ถือเป็นคดีใหญ่ที่สะเทือนสังคมไทยอยู่ไม่น้อย สำหรับ “คดีน้องชมพู่” เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ที่ถูกพบเสียชีวิตในป่าภูเหล็กไฟ ในจังหวัดมุกดาหาร ก่อนจะกลายเป็นมหากาพย์เรื่องราววุ่นวายหลังจากนั้น ทั้งการแกะรอตามหาคนร้ายที่คนทั้งประเทศให้ความสนใจ ไปจนถึงปรากฏการณ์ “ลุงพลฟีเวอร์” ที่กลายเป็นคนดังเพียงชั่วข้ามคืน ก่อนลุงพลจะถูกจับกุมและถูกศาลพิพากษาจำคุก 20 ปีในวันนี้ (20 ธ.ค. 2566) 

• เปิดคำพิพากษา จำคุก “ลุงพล” รวม 20 ปี “ป้าแต๋น” รอด รายละเอียดเป็นอย่างไร
• ย้อนผลงาน ลุงพล-ป้าแต๋น ได้แสงโด่งดังจากคดีน้องชมพู่ คนดูก็มาก คนด่าก็เพียบ

Sanook พาทุกคนย้อนรอยดู “คดีน้องชมพู่” คดีดังที่สร้างความสะเทือนใจให้ใครหลายคน พร้อมทิ้งคำถามเรื่องการทำงานของสื่อกับการฉายสปอตไลต์ไปที่ผู้ต้องสงสัยในคดีความ

การเสียชีวิตของน้องชมพู่

ช่วงเช้าของวันที่ 11 พฤษภาคม 2563 “น้องชมพู่” เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ได้หายตัวออกจากบ้านไปอย่างเป็นปริศนา กระทั่งวันที่ 14 พฤษภาคม 2563 มีชาวบ้านพบศพน้องอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า บนเขาในป่าภูเหล็กไฟ ซึ่งมีระยะทางห่างจากบ้านถึง 2 กิโลเมตร 

หลังการชันสูตรพลิกศพเด็กหญิง แพทย์ไม่พบร่องรอยถูกทำร้ายและล่วงละเมิดทางเพศ แต่พบบาดแผลตามร่างกายและอวัยวะเพศ อย่างไรก็ตาม แพทย์ระบุว่าไม่สามารถระบุสาเหตุการเสียชีวิตได้

คนไทยรับบทนักสืบ

การเสียชีวิตของน้องชมพู่ที่เป็นปริศนา เพราะไม่มีคำตอบที่ชัดเจนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์ ทำให้เกิดปรากฏการณ์ “นักสืบหน้าจอ” เมื่อคนส่วนใหญ่ร่วมกันแสดงความคิดเห็นต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สอดคล้องกับความน่าสงสัยหลายอย่างของคดี ก็ทำให้คนบางส่วนพุ่งเป้าไปที่พี่สาวและพ่อแม่ของน้องชมพู่ ว่าอาจวางแผนฆาตกรรมลูกของตัวเอง ขณะที่บางส่วนก็สงสัยใน “ลุงพล”  ไชย์พล วิภา ซึ่งเป็นคนที่ใกล้ชิดกับน้องชมพู่มากที่สุด

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ออกมาระบุว่าอย่าตัดสินว่าใครคือฆาตกร แต่ขอให้รอผลการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ก่อน 

ในช่วงนั้นเกิดทฤษฎีสมคบคิดมากมายในโลกโซเชียล เช่นเดียวกับกองทัพสื่อมวลชนที่ยกโขยงกันไปที่ “บ้านกกกอก” เปลี่ยนฉากการเสียชีวิตของเด็กหญิงวัย 3 ขวบ ให้กลายเป็น “รายการเรียลลิตี้” และผู้ต้องสงสัยถูกทำให้กลายเป็นตัวละครที่ผู้ชมคอยส่งกำลังใจเชียร์

ปรากฏการณ์ “ลุงพลฟีเวอร์”

