สืบเนื่องจากกรณีที่เป็นข้อวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียล ณ ขณะนี้กับ อาจารย์น้องไนซ์ อาจารย์เด็กวัย 8 ขวบ ที่มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย โดยทุกคนนั้นมีความเชื่อว่า อาจารย์น้องไนซ์ มีความสามารถในการ เชื่อมจิต โดยการวิพากษ์วิจารณ์นี้ ก็แตกไปในหลายความเห็น ด้วยความที่เป็นเรื่องของความเชื่อจึงมีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ซึ่งทางด้านกลุ่มคนที่สนับสนุน อาจารย์น้องไนซ์ ต่างมองว่ากระแสลบที่เกิดขึ้นในตอนนี้ เกิดจากผู้ไม่หวังดี ที่ตั้งใจปั่นกระแส
ล่าสุด วานนี้ 21 ธันวาคม 2566 ทนายดังอย่าง ทนายธรรมราช ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวถึงประเด็นดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ทนายธรรมราช The Lawyer of legality. โดยทนายธรรมราช นั้นมองต่างจากหลายๆคน ว่าแท้จริงประชาชนควรส่งเสริมการสอนธรรมะของน้องไนซ์ เพราะเด็กอายุเพียงเท่านี้ แต่สามารถเข้าใจแก่นแท้ของหลักธรรมได้ขนาดนี้ หาไม่ได้ง่ายๆ จึงอยากให้หลายๆคนที่ยังมีข้อสงสัย หันมาสนับสนุน ซึ่งทนายธรรมราชนั้นระบุข้อความว่า
- เร่งสอบ! อาจารย์เด็กคนดัง เชื่อมจิต ล่อศรัทธาผิดกฎหมายหรือไม่
- ทีมกฎหมาย อาจารย์น้องไนซ์ เอาจริง จ่อร้อง กสทช. เอาผิดสื่อสารมวลชน
- แพรรี่ ห่วง ‘น้องไนซ์’ ซัด! ผู้ใหญ่ ควรดูแลเด็ก อย่าปล่อยให้เชื่อแบบผิดๆ
ชื่นชม อ.น้องไนซ์
การที่ อ.น้องไนซ์ พูดคำว่าขอให้ใช้กฎหมายคุ้มครอง “กายสังขาร” นั้น #ไม่ได้มีตัวบทกฎหมายข้อใดบัญญัติไว้ว่าห้ามใช้หรือห้ามพูดคำๆนี้ อ.น้องไนซ์เด็กอายุเพียง 8 ขวบทำหน้าที่สอนธรรมะและนำพาผู้คนสู่การปฎิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ควรส่งเสริมและให้การสนับสนุนการสอนธรรมะของ อ.น้องไนซ์
เพื่อให้เกิดการต่อยอดทางปัญญา ในการเข้าถึงแก่นแท้แห่งธรรม สืบทอดพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองสืบไปอย่างไม่ขาดสาย ไม่ควรท่องจำตามตำรา หรือคัดลอกธรรมะจากอินเตอร์เน็ตมาเพื่อชี้ผิดหรือชี้ถูกสั่งสอนคนอื่นเป็นการไม่สมควร
อ.น้องไนซ์ เป็นเด็กอายุเพียง 8 ขวบ สามารถเข้าใจในแก่นแท้ของหลักอริยะสัจ 4 และยังสามารถถ่ายทอดไปสู่ผู้ปฎิบัติเป็นจำนวนหลายร้อยหลายพันคน จนท่านเหล่านั้นสามารถนำไปต่อยอดการนั่งสมาธิน้อมจิตพิจารณาให้เกิดความสงบทางอารมณ์ได้ ดังนั้น การเรียนรู้นำสู่การปฎิบัติน้อมจิตพิจารณา คือการเข้าถึงแก่นแท้แห่งธรรมอย่างแท้จริง
ขณะที่ อดีตพระไพรวัลย์ วรรณบุตร หรือ แพรรี่ ไพรวัลย์ ในช่วงก่อนหน้านี้ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวถึงประเด็นดังกล่าวเช่นเดียวกัน โดย แพรรี่ นั้นมองว่า
การที่เด็กอายุเท่านี้สนใจเรื่องศาสนา ดิฉันถือว่าเป็นเรื่องที่ดีนะคะ แต่ไม่ใช่ด้วยท่าทีและวิธีการแบบที่ปรากฏอยู่ในคลิปนี้หรืออีกหลายๆ คลิปอย่างที่ดิฉันเห็นในติ๊กต็อก หลายๆ เรื่องที่น้องพูด ดูแล้วล้วนเป็นเรื่องของการชี้นำการถามนำ และการมุ่งหวังผลในคำตอบจากผู้ใหญ่ ที่มีความเชื่อเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเสียเองนะคะ และจากที่ฟัง ก็เหมือนกับว่า ตัวน้องเอง เขาก็ตอบไปเรื่อยแบบส่งเดชของเขา ตอบไปตามประสาความเข้าใจอันจำกัด และจินตนาการเท่าที่จะคิดได้ของเด็กคนหนึ่งเท่านั้น ไม่มีอะไรที่ดูเป็นเหตุเป็นผลหรือสอดคล้องกับหลักการของศาสนาเลยค่ะ