ปวดหลังตรงไหน เป็นโรคอะไร อาการปวดหลังแบบไหนอันตราย

Home » ปวดหลังตรงไหน เป็นโรคอะไร อาการปวดหลังแบบไหนอันตราย
ปวดหลังตรงไหน เป็นโรคอะไร อาการปวดหลังแบบไหนอันตราย

เมื่อคนรอบตัวหลายคนเริ่มบ่นโอดโอยกับ “อาการปวดหลัง ถึงขั้นรบกวนการนอนหลับพักผ่อนตอนกลางคืน การนั่งทำงานตอนกลางวัน รวมไปถึงนั่งดูทีวีอยู่เฉยๆ ที่บ้านยังปวด เราเลยรู้สึกว่าเป็นหน้าที่ของเราที่จะไปค้นคว้หาข้อมูลมาให้ว่าอาการปวดหลังมีสาเหตุมาจากอะไรได้บ้าง แล้วก็ต้องแปลกใจว่า แต่ละบริเวณที่ปวด ก็มีสาเหตุของโรคต่างๆ ที่ต่างกันไปด้วย

ปวดหลังตรงไหน เป็นโรคอะไร? 

  1. ปวดตามแนวกระดูกสันหลัง

    หากมีอาการปวดกลางหลัง โดยอาจไล่ตั้งแต่บนลงล่าง แต่เป็นบริเวณกลางหลังพอดิบพอดี สันนิษฐานได้ว่าเกิดอาการผิดปกติขึ้นกับกระดูกสันหลัง หมอนรองกระดูก หรือเอ็นยึดระหว่างกระดูกสันหลัง เกิดจากการก้มๆ เงยๆ ยกของหนัก หรือมีอาชีพที่ต้องถือของหนักๆ อยู่นานๆ เช่น ช่างภาพ คนงานก่อสร้าง ผู้ใช้แรงงานที่ต้องถือของ-ส่งของหนักๆ ไปตามที่ต่างๆ เป็นต้น หรืออาจเป็นพนักงานที่ต้องนั่งทำงานอยู่ในท่านั่งเดิมเป็นเวลานาน แล้วไม่ค่อยได้เปลี่ยนอิริยาบถ

  1. ปวดหลังช่วงบน ใกล้ไหล่ ลำคอ ท้ายทอย

    ปกติแล้วหากใครมีอาการปวดในบริเวณนี้ มักเกิดจากการนั่งทำงานในท่าที่ไม่เหมาะสม หรือในสถานที่ๆ ไม่เหมาะสม เช่น โต๊ะทำงาน และเก้าอี้ทำงานไม่สัมพันธ์กับสรีระร่างกาย จึงทำให้การจัดระเบียบร่างกาย ท่านั่งในการทำงานผิดปกติ เช่น อยู่ในท่ายกไหล่อยู่ตลอดเวลา จึงส่งผลทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยบริเวณตั้งแต่หัวไหล่ กล้ามเนื้อช่วงหลังตอนบน ไปจนถึงไหล่ใกล้ต้นคอได้ 

back-ache-2iStock

  1. กล้ามเนื้อหลังช่วงกลาง ด้านซ้าย-ขวา

    ส่วนนี้เป็นกล้ามเนื้อหลัง ที่อยู่ถัดไปทางด้านซ้าย หรือขวาจากช่วงกระดูกสันหลัง อาจมีสาเหตุมาจากอุบัติเหตุจากการออกกำลังกาย เล่นกีฬา การขยับร่างกายผิดท่าในจังหวะอันรวดเร็วจนเกิดอาการกล้ามเนื้ออักเสบ หากมีสาเหตุจากปัจจัยเหล่านี้ อาการปวดจะค่อยๆ ดีขึ้นเมื่อพักการใช้งานกล้ามเนื้อส่วนนั้นสักระยะ

