วันที่ 23 พ.ย. 2566 องค์การนามัยโลก หรือ World Health Organization (WHO) ได้มีการเผยแพร่แถลงการณ์เกี่ยวกับรายงานกลุ่มอาการป่วยทางเดินหายใจในเด็กทางตอนเหนือของจีน โดยระบุว่า “WHO ได้ส่งคำขอไปยังจีน เพื่อขอข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ และรายงานกลุ่มของโรคปอดบวมในเด็ก”
ซึ่งจากการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2566 ทางการจีนจากคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติรายงานถึง อุบัติการณ์ของโรคระบบทางเดินหายใจในจีนเพิ่มขึ้น
ทางการจีนถือเปิดเผยว่าการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ป่วนนี้เกิดจากการยกเลิกข้อปฏิบัติเกี่ยวกับโรคโควิด-19 และแพร่กระจายของเชื้อ เช่น ไข้หวัดใหญ่ โรคปอดบวมจากเชื้อไมโคพลาสมา (การติดเชื้อแบคทีเรียที่พบบ่อยซึ่งมักส่งผลกระทบต่อเด็กเล็ก) ไวรัสทางเดินหายใจ (RSV) และ SARS-CoV-2 (ไวรัสที่ทำให้เกิดโรคโควิด-19) ทางการจึงได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการปรับปรุงการเฝ้าระวังโรคในสถานพยาบาลและชุมชน พร้อมทั้งเสริมสร้างขีดความสามารถของระบบสุขภาพในการจัดการผู้ป่วย
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2566 สื่อและ ProMED รายงานกลุ่มของโรคปอดบวมที่ไม่ได้รับการวินิจฉัยในเด็กทางตอนเหนือของจีน ไม่ชัดเจนว่าสิ่งเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการเพิ่มขึ้นโดยรวมของการติดเชื้อทางเดินหายใจที่รายงานโดยทางการจีนก่อนหน้านี้ หรือเหตุการณ์ที่แยกจากกัน
- ดรามาฉ่ำ! ‘เต้าหู้ขน’ เมนูฮิตจากจีน สาวไทยบ่มขึ้นราดำ ลั่น ว่ากินได้?
- สว.อุปกิต โดน ป.ป.ส. อายัดทรัพย์ บัญชี – ที่ดิน 285 ล้าน พบมีนอกประเทศอีก
- ผวา! โรค ‘ปอดอักเสบลึกลับ’ ระบาดในจีน เตือนคนไทย หวั่นซ้ำรอย ‘โควิด’
ต่อมาวันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 WHO ขอข้อมูลทางระบาดวิทยาและทางคลินิกเพิ่มเติม ตลอดจนผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการจากกลุ่มเด็กที่รายงานเหล่านี้ ผ่านกลไกกฎระเบียบด้านสุขภาพระหว่างประเทศ
นอกจากนี้ องค์การอนามัยโลกยังขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวโน้มล่าสุดในการแพร่กระจายของเชื้อ รวมถึงไข้หวัดใหญ่ SARS-CoV-2 RSV และ mycoplasma pneumoniae และภาระในปัจจุบันต่อระบบการดูแลสุขภาพอีกด้วย
นอกจากนี้ WHO ยังติดต่อกับแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ผ่านทางความร่วมมือและเครือข่ายทางเทคนิคที่มีอยู่ในประเทศจีน ตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม ในพื้นที่ทางตอนเหนือของจีนรายงานว่ามีผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จีนมีระบบในการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มของโรคไข้หวัดใหญ่ โรคคล้ายไข้หวัดใหญ่ RSV และ SARS-CoV-2 และรายงานไปยังแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น ระบบเฝ้าระวังและตอบสนองต่อไข้หวัดใหญ่ทั่วโลก
แม้ว่า WHO จะค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเหล่านี้ แต่ขอแนะนำให้ประชาชนในประเทศจีนปฏิบัติตามมาตรการเพื่อลดความเสี่ยงของการเจ็บป่วยทางเดินหายใจ ซึ่งรวมถึงการฉีดวัคซีนที่แนะนำ รักษาระยะห่างจากผู้ที่ป่วย อยู่บ้านพักผ่อนเมื่อมีอาการป่วย และเข้ารับการรักษาพยาบาลหากจำเป็น รวมไปถึงการสวมหน้ากากอนามัยตามความเหมาะสม อยู่ในที่ที่มีการระบายอากาศที่ดี และล้างมือเป็นประจำ
ทั้งนี้ด้าน WHO จะมีการจับตาถึงสถานการณ์ดังกล่าวและอัปเดตข้อมูลต่อไป
ที่มา : WHO