ในโลกแห่งการวิจัยความซับซ้อนของความทรงจำ กรณีของ “ไคลฟ์ แวริง” (Clive Wearing) ชายผู้มีความทรงจำ 7 วินาที ถือเป็นเรื่องราวที่ไม่ธรรมดา เรื่องราวของเขาวาดภาพที่สดใสของธรรมชาติที่เปราะบางของความทรงจำ และผลกระทบอันลึกซึ้งที่ความทรงจำอาจมีต่อชีวิตของคนเรา

“ไคลฟ์ แวริง” ชายที่เกิดในปี ค.ศ.1938 อดีตนักดนตรีที่ประสบความสำเร็จ และเป็นผู้ควบคุมวงในโบสถ์ เขาพบว่าตัวเองตกเป็นศูนย์กลางของความลึกลับทางการแพทย์ เมื่อการติดเชื้อไวรัสอย่างรุนแรงทำลายสมองของเขาในปี ค.ศ.1985 ผลที่ตามมาคือ เขาต้องตกอยู่ในภาวะความจำเสื่อมที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งที่เคยบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ ความทรงจำของเขาถูกจำกัดไว้เพียงไม่กี่วินาที ดังนั้นเขาอาจลืมว่าเขาอยู่ที่ไหนก่อนที่จะพูดจบประโยคด้วยซ้ำ เทียบได้กับการรีเซ็ตทุกครั้งที่เขากระพริบตา

• ปริศนาทางการแพทย์

กรณีของไคลฟ์ได้รับการตรวจโดยแพทย์ และนักประสาทวิทยาจำนวนมาก แม้ว่าสมองของเขาจะได้รับความเสียหาย แต่ความสามารถในการเล่นเปียโนและขับร้องประสานเสียงยังคงไม่บุบสลายไป ซึ่งแสดงให้เห็นวิธีการทำงานของความจำอันแปลกประหลาดในสมองของมนุษย์ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่กรณีของเขากลายเป็นความหลงใหล และการศึกษาอย่างเข้มข้นในสาขาประสาทวิทยา

ความจำเสื่อมมี 2 ประเภทหลักคือ “ความจำเสื่อมแอนเทอโรเกรด” หมายความว่า ผู้คนไม่สามารถสร้างความทรงจำใหม่ได้ และทำได้เพียงเก็บความทรงจำเก่าๆ เท่านั้น ซึ่งหมายความว่าความทรงจำนั้นติดอยู่ที่ไหนสักแห่ง ส่วน “ความจำเสื่อมถอยหลังเข้าคลอง” หมายความว่า ผู้คนสูญเสียความทรงจำเก่าๆ แต่สามารถสร้างความทรงจำใหม่ได้ เหมือนกับการถูกรีเซ็ต

น่าเสียดายที่ไคลฟ์ไป่วยเป็นโรคความจำเสื่อมทั้งสองประเภทในเวลาเดียวกัน ดังนั้น เขาจึงลืมทุกอย่างก่อนหน้านี้และไม่สามารถสร้างความทรงจำใหม่ได้

• การใช้ชีวิตในปัจจุบัน และผลกระทบทางอารมณ์

ชีวิตของไคลฟ์เหลือเพียงช่วงเวลาที่ไม่ต่อเนื่องกัน เนื่องจากเขาขาดความสามารถในการสร้างความทรงจำใหม่ๆ เขาไม่ทราบถึงอาการป่วยของตัวเองด้วยซ้ำ โดยยังคงเชื่อว่าเพิ่งฟื้นจากอาการโคม่า แม้จะผ่านมาหลายปีหลังจากการติดเชื้อครั้งแรกก็ตาม มุมมองที่เป็นเอกลักษณ์เกี่ยวกับการดำรงอยู่นี้เอง ที่ท้าทายความเข้าใจแบบดั้งเดิมของจิตสำนึกและความทรงจำ

กรณีของไคลฟ์ยังให้ความกระจ่างเกี่ยวกับมิติทางอารมณ์ของความทรงจำอีกด้วย แม้ว่าเขาจะไม่สามารถจดจำผู้คนหรือประสบการณ์ที่ผ่านมาได้ รู้ว่ามีลูกแต่จำชื่อหรือรูปร่างหน้าตาของเด็กไม่ได้ รู้ว่าเขาเคยเป็นนักดนตรี แต่ไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับอาชีพเลย แต่เขากลับมีการตอบสนองทางอารมณ์ที่ลึกซึ้งและสม่ำเสมอต่อ “เดโบราห์” ภรรยาของเขา พูดได้คำเดียวว่ามีความสุขมากทุกครั้งที่เจอเธอ เพราะทุกครั้งคือการตกหลุมรักเธอครั้งแรกเสมอ ในด้านนี้เองที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างความทรงจำและอารมณ์

• ข้อมูลเชิงลึกทางวิทยาศาสตร์

อาการของไคลฟ์มีส่วนช่วยให้เราเข้าใจระบบความจำของสมอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทบาทของฮิบโปแคมปัส (Hippocampus) และการเชื่อมต่อกับความทรงจำประเภทต่างๆ กรณีของเขาได้ให้ข้อมูลอันมีค่าสำหรับนักวิจัยที่ศึกษาภาวะความจำเสื่อม และความผิดปกติของความจำ

ชีวิตของ “ไคลฟ์ แวริง” เป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของธรรมชาติที่เปราะบางของความทรงจำ และบทบาทสำคัญที่ความทรงจำมีต่อการกำหนดประสบการณ์ในแต่ละวันของเรา กรณีของเขาทิ้งร่องรอยที่ลบไม่ออกตามความเข้าใจของเราเกี่ยวกับสมอง จิตสำนึก และผลกระทบอันลึกซึ้งของการสูญเสียความทรงจำ การเดินทางของไคลฟ์ทำให้เรานึกถึงความซับซ้อนของจิตใจมนุษย์ และความยืดหยุ่นของจิตวิญญาณมนุษย์เมื่อเผชิญกับความท้าทายที่ไม่ธรรมดา