ได้ออกมาเปิดใจเคลียร์อย่างเป็นทางการสักที สำหรับ ฮาย ธันวา หรือ ฮาย Paper Planes สมาชิกดูโอ้ของเพลงฮิต ทรงอย่างแบด เมื่อชื่อของเจ้าตัวถูกโยงกับกระแสข่าวดราม่า “คบซ้อน” หลังอดีตสาวคนรักออกมาเปิดใจกลางรายการบนช่องยูทูบ จนกลายที่ทอล์กออฟเดอะทาวน์สนั่นโลกโซเชียลฯ
โดยงานนี้นอกจากที่ ฮาย ธันวา จะออกมาชี้แจงชัดเจนถึงประเด็นร้อนดังกล่าว กลางงาน PAPER PLANES FLASH MOB ณ ลานพาร์คพารากอน ศูนย์การค้าสยามพารากอน ให้บรรดาชาวเน็ตได้หายสงสัยแล้ว เจ้าตัวก็ยังกล่าวว่าทิ้งท้ายด้วยว่า ไม่ได้ซีเรียสหากใครจะตีความสถาการณ์ที่เกิดขึ้นไปในทิศทางไหน แต่ขอแค่ให้แสดงความเห็นในพื้นที่ที่เหมาะสม และไม่รบกวนครอบครัวของตนเอง หรือคนใกล้ชิดก็พอ…
จริงๆ เรื่องราวมันก็สักประมาณ 6-7 ปีแล้ว มันนานมากจนผมจำดีเทลได้บางส่วน เอ่อ… ณ วันนี้ จริงๆ ผมกับแฟนเก่าคนนั้น เราก็ยังคุยกันอยู่ ยังคุยกันในฐานะเพื่อน ยังโทรคุยกัน ก็เลย เอ่อ… คือพอมันเกิดข่าวแบบนี้ขึ้นมา ก็แอบเอ๊ะ! นิดหนึ่งครับ ว่าทำไมเกิดข่าวอะไรแบบนั้น และสำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นมันก็มีส่วนที่มันถูก และมีส่วนที่สื่อสารผิดก็เยอะ อีกอย่างด้วยความที่ปกติแล้วผมไม่ใช่คนโซเชียลฯ ดังนั้นการที่ผมจะออกมาพูดอะไรเรื่องความสัมพันธ์ มันเลยไม่ค่อยใช่ตัวผม เพราะผมรู้สึกว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น เราได้คุยกันภายในแล้ว ตั้งแต่ 6-7 ปีที่แล้ว แล้วแหละครับ และอยากจะบอกด้วยว่า ข่าวบางส่วนมันก็มีการสื่อสารผิดพลาดไปเยอะเช่นกัน เพียงแต่ผมไม่อยากแก้ต่าง
เสียใจไหมที่คนตัดสินเราไปแล้ว ทั้งๆ ที่ยังไม่เคยได้ฟังเราพูด ?
ผมรู้สึกเหมือนเมื่อก่อนเลยครับ คือตอนที่ผมคบกับแฟนอีกคนหนึ่ง แล้วผมก็โดนบูลลี่เรื่องหน้าตา ตอนนั้นผมก็เลิกเล่นโซเชียลฯ ไปเลยนะ คือเหมือนเขาไม่แม้แต่จะรอฟังความจากอีกฝ่ายเลย อารมณ์แบบดูรายการ ดูการให้สัมภาษณ์ แล้วก็เข้ามาด่าเลย ตัดสินเลย แต่สำหรับผมนะครับ ผมเป็นสไตล์นี้จริงๆ คือจะเลิกกับใคร ดังไม่ดัง ผมไม่เคยออกมาพูด เพราะว่าผมมีเป้าของผมก็คือ ผมแค่ใช้ชีวิต และผมก็เชื่อด้วยว่าคนที่เสพข่าวจริงๆ เขาจะไม่ตัดสินเร็ว แต่เขาจะดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น ซึ่งไทม์ไลน์ต่างๆ มันมีอยู่ในโซเชียลฯ อยู่แล้ว
มีอะไรที่เราอยากอธิบายไหมว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่แบบที่คนเขาคิดกันไปเอง ?
