หลังจากที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.การคลังได้เปิดเผย ถึงโครงการ “e-Refund” ที่ประชาชนจะได้รับภาษีคืน จากการจับจ่ายสินค้าและบริการ มูลค่ารวมไม่เกิน 50,000 บาทนั้น หลังจากที่ไม่เข้าเกณฑ์ เงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาทนั้น เพื่อปลอบใจ โดยโครงการนี้จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2567 และคาดระยะเวลาใช้จ่ายนาน 45 วัน หลังจากเริ่มโครงการ ซึ่งโครงการจะสิ้นสุดในวันที่ 15 ก.พ.2567
วันนี้พวกเราชาวไบรท์ทูเดย์ จะพามาทำความรู้จักเกี่ยวกับ e-Refund ในส่วนของ ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ที่จะต้องใช้ลดหย่อนภาษีในโครงนี้นี้ ว่าจริงๆแล้วมีลักษณะอย่างไร แล้วเมื่อเราจำเป็นจะต้องใช้ จะต้องแจ้งข้อมูลอะไรบ้าง เพราะ โครงการนี้จะส่งเสริมให้ผู้ประกอบการร้านค้า รวมถึงเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทยอีกด้วย
ใบกํากับภาษี (Tax Invoice) คืออะไร?
ใบกํากับภาษี (Tax Invoice) คือ เอกสารหลักฐานที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม มีหน้าที่ต้องจัดทำ และออกให้แก่ผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ ทุกครั้งที่ขายสินค้าหรือให้บริการ และต้องจัดทำอย่างช้าในทันทีที่ความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้น เพื่อแสดงมูลค่าของสินค้าหรือบริการ และจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ผู้ประกอบการเรียกเก็บหรือพึงเรียกเก็บ จากการขายสินค้าหรือให้บริการในแต่ละครั้ง
เว้นแต่ผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ขายสินค้าชนิดและประเภทเดียวกันให้แก่ผู้ซื้อสินค้ารายหนึ่งรายใดเป็นจำนวนหลายครั้งในหนึ่งวันทำการ ผู้ประกอบการจดทะเบียนดังกล่าวสามารถจัดทำใบกำกับภาษีรวมเพียงครั้งเดียวในหนึ่งวันทำการสำหรับผู้ซื้อสินค้ารายนั้นก็ได้
ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Tax Invoice คืออะไร?
ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) คือ เป็นเอกสารที่กรมสรรพากรกำหนดให้ผู้ประกอบการจัดทำใบรับ/ใบกำกับภาษีเพื่อเป็นหลักฐานในการขายสินค้าและการให้บริการทุกครั้ง เมื่อมีการชำระเงิน พร้อมทั้งต้องส่งมอบต้นฉบับใบรับ/ใบกำกับภาษีนั้น ในรูปแบบกระดาษให้แก่ผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ ซึ่งถือเป็นภาระต้นทุนส่วนหนึ่งในการดำเนินธุรกิจ ดังนั้น เพื่อส่งเสริมการทำธุรกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce) และดำเนินการภายใต้ พ.ร.บ. ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 กรมสรรพากรจึงได้พัฒนาระบบการออกใบรับ/ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์แทนรูปแบบกระดาษ เพื่อช่วยลดภาระต้นทุนและเพิ่มศักยภาพของผู้ประกอบการไทย อันเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในเวทีโลก
e-Tax Invoice หรือ ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ คือ ทางเลือกใหม่ ที่จะมาแทนใบกำกับภาษีแบบกระดาษที่คุ้นเคย ช่วยให้คุณไม่จำเป็นต้องจัดทำเอกสารที่ยุ่งยากอีกต่อไป สามารถส่งข้อมูลใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ถึงลูกค้าและกรมสรรพากรได้อย่างสะดวกรวดเร็วผ่านทางอีเมล์ เว็บไซต์กรมสรรพากร หรือส่งข้อมูลถึงเซิร์ฟเวอร์ของกรมสรรพากรโดยตรงได้เช่นกัน
- ‘ก้าวไกล-ศิริกัญญา’ เคลียร์ชัด! นโยบายแจกเงิน ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000
- พีระพันธุ์ เดือด! ‘น้ำมัน’ ไม่ใช่หุ้น ขึ้นลงทุกนาที แล้วให้ปชช.มาแบกรับ
- อัปเดต! คู่รักหนีทัวร์เกาหลี ล่าสุด ปลดบล็อกแล้ว แต่ขอเที่ยวต่ออีกนิด
รูปแบบของใบกำกับภาษี
- ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป
- ใบกำกับภาษีอย่างย่อ
- ใบกำกับภาษีอย่างย่อ ออกโดยเครื่องบันทึกการเก็บเงิน
รายละเอียดเพิ่มเติม : กรมสรรพกร
ความแตกต่างระหว่าง ‘ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์’ และ ‘ใบกำกับภาษีทั่วไป’
- รูปแบบ
ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ : เป็นไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถส่งหรือรับผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้
ใบกำกับภาษีทั่วไป : เป็นเอกสารกระดาษที่พิมพ์ออกมา - การลงลายมือชื่อ
ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ : มีการลงลายมือชื่อดิจิทัล ซึ่งเป็นเปรียบเสมือนลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในการยืนยันตัวตนและรับรองความถูกต้องของข้อมูล เพื่อป้องกันไม่ให้ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ถูกปลอมแปลงหรือแก้ไขข้อมูลได้
ใบกำกับภาษีทั่วไป : มีการลงลายมือชื่อด้วยปากกา ซึ่งอาจทำให้ใบกำกับภาษีทั่วไปถูกปลอมแปลงหรือแก้ไขข้อมูลได้ - ระบบรักษาความปลอดภัย
ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ : มีระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลสูญหายหรือถูกโจรกรรม เช่น ระบบการเข้ารหัสข้อมูล ระบบตรวจสอบสิทธิ์ และระบบป้องกันการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต
ใบกำกับภาษีทั่วไป : มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ขึ้นอยู่กับผู้ออกใบกำกับภาษี ซึ่งอาจไม่เข้มงวดเท่าใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ - การตรวจสอบข้อมูลใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และ ใบกำกับภาษีทั่วไป สามารถตรวจสอบข้อมูลได้
ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ : สามารถตรวจสอบข้อมูลได้ผ่านระบบบริการอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากร ซึ่งสะดวกและรวดเร็วกว่า
ใบกำกับภาษีทั่วไป : เป็นการตรวจสอบข้อมูลผ่านเอกสารกระดาษ
- การบันทึกข้อมูล
ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ : บันทึกข้อมูลในระบบบริการอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากร ซึ่งทำให้สามารถตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังได้
ใบกำกับภาษีทั่วไป : บันทึกข้อมูลในเอกสารกระดาษ ซึ่งอาจทำให้ข้อมูลสูญหายหรือถูกทำลายได้ - ระยะเวลาการเก็บรักษา ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบกำกับภาษีทั่วไปต้องเก็บรักษาอย่างน้อย 5 ปี
ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ : สามารถเก็บรักษาในระบบบริการอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากร ตลอดอายุภาษี ซึ่งสะดวกและประหยัดพื้นที่กว่า
ใบกำกับภาษีทั่วไป : เก็บรักษาในเอกสารกระดาษ อย่างน้อย 5 ปี
ที่มา : กรมสรรพกร