หนุ่มเพิ่งเลิกแฟนสาว 3 เดือน นัดเข้าม่านรูดมีเซ็กซ์ หลังผ่านคืนอันเร่าร้อน 14 ชั่วโมง เจอคำสารภาพสุดเซอร์ไพรส์ ทำเอาอึ้งพูดไม่ออก
เว็บไซต์ HK01 รายงานว่าหนุ่มไต้หวัน ใช้ชื่อสมมุติว่า เควิน เมื่อเร็ว ๆ นี้เขาได้โพสต์แชร์เรื่องราวผ่านทางชุมชนออนไลน์ โดยเล่าว่า เขาเลิกกับแฟนสาวเมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา กระทั่งในคืนหนึ่งของเดือน ก.ย. เขาได้แฟนเก่าอีกครั้ง ตอนนั้นเธอเอาแต่ร้องไห้ บอกเขาว่าชีวิตของเธอไม่มีความสุข ทำเอาเขารู้สึกสงสาร
จนเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา เขาและแฟนเก่าได้มีโอกาสนัดเจอกันอีกครั้ง ที่ม่านรูดเล็ก ๆ เขาใช้เวลาอยู่กับเธอที่นั่นข้ามคืน เธอค่อย ๆ เปิดใจเล่าเรื่องราวของเธอให้เขาฟังว่าเธอมีแฟนใหม่แล้ว แต่ชีวิตปัจจุบันของเธอไม่ได้เป็นสิ่งที่เธอต้องการ “เธอไม่มีความสุขเลย แต่เขาต่างหากที่เป็นรักแท้”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฝ่ายชายหนุ่มก็รู้สึกว่าเขายังมีโอกาส เชื่อว่าหากมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งเขาจะสามารถกลับไปคืนดีกับเธอได้อีกครั้ง แต่ภายหลังจากผ่านคืนอันเร่าร้อนไป 14 ชั่วโมง ก่อนที่จะแยกทาง ฝ่ายหญิงได้เปิดปากสารภาพว่ากำลังตั้งท้องได้ 2 เดือนกับแฟนใหม่ และที่กำลังอยู่ในขั้นตอนเตรียมจัดงานแต่งงาน
คำสารภาพดังกล่าวทำเอาชายหนุ่มถึงกับตกใจ เขาถามว่า “เธอกำลังจะแต่งงาน จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขารู้ว่าเธอมาที่โรงแรมกับฉัน” ซึ่งอดีตแฟนสาวก็ตอบว่า “เขาไม่รู้จักคุณเลย ดังนั้นแค่ไม่บอกเขาก็ไม่รู้”
อดีตแฟนสาวยังถามเขาด้วยว่า เขาจะเป็นพ่อให้เด็กในท้องของเธอได้ไหม ซึ่งเขาตอบกลับไปว่า “ถ้าเธอไม่มีความสุขกับเขา ฉันสามารถยอมรับเธอได้ แต่ฉันไม่สามารถยอมรับที่เธอท้องกับเขาแล้วมานอนกับฉันได้” ก่อนที่ทั้งสองจะแยกย้ายกันไป
แต่ต่อมาแม่ของฝ่ายหญิงก็โทรศัพท์มาต่อว่าเขา หลังจากที่ได้ทราบเรื่อง หาว่าเขาจะไปทำลายชีวิตและงานแต่งงานของลูกสาว ให้เขาเลิกติดต่อกับลูกสาวโดยเด็ดขาด เรื่องราวของเขาและเธอจบลงไปเช่นนั้น
จนต่อมาเขาก็ได้เห็นภาพพรีเวดดิ้งของเธอและสามีผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยที่สามีของเธอไม่รู้เรื่องอะไร เพราะทั้งเธอและครอบครัวของเธอต่างช่วยกันปิดบังเรื่องนี้ และทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ทั้งนี้ ชายหนุ่มยืนยันว่าเขามีหลักฐานเป็นคลิปจากกล้องติดรถยนต์ แต่จะไม่อัปโหลดคลิปวิดีโอดังกล่าว เพราะเห็นใจคู่หมั้นของอดีตแฟนสาวที่ถูกนอกใจ
“แน่นอนว่าคนที่น่าสงสารที่สุดคือคู่หมั้นของเธอ เขาไม่รู้เรื่องหรือแม้แต่จะปฏิเสธอะไรได้ แต่ฉันไม่รู้จักเขา และเขาก็ไม่รู้จักฉัน ฉันเลยมาแบ่งปันความจริงนี้ทางโซเชียล”
หลังจากเรื่องราวถูกแชร์ต่อกันออกไปก็กลายเป็นประเด็นร้อนแรง บ้างก็เห็นใจชายหนุ่ม แต่บางคนก็ตั้งข้อสังเกตว่านี่อาจเป็นการแก้แค้น และเขาไม่ได้ไร้เดียงสาอย่างที่แสร้งทำ ในขณะเดียวกันบางส่วนก็วิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมของฝ่ายหญิงรวมไปถึงครอบครัวเธอที่เลือกที่จะปิดบังเหตุการณ์นี้ไว้