รู้จัก บิ๊กต่อ “พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล” ผบ.ตร. คนที่ 14 ได้มติ 9 : 2

Home » รู้จัก บิ๊กต่อ “พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล” ผบ.ตร. คนที่ 14 ได้มติ 9 : 2

บิ๊กต่อ

ทำความรู้จัก บิ๊กต่อ “พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล” ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คนที่ 14 มือปราบสายธรรมะ อดีตพนักงานบริษัทน้ำมัน ได้มติ 9 : 2

วันที่ 27 กันยายน 2566 ในที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ซึ่งมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นั่งเป็นประธานในวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือ ผบ.ตร. แทน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย. นี้ โดยก่อนหน้านี้มีข่าวว่ามีแคนดิเดตที่เข้าชิงตำแหน่ง เรียงตามลำดับ คือ “บิ๊กรอย” พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์, “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล, “บิ๊กต่าย” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์, และ “บิ๊กต่อ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล โดยวันนี้มีเพียง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ และพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เท่านั้นที่เป็นแคนดิเดตและมาเข้าร่วมประชุม ก่อนที่ทั้งคู่จะออกจากห้องประชุมไปเพื่อให้ที่ประชุมได้พิจารณา ก่อนที่ ที่ประชุมจะมีมติในเวลาประมาณ 16.30 น. ให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนที่ 14

บิ๊กต่อ-1

ประวัติ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล หรือ บิ๊กต่อ เกิดเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2507 เป็นชาวจังหวัดเพชรบุรี เป็นน้องคนเล็กในบรรดาพี่น้องทั้งหมด 5 คน และเป็นน้องชายของ พลอากาศเอกสถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์และเลขาธิการพระราชวัง ประวัติการศึกษา จบการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนโยธินบูรณะ ก่อนจะสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี จากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็น “สิงห์แดง” รุ่นที่ 38 และคว้าปริญญาโท ศิลปศาสตร์บัณฑิต จากมหาวิทยาลัยศรีปทุม

ก่อนเข้ารับราชการ ในปี 2540 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เคยเป็น “พนักงานบริษัท” บริษัทน้ำมันแห่งหนึ่ง และก้าวหน้าในหน้าที่การงานมาเรื่อยๆ จนได้รับเงินเดือนสูงถึง 8 หมื่นบาท แต่ทำงานอยู่ได้ 7 ปีก็ตัดสินใจลาออก เพื่อเดินหน้าทำตามความฝันในวัยเด็กคือการเป็น “ตำรวจ” และ เข้าหลักสูตรการฝึกอบรมผู้มีวุฒิทางด้านนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ เพื่อบรรจุแต่งตั้งเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร (กอต.) รุ่นที่ 4 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เริ่มต้นทำงานในเส้นทางตำรวจในตำแหน่ง “รองสารวัตร” กองกำกับการสายตรวจปฏิบัติการพิเศษ 191 จากนั้นโยกย้ายมาเป็นรองสารวัตรที่กองปราบปราม แล้วขึ้นไปเป็น “สารวัตร” ที่ตำรวจท่องเที่ยว ก่อนจะโยกกลับมาเป็นสารวัตรกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองปราบฯ และได้ขึ้นเป็นรองผู้กำกับ ผู้กำกับการปฏิบัติการพิเศษ และรองผู้บังคับการปราบปรามตามลำดับ

บิ๊กต่อ-2

เส้นทางสู้ผู้บัญชาการ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ขึ้นนั่งเก้าอี้ “ผู้กำกับการ” เป็นครั้งแรกในปี 2559 ซึ่งเป็นตำแหน่งเดียวที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ครบหลักเกณฑ์ว่าด้วยการครองตำแหน่งตาม ก.ตร. เพราะนับตั้งแต่นั้นมา ทุกตำแหน่งที่ขยับขึ้น ล้วนได้รับการเว้นหลักเกณฑ์จาก ก.ตร. ทั้งสิ้น โดยการเว้นหลักเกณฑ์ดังกล่าว ทำให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ใช้เวลาเพียง 4 ปี กับ 3 เดือนเศษ ในการเลื่อนตำแหน่งจากผู้กำกับการ ยศ พ.ต.อ. มาเป็น “ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง” ยศ พล.ต.ท. ต่อมา ดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับผิดชอบในส่วนของการเป็นหัวหน้าศูนย์ปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา (ศปลป.ตร.), ศูนย์บริหารงานป้องกันปราบปราม (ศปป.ตร.), ศูนย์ปราบปรามการลักลอบตัดไม้ ทำลายป่า ทรัพยากรธรรมชาติ (ศปทส.ตร.), ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ (ศปจร.ตร.), ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทาง (ศปข.ตร.) ก่อนได้รับมติ 9 : 2 เป็น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คนที่ 14

ฉายา “มือปราบสายธรรมะ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ได้รับฉายา “มือปราบสายธรรมะ” และ “โรโบคอปสายบุญ” เนื่องจากบรรดาสื่อมวลชนสายอาชญากรรม – ตำรวจ ขนานนามให้ จากภาพที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ มักจะเป็นนายตำรวจที่ใช้หลักธรรมในการทำงาน และเดินสายปฏิบัติธรรมตามสถานที่ต่างๆ อีกทั้งเคยให้สัมภาษณ์ว่า “การได้เป็นเด็กวัดเดินตามพระ ทำให้ได้เรียนรู้หลายอย่าง ทำให้คิดได้ว่าเมื่อถอดเครื่องแบบออก เราก็แค่คนธรรมดา ไม่มีใครรู้ว่าเราเป็นใครหรือใหญ่โตแค่ไหน”

ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่น ๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