แว่บหนึ่งก็มีครับ แต่เท่าที่ผมวิเคราะห์นะครับ คนอ่านข่าวเขามีแค่ 2 ประเภท คืออ่านเพื่อรับข่าวจริงๆ กับ ใครชนะฉันอยู่ข้างนั้น ซึ่งการที่ผมออกมาพูดมันก็เหมือนเป็นการทำให้คอนเทนต์ตรงนี้มันคงอยู่ และให้คนได้สนุกกันไปเรื่อยๆ การที่เราออกมาพูดความจริงไม่ค่อยมีประโยชน์ หรือการไปแก้ต่างในข้อไหนก็ตาม เรื่องความรักทุกคนรู้อยู่แล้วว่ามันมีแง่มุมที่หลากหลาย ผมคิดแบบนั้นนะ และอย่างที่บอกตั้งแต่ต้นเลยครับ เรายังคุยกันอยู่ ล่าสุดผมก็เพิ่งจะไปเปลี่ยนโปรโมชั่นเบอร์โทรศัพท์ให้เขาอยู่เลย
งงไหมว่าทำไมอยู่ดีๆ ก็เกิดประเด็นนี้ขึ้น ทั้งๆ ที่มันก็นานมากแล้ว ?
ผมว่าน่าจะเป็นข่าวมาจากผลพวงอีกคนหนึ่ง คือคนอคติกับน้องเขาแล้ว การที่ผมจะออกไปแก้ต่างคือคนจะไม่ค่อยเชื่อ เพราะว่าน้องคนนั้นทำแบบนั้น ก็ต้องทำแบบนี้แหละ แล้วการที่ผมออกไปตอนนี้ไม่มีประโยชน์ เรื่องมันผ่านมาแล้ว 6-7 ปี แล้ว มันนานมาก แผมได้คุยกันหมดแล้ว เป็นเพื่อนกันแล้ว เป็นเพื่อนประเภทที่โทรกันได้ปกติ แล้วผมจะมาสร้างความอีกเพื่ออะไร มันไม่ใช่เรื่องของผมกับน้องเขาแล้ว มันเป็นเรื่องของคนอื่นที่เขาอยากจะรู้ความจริงมากกว่า และจริงๆ มันเป็นเรื่องส่วนตัวนะ ผมก็เลยอยากเก็บไว้ให้เป็นเรื่องส่วนตัวบ้าง ผมไม่ได้เล่นโซเชียลฯ”
เราเป็นดาราก็ต้องอยู่กับโซเชียล ?
ผมบอกก่อนนะ ผมไม่เคยปฏิบัติว่าผมเป็นดารา และความสัมพันธ์ที่ผ่านมาอย่าคิดว่าการที่ผมเลิกกันกับใคร เพราะคิดว่าคนนั้นคือดารา แต่ผมปฏิบัติกับทุกคนเท่ากัน ผมพูดกับทุกคนเสมอ เวลามีคนพูดว่าอยากจีบคนนั้นคนนี้ ก็จีบเลย คนทุกคนเท่ากัน เพราะฉะนั้นที่ผมจะบอกก็คือ ทุกความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นผมไม่เคยเลือกใครเพราะใครดังกว่า หรือว่าฮอตกว่า และตัวเขาเองก็น่าจะรู้ว่าความรักครั้งนั้นของผม ผมตั้งใจมาก ถ้านึกย้อนกลับไปผมตั้งใจมากๆ จำได้ว่าเราทำเต็มที่กันแล้วทั้งคู่ ดังนั้นเมื่อถึงวันที่ต้องเลิกกัน มันไม่มีเหตุผลใดนอกจากตัวเราทั้งคู่”
แสดงว่ามีภูมิคุ้มกันกับโซเชียลแล้ว ?
ผมเลือกที่จะไม่สนใจมากกว่า เอ่อ… ผมเปลี่ยนใครไม่ได้จริงๆ แล้วยิ่งจำนวนเยอะผมยิ่งเปลี่ยนไม่ได้เลยครับ
ได้เข้าไปอ่านคอมเมนต์บ้างไหม ?
เข้าไปดูบ้างเหมือนกันครับว่าคนเขาตีความยังไง แต่ว่าสุดท้ายผมก็ไม่ได้ทำอะไร เพราะผมขอแค่เขาไม่มาวุ่นวายกับครอบครัวผม ผมก็โอเคแล้ว และผมคิดว่าสิ่งนี้มันควรเป็นมาตรฐานในเรื่องของความเป็นส่วนตัว เอาแค่ศิลปินละกันนะครับ ผมคิดว่าศิลปินไม่จำเป็นต้องตีแผ่เรื่องราวส่วนตัวขนาดนั้น ควรแก้ปัญหาให้ตรงเหตุถ้าเราทะเลาะกับใคร มีเรื่องกับใคร เราควรแก้กับเขา ไม่ใช่แค่มาขอโทษหน้ากล้อง ควรขอโทษต่อหน้าเขา และผมทำสิ่งนั้นแล้ว ปรับความเข้าใจ ได้คุยกันแล้ว มันจบแล้ว ให้สังเกตผมไม่เคยให้สัมภาษณ์เรื่องใครเลยแม้ผมจะโดนมาขนาดไหนก็ตาม”