เคยสงสัยหรือไม่ว่า ทำไมคนที่อายุเท่ากันเพศเดียวกันแต่ดูสูงวัยต่างกัน นั่นเป็นเพราะบางคนมีอายุร่างกาย หรือ Body Age ที่นำอายุจริงไปไกลนั่นเอง
การเช็กอายุที่แท้จริงของร่างกาย พร้อมกับการเรียนรู้พฤติกรรมที่เป็นสาเหตุของการแก่ก่อนวัย จะช่วยให้รู้ได้ว่า อายุร่างกาย ต่างกับ อายุจริง แค่ไหน เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดสุขภาพเบื้องต้น เพื่อเป็นแนวทางวางแผนดูแลสุขภาพตัวเอง ทวงคืนอายุร่างกายให้กลับมาทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
แต่ก่อนที่จะเริ่มเช็กอายุที่แท้จริงของร่างกาย มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ อายุร่างกาย และความสำคัญของพฤติกรรมในชีวิตประจำวันที่ส่งผลต่ออายุร่างกายกันก่อน
อายุร่างกาย (Body Age)
ในแต่ละคนมีอายุถึงสองแบบ ได้แก่ อายุจริง ที่นับตามวันเดือนปีที่เกิด และ อายุร่างกาย (Body Age) คือ อายุสุขภาพที่มาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต เป็นตัวเลขที่บอกถึงสุขภาพหรือสภาวะการทำงานของร่างกายว่าเซลล์ในระบบการทำงานมีความเสื่อมสภาพมากน้อยขนาดไหน
คนที่มีสุขภาพดีมักจะมีอายุร่างกายน้อยกว่าหรือเท่ากับอายุจริง แสดงว่าร่างกายสามารถเผาผลาญพลังงานและการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกายมีประสิทธิภาพและแข็งแรงตามอายุหรืออ่อนกว่าช่วงวัย แต่ถ้าอายุร่างกายมากกว่าอายุจริง แสดงว่าร่างกายของคุณเกิดความเสื่อมสภาพก่อนวัย ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสี่ยงในการเกิดโรคในอนาคตได้
ทำไมถึงควรเช็กอายุร่างกาย
การเช็กอายุร่างกาย เป็นการประเมินถึงการทำงานของร่างกายเบื้องต้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและรูปแบบการใช้ชีวิต เพื่อลดโอกาสในการเกิดโรคต่างๆ ที่อาจตามมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสม
ทำไม Body Age ของเราถึงมากกว่าอายุจริง
สาเหตุหลักที่อายุร่างกายมากกว่าอายุจริง เกิดจากการใช้ชีวิตประจำวันที่ส่งผลต่อสุขภาพ เช่น กินอาหารรสจัด หวาน มัน เค็ม มากเกินไป น้ำหนักเกินเกณฑ์หรืออ้วนลงพุง ขาดการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
ยิ่งบวกกับพฤติกรรมเร่งแก่ เช่น การสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า มีภาวะเครียด นอนดึก ทั้งหมดก่อให้เกิดการเสื่อมสภาพของเซลล์ในร่างกาย จนอายุร่างกายสูงวัยกว่าอายุจริง หากไม่รีบหันมาใส่ใจสุขภาพอย่างจริงจัง อาจมีความเสี่ยงในการเกิดโรคกลุ่ม NCDS โรคหัวใจและหลอดเลือด เบาหวาน โรคอัลไซเมอร์ มะเร็ง เป็นต้น
วิธีเช็กอายุที่แท้จริงของร่างกายง่ายๆ
การเช็กอายุของร่างกาย เป็นการตรวจวัดค่าเพื่อประเมินการทำงานของร่างกายเบื้องต้น ก่อนคำนวณออกมาเป็นอายุที่แท้จริงของร่างกาย และเปรียบเทียบกับอายุจริงว่ามากกว่าหรือน้อยกว่าแค่ไหน โดยสามารถตรวจเช็กอายุร่างกายได้ 2 วิธีด้วยกัน ได้แก่
- เช็กอายุด้วยเครื่องมือ โดยเครื่องวัดองค์ประกอบร่างกายหรือ Body Composition Analyzer เป็นการวิเคราะห์ส่วนประกอบของร่างกาย และเช็กอายุของร่างกายด้วยการคำนวณเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกายและมวลกล้ามเนื้อ
- เช็กอายุจากแบบสอบถามด้านสุขภาพ ผ่านแบบทดสอบออนไลน์ ซึ่งสามารถดูอายุร่างกายได้ง่ายๆ ผ่านการตอบคำถามเพียง 7 ข้อ เพื่อรวบรวมข้อมูลสุขภาพเบื้องต้น เช่น พฤติกรรมด้านอาหารการกิน การออกกำลังกาย และอารมณ์ รวมถึงน้ำหนักตัวที่ใช้คำนวณค่าดัชนีมวลกาย (Body Mass Index: BMI) ฯลฯ ข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำมาประเมินเพื่อคำนวณเป็นอายุร่างกายออกมา
ถึงแม้ว่าอายุจริงจะมากขึ้นทุกปี แต่ทุกคนสามารถดูแลอายุร่างกายให้แข็งแรงขึ้นเรื่อย ๆ และไม่เพิ่มตามอายุจริงได้ ด้วยการเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และมีอารมณ์ที่ดี ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ด้วยการค่อยๆ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ร่างกายทำงานอย่างเต็มที่ มีสุขภาพแข็งแรงอย่างยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นสายชอบกิน สายทำงานหรือเรียนหนังสือ และสายพ่อบ้านแม่บ้าน