ตร.จับกุม “ไฮโซเก๊” สร้างโปร์ไฟล์ปลอม จบนอก ชีวิตหรู ช็อปแบรนด์เนม ปลอมวุฒิสมัครทำงานบริษัทใหญ่ ได้นั่งตำแหน่งสูง ก่อนลักทรัพย์กว่า 6 ล้านบาท
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. สั่งการให้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ ชุดปฏิบัติการที่ 4 ติดตามจับกุม น.ส.ชิชา หรือหมวย อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ กระทำความผิดฐาน ” ทำลายซ่อนเร้นเอาไปเสียหรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งเอกสารใดของผู้อื่นใดประการที่น่าจะเกิดความเสียแก่ผู้อื่นหรือประชาชน, ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้าง, ปลอมตั๋วเงินตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 266, ใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการกระทำความผิดตามมาตรา 226 ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ”
พฤติการณ์สืบเนื่องจาก น.ส.ชิชา (ผู้ต้องหา) มีการก่อเหตุลักทรัพย์ ในขณะที่ตนเองมีตำแหน่งระดับสูงในบริษัทของผู้เสียหาย โดยได้มีการลักทรัพย์จากบริษัทของผู้เสียหาย มูลค่าความเสียหายกว่า 6 ล้านบาท จากการสืบสวนประวัติย้อนหลังพบว่า น.ส.ชิชา มีประวัติการปลอมแปลงเอกสารทางราชการ (คุณวุฒิ) เพื่อนำไปใช้ในการสมัครงานในตำแหน่งที่ดีของหลายบริษัท และยังตรวจพบข้อมูลใน blacklistseller ในการหลอกขายสินค้าออนไลน์ หลังจากก่อเหตุก็ได้มีการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล ของตนเองจำนวน 2-3 ครั้ง
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตรวจสอบข้อมูลทางโซเชียลมีเดีย IG พบว่าได้มีการแต่งโปรไฟล์ของตนเองว่ามีการจบจากเมืองนอก เรียนจบสูง ใช้ของแบรนด์เนม ถ่ายรูปในสถานที่ที่หรูหรา เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือของตนเอง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ทำการสืบสวนหาข้อมูลของ น.ส.ชิชา จนสืบทราบว่าได้มีการหลบหนีการจับกุมโดยได้มีการย้ายที่อยู่หลายที่มานานกว่า 6 ปี
ต่อมาทราบว่าผู้ต้องหาได้มีการมาพักอาศัยอยู่ที่ภายในซอยแห่งหนึ่ง แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ จากนั้นเจ้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้มีการเฝ้าติดตามบริเวณดังกล่าว จนพบ นางสาวชิชา อยู่บริเวณหน้าบ้านดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงหมายจับให้ดูและอ่านจนเป็นที่เข้าใจดีแล้ว นางสาวชิชา ยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง
และยังไม่เคยถูกจับตามหมายจับนี้มาก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิตามกฎหมายให้ นางสาวชิชา ทราบและดำเนินการจับกุมตามกฎหมาย จากนั้นจึงได้นำตัวมาจัดทำบันทึกการจับกุมที่ห้องปฏิบัติการสอบสวน สน.ยานนาวา และนำส่ง สน.ยานนาวา ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อความหา ปัจจุบันไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร บอกว่าเขียนงานวิจัยขาย ส่วนเงินที่ได้มาจากการขโมยนั้น เอามาแบ่ง 3 คน คนแรกเสียชีวิต คนที่ 2 ตัวผู้ต้องหา คนที่ 3 เป็นพนักงานส่งเอกสาร แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อแต่อย่างใด