กลายเป็นประเด็นให้พูดถึงในโลกโซเชียลและวงการฟุตบอลเอเชียทันที สำหรับการเคลื่อนไหวครั้งนี้ของสมาคมกีฬาฟุตบอลญี่ปุ่น หรือ เจเอฟเอ ที่บ่งบอกทัศนคติถึงชาติเพื่อนร่วมทวีปอย่างชัดเจน

เมื่อล่าสุด วันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา sponichi.co.jp เว็บไซต์ดังแห่งแดนปลาดิบได้ตีข่าวว่า ทีมชาติญี่ปุ่น มองคู่แข่งในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก รอบ 2 ว่าฝีเท้าห่างชั้นเกินไป และต้องการไปรอเล่นในการคัดเลือก รอบ 3 เลย แต่สุดท้าย สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ เอเอฟซี ไม่อนุมัติตามคาด

หลังจากยกระดับกลายเป็นทีมระดับโลกไปเรียบร้อยในช่วงทศวรรษหลังที่ผ่านมา ประกอบกับการผลงานคว่ำ 2 ชาติดีกรีอดีตแชมป์โลกอย่าง เยอรมนี และ สเปน ในฟุตบอลโลก 2022 ชนิดช็อกแฟนบอลทั่วโลก พร้อมรั้งอันดับ 20 ของโลกในฟีฟา แรงกิง ณ ตอนนี้

ด้วยเหตุนี้ โคโซ ทาชิมะ ประธานลูกหนังญี่ปุ่นวัย 65 ปี จึงมองว่า การลงเล่นฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 ไม่จำเป็นต่อทัพแข้งซามูไร เนื่องจากมีความห่างชั้นกับคู่แข่งมากเกินไป แถมบางเกมชนะกันด้วยสกอร์สองหลักก็มี จึงเสนอเรื่องไปยัง เอเอฟซี เพื่อขอให้พิจารณาปรับกฎคัดเลือกใหม่ โดยให้ทีมอันดับโลกสูงๆ อย่าง ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ออสเตรเลีย และ ซาอุดิอาระเบีย รอเล่นในรอบที่ 3 เลย
แต่แน่นอนว่าเรื่องนี้ส่งผลต่อบรรดาชาติอื่นในเอเชียที่ไม่เห็นด้วย ด้วยเหตุผลที่ว่า การได้แข่งขันกับทีมที่แข็งแกร่งอย่าง ญี่ปุ่น และชาติชั้นนำอื่นๆ จะทำให้นักฟุตบอลของพวกเขาได้รับประสบการณ์และประโยชน์ต่อการพัฒนาฝีเท้า สอดคล้องกับความคิดเห็นของ เอเอฟซี ทำให้ไอเดียนี้ถูกปัดตกไปทันที และทวีปเอเชียจะยึดรูปแบบการคัดเลือกฟุตบอลโลกเหมือนเดิมต่อไป

“เรายอมรับว่าเคยเสนอแนวคิดขอคัดบอลโลกรอบ 3 ต่อ เอเอฟซี เพราะมองว่ารอบ 2 นั้นอาจไม่จำเป็นต่อทีมชาติญี่ปุ่น เราแค่อยากลดเกมที่จบด้วยสกอร์ 10-0 แต่หลังจากได้พูดคุยกันแล้ว หลายชาติในเอเชียยังต้องการลงแข่งกับเรา”

“ชาติสมาชิกให้ความสำคัญต่อการได้ลงแข่งกับทีมหัวแถวอย่าง ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ออสเตรเลีย และ ซาอุดิอาระเบีย ทำให้ข้อสรุปที่ได้กลับมาคือ การคัดเลือกด้วยรูปแบบเดิมอยู่นี้นั้นเหมาะสมแล้ว” ทาชิมะ ประมุขลูกหนังญี่ปุ่นคนปัจจุบัน ดีกรีอดีตทีมชาติชุดใหญ่ (ช่วงปี 1979-1980 ลงสนาม 7 นัด ยิง 1 ประตู) กล่าว

ทั้งนี้ ศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก รอบ 2 นั้น ญี่ปุ่น อยู่ในสายบี ร่วมกับ เกาหลีเหนือ, ซีเรีย และผู้ชนะระหว่าง เมียนมา หรือ มาเก๊า โดยจะลงเล่นเกมแรกในรอบนี้ด้วยการเปิดบ้านพบทีมผู้ชนะระหว่าง เมียนมา หรือ มาเก๊า ในวันที่ 16 พฤศจิกายนต่อไป