วันที่ 16 ก.ย.พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม.สั่งการให้พ.ต.อ.กึกก้อง ดิศวัฒน์ ผกก.5 บก.ปคม.พ.ต.ท.พงศ์พิต อุปรโครต, พ.ต.ท.เกริก เสนาะสําเนียง รอง ผกก.5 บก.ปคม. พ.ต.ท.ปริญญา รักษาแก้ว สว.กก.5 บก.ปคม. พร้อมกําลัง
เข้าจับกุมนายนพดล อายุ 40 ปี น.ส.คชาภรณ์ อายุ 51 ปี ในฐานความผิดสนับสนุนการกระทําความผิดฐานค้ามนุษย์ เพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี , สนับสนุนเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหาล่อไป หรือชักพาไป เพื่อการอนาจาร ซี่งบุคคล อายุเกินสิบห้าปีฯ”
นายวริทธิ์ อายุ 41 ปี และนายพีรพล อายุ 41 ปี ข้อหา สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทําความผิดฐานค้ามนุษย์,เป็นธุระจัดหา ซื้อขาย จําหน่าย พามาจากหรือส่งไปยังที่ใด เพื่อเป็น การแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณีฯ พรากผู้เยาว์ ชักจูงส่งเสริมหรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรฯ”
พล.ต.ต.ศารุติ เปิดเผยว่า ก่อนหน้าเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือด.ญ.เอ และด.ญ.บี (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี เหยื่อขบวนการค้ามนุษย์ ก่อนขยายผลเข้าจับกุม น.ส.ธันยพร หรือเอฟ นายหน้าค้าบริการได้ที่คอนโดฯแห่งหนึ่งย่านพระราม 2 ซึ่งเหยื่อถูกล่อลวงให้มาค้าบริการที่คอนโดดังกล่าว
จากการสอบสวนก็พบวิธีการหาลูกค้าของน.ส.ธันยพรที่จะนํารูปของเด็กในสังกัดไปโพสต์ขายบริการที่ ”เวบไซต์แห่งหนึ่ง“ เสียค่าโฆษณา 490 บาทต่อเดือน หากต้องการให้แอดมินเพิ่มยอดผู้เข้าชม หรือรับความนิยมสูง รีวิวดี ก็ต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายขึ้นไปอีกนอกเหนือจากค่าโฆษณาปกติ
พล.ต.ต.ศารุติ กล่าวต่อว่า จากนั้นเมื่อตรวจสอบข้อมูลจนทราบว่าน.ส.ธันยพรนั้นโอนเงินไปให้แอดมินเว็บไซต์ดังกล่าว ผ่านทางบัญชีม้าซึ่งเป็นบัญชีของน.ส.คชาภรณ์ แต่ละเดือนพบมีผู้โอนค่าโฆษณาค้ากามเข้ามาสูงถึง 2-3 แสนบาท ส่วนผู้ที่มากดเงินจากบัญชีดังกล่าวก็คือนายนพดล ที่หลังกดเงินแล้วก็เอาไปส่งมอบให้นายวริทธิ์ทุกครั้ง จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายและจับกุม น.ส.คชาภรณ์ได้ที่บ้านพักย่านดุสิต ส่วนนายนพดลตามจับกุมตัวได้ที่แมนชั่นย่านบางเขน สอบสวนน.ส.คชาภรณ์ รับสารภาพว่า รับจ้างเปิดบัญชีม้าจริง ได้ค่าจ้าง 2,000 บาท ส่วนนายนพดลยอมรับว่า นายวริทธิ์เป็นผู้ว่าจ้างให้ไปกดเงินสดจากบัญชีม้ามาให้ ค่าจ้างครั้งละ 1,000-2,000 บาท
พล.ต.ต.ศารุติ กล่าวต่ออีกว่าหลังจากนั้นจึงเข้าจับกุม นายวริทธิ์ ได้ที่บ้านพักในหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านหัวหมาก ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ทําหน้าที่เป็นแอดมินและดูแลการเงินของเว็บไซต์ดังกล่าวจริง มีเงินเดือน 6 หมื่นบาท และยังมีเงินรายได้แบ่งครึ่งกับนายพีรพล (สงวนนามสกุล) เจ้าของเว็บไซต์ เจ้าหน้าที่จึงตามไปจับกุมนายพีรพลได้ที่หมู่บ้านหรูย่านสมุทรปราการ ตรวจพบประวัติข้อมูลและการโพสต์รูปเหยื่อการค้ามนุษย์เป็นหญิงสาวจำนวนมากภายในคอมพิวเตอร์ของนายพีรพล จึงตรวจยึดอุปกรณ์ทั้งหมดไว้เป็นของกลาง
สอบสวน นายพีรพล ให้การรับสารภาพว่า เป็นเจ้าของเว็บไซต์ ดังกล่าวจริง ตนและนายวริทธิ์ นั้นเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่ทำงานเป็นมาร์เก็ตติ้งออนไลน์ และออแกไนซ์เซอร์ เมื่อปี 2564 ช่วงแพร่ระบาดโควิด-19 พวกตนขาดรายได้ จึงเกิดไอเดียจัดทำเว็บไซต์ผู้หญิงขายบริการทางเพศ ที่ลงงานขายบริการออนไลน์ได้ ส่วนตนทั้งสองก็จะมีรายได้จากค่าโฆษณา จึงไปว่าจ้างโปรแกรมเมอร์ชาวต่างชาติ สร้างเว็บไซต์และเช่าserverไว้ที่ต่างประเทศเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจพบ ที่ผ่านมามีรายได้จาก การทําเว็บไซต์ถึงเดือนละ 2-3 แสนบาท จึงนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปคม. ดําเนินคดี และทำเรื่องเสนอต่อกระทรวงดิจิทัลฯ เพื่อทําปิดเว็บไซต์ดังกล่าวต่อไป