้นก็ไม่สามารถทำความเร็วได้มาก เนื่องจากยังมีรถในปริมาณมาก ก่อนตามกันลงอุโมงค์แยกห้วยขวาง พอขึ้นจากอุโมงค์ก็เห็นว่ารถเก๋งสีขาวคันดังกล่าวหายไปแล้ว
เท่าที่ตนสังเกตเห็น รถเก๋งคันสีขาวขับมาด้วยความเร็วสูงมากเหมือนกำลังหนีอะไรบางอย่าง ขนาดตนที่ขับไล่ตามด้วยความเร็ว 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็ยังขับตามไม่ทัน แต่ก็ไม่เห็นว่ามีลักษณะของการขับส่ายไปส่ายมา สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถของตนนั้น เป็นรอยถากยาวบริเวณฝั่งที่นั่งคนขับ ทั้งนี้ตนเชื่อว่า คนขับรถเก๋งน่าจะเมาแล้วขับ
ส่วนตัวอยากเรียกร้องให้คนขับรถเก๋งมารับผิดชอบและถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ไม่ใช่ขับชนแล้วหนีแบบนี้ เขาน่าจะจอดดูหรือแสดงความรับผิดชอบสักหน่อย ทำตัวเหมือนกับว่าเป็นคนใหญ่คนโต
เปิดใจ ลุงยุทธพงศ์ คนขับรถแท็กซีเขียว-เหลือง คันในคลิป เล่านาทีระทึก