แม้จะถูกสงสัยว่าลุงพลคือฆาตกรตัวจริง และประชาชนบางส่วนก็ปักใจเชื่อว่าลุงพลมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของน้องชมพู่อย่างแน่นอน แต่สังคมก็ฉายสปอตไลต์และให้ความสนใจไปที่ลุงพลเช่นกัน เนื่องจากคนบางกลุ่มมองว่าลุงพลไม่ใช่คนผิด ยังไม่มีหลักฐานที่ชี้ว่าลุงพลเป็นฆาตกร มีเพียงการคาดเดาของคนในสังคม จนเกิดเป็น #Saveลุงพล ขึ้นในโซเชียล ขณะที่สื่อมวลชนก็นำเสนอเรื่องราวของลุงอย่างละเอียด จนเกิดเป็นกระแส “ลุงพลฟีเวอร์” 

กระแสลุงพลฟีเวอร์ส่งผลให้ลุงพลกลายเป็น “เซเลบ” ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก ทั้งยังได้ร่วมร้องเพลงกับนักร้องคนดัง “จินตหรา พูนลาภ” โด่งดังเป็นพลุแตก มีรายได้จากการเป็นพรีเซนเตอร์และมีแฟนคลับเพิ่มมากขึ้น ทำให้ลุงพลตัดสินใจเปิดแชนแนลยูทิวบ์ของตัวเอง ชื่อ “ลุงพลป้าแต๋น แฟมิลี่” ที่มีคนดูหลายแสนในแต่ละคลิป

ผ่านไปหลายเดือนยังจับคนทำผิดไม่ได้

ขณะที่บ้านกกกอกกลายเป็นละครโรงใหญ่ของสังคมไทย ชาวเน็ตบางส่วนก็วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่แม้จะเกิดเหตุมาแล้ว 4 เดือน ก็ยังไม่สามารถตั้งข้อหาใครได้ โดยวันที่ 2 ตุลาคม 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แถลงความคืบหน้าของคดี ระบุช่วงเวลาการเสียชีวิตของน้องชมพู่และน้องชมพู่ไม่สามารถเดินขึ้นภูเขาได้ด้วยตัวเอง ก่อนจะแจ้ง “ยุติการทำคดีชั่วคราว” จนกว่าจะมีหลักฐานใหม่ ทั้งนี้ คดีนี้มีอายุความ 20 ปี

ระหว่างนั้นลุงพลก็ยังเดินหน้าทำงานบันเทิงต่อไป แต่ก็มีข่าวไม่ดีของลุงพลออกมาให้เห็นบ้าง เช่น คดีบุกรุกป่าสงวน หรือเหตุการณ์ทำร้ายนักข่าว จนกลายเป็นดราม่าใหญ่ เป็นต้น

1 ปีผ่านไป ตำรวจออกหมายจับลุงพล

กระทั่งเวลาผ่านไป 1 ปีเต็ม ก็มีความคืบหน้าคดีน้องชมพู่ออกมาอีกครั้ง เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแถลงข่าวพบเส้นขนในที่เกิดเหตุ ซึ่งหลังจากตรวจ DNA สามารถชี้ชัดได้ว่าใครอยู่กับน้องชมพู่ในวันนั้น 

จนวันที่ 1 มิถุนายน 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับ “ลุงพล” ใน 3 ข้อหา ประกอบด้วย

• พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา โดยปราศจากเหตุอันควร
• ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกิน 9 ปี เพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน โดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล เป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตาย
• กระทำการใดๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพ ก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป

ข้อหาที่แจ้งต่อลุงพลนั้น ไม่ได้ระบุว่าลุงพลเป็นฆาตกรที่ฆ่าน้องชมพู่ แต่เป็นข้อหาที่ระบุว่าลุงพลเป็นผู้ต้องสงสัยที่อาจทำให้น้องชมพู่เสียชีวิตทางอ้อม พร้อมกันนี้ยังมีการแจ้งข้อหากับป้าแต๋นอีกด้วย

ศาลพิพากษาจำคุกลุงพล

วันนี้ (20 ธ.ค. 2566) ศาลจังหวัดมุกดาหารได้อ่านคำพิพากษา ให้ลุงพลมีความผิดฐานกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ให้จำคุก 10 ปี และฐานพรากเด็กไปจากบิดามารดา ให้จำคุก 10 ปี และยกฟ้องป้าแต๋น