  1. ปวดหลังช่วงล่าง

    หลังช่วงล่างเป็นบริเวณหลังที่อยู่ตั้งแต่ช่วงระดับสะดือลงไป อาจจะยาวไปจนถึงสะโพก หรือต้นขา มีทั้งการปวดๆ หายๆ เป็นพักๆ หรือปวดอย่างต่อเนื่อง โดยมีสาเหตุอาการปวดหลายประการ ตั้งแต่อายุที่สูงขึ้น (30 ปีขึ้นไป) น้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน ขาดการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง นั่งๆ นอนๆ ทั้งวัน ทำงานชีพที่ต้องยกของหนัก หรือเล่นกีฬาที่ใช้หลังมาก เช่น มวยปล้ำ โรคกระดูกพรุน รวมไปถึงหญิงตั้งครรภ์ที่ต้องรับน้ำหนักของบุตรรในครรภ์หลายเดือน

  1. ปวดหลังบริเวณเอว

    บริเวณที่ปวดจะอยู่บริเวณเอว ที่ค่อนไปทางด้านหลังเล็กน้อย มีสาเหตุคล้ายกับอาการปวดหลังบริเวณอื่นๆ ตั้งแต่การใช้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นหนักจากการยกของหนักเป็นเวลานาน การออกกำลังกาย หรือเล่นกีฬาที่ใช้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นมากๆ เช่น กอล์ฟ อุบติเหตุเล็กๆ น้อยๆ การตั้งครรภ์ รวมไปถึงสภาพจิตใจซึมเศร้าที่ส่งผลถึงต่อความตึงเครียดของกล้ามเนื้อที่ขาดการยืดหยุ่น

back-ache-3iStock

อาการปวดหลัง แบบไหนอันตราย?

อาการปวดหลังที่เกิดจากการอักเสบของกล้ามเนื้อ โดยอาจเกิดจากการใช้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นมากเกินไป หรือเกิดอุบติเหตุเล็กๆ น้อยๆ อาจจะหายได้เองหากงดการใช้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นสักพัก หรือมียาทาภายนอกที่ช่วยลดอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ แต่หากมีอาการปวดหลังที่พ่วงด้วยอาการอื่นๆ ดังต่อไปนี้ ควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการตรวจเช็คอย่างละเอียด

  • มีอาการปวดที่เดิมๆ อย่างต่อเนื่องมากกว่า 6 สัปดาห์
  • ปวดมากจนรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ อาการไม่ทุเลาลง
  • ปวดแบบเจ็บแปลบจิ๊ดๆ เหมือนเข็มจิ้ม
  • ปวดร้าวยาวลงไปจนถึงต้นขา จนอาจมีอาการขาอ่อนแรง ปวดปลีน่อง จนทำให้เดินลำบาก หรือเดินได้นิดหน่อยก็ปวด
  • ปวดบริเวณก้นกบ ที่ไม่ได้มีสาเหตุมาจากอุบัติเหตุ
  • มีอาการปวดปัสสาวะแสบขัด มีสีขุ่น หรือมีไข้ ร่วมกับอาการปวดหลังบริเวณเอว (อาจเป็นอาการเริ่มต้นของอาการนิ่วในไต หรือไตอักเสบ)
  • ปวดจนขา หรือเท้ามีอาการชา
  • เคลื่อนไหวอย่างอิสระไม่ได้ เช่น ก้มตัว ยืดตัวตรง
  • กลั้นปัสสาวะ หรืออุจจาระเริ่มไม่ค่อยอยู่ 

หากไม่สามารถหาสาเหตุของอาการปวดหลังได้ และยังมีอาการปวดหลังอย่างต่อเนื่องมากกว่า 6 สัปดาห์ ควรปรึกาแพทย์เพื่อทำการตรวจโดยละเอียด เพื่อสาเหตุที่แท้จริง และแก้ไขปัยหาตั้งแต่ต้นเหตุจะดีที่สุดค่ะ เพราะถึงทานยาคลายกล้ามเนื้อ ทายาแก้ปวดภายนอกหมดไปมากเท่าไร อาการอาจไม่ดีขึ้นหากเราไม่ทราบปัญหาที่เกิดขึ้นจริง

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