กลับมาพบกับรีวิวจากทีม Sanook Hitech สำหรับในรอบนี้จะมาพร้อมกับมือถือใหม่กับ OnePlus Nord 3 มือถือ Lite Flagship ที่จัดเต็มไม่น้อยแต่มันจะเป็นอย่างไร เรามาดูกันเลยครับ
รายละเอียดสเปกของ OnePlus Nord 3
- ขนาด: 162 x 75.1 x 8.2 มิลลิเมตร
- น้ำหนักตัวเครื่อง: 193.5 กรัม
- หน้าจอแสดงผล : Fluid AMOLEDdisplay ความละเอียด FHD+ อัตราส่วน 21:9 ( 1240 x 2772 พิกเซล) ขนาดประมาณ 6.74 นิ้ว Refresh Rate 120 Hz
- มาตรฐานกัน : IP54
- กระจกกันรอย : Dragontrail Glass
- ชิปเซ็ต : MediaTek Dimensity 9000 Octa Core | GPU Mali-G710 MC10
- RAM : 16 GB
- ROM : 256 GB
- ความจำเสริม : เพิ่มความจำไม่ได้
- ระบบปฏิบัติการ: Android 13 + Oxygen OS 13
- WiFi 802.11 B/G/N/AC/6 (Dual Band)
- Bluetooth 5.2
- เครือข่ายมือถือ : 2G/3G/4G/5G
- การบอกพิกัด : GPS, A-GPS
- กล้องหลัง 3 ตัว:
- ตัวแรกเป็นของ ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล F/1.8 multi-directional PDAF, OIS
- ตัวที่ สอง กล้องมุมกว้าง 8 ล้านพิกเซล
- ตัวที่ สาม กล้อง Macro 2 ล้านพิกเซล
- วิดีโอ 4K@30/60fps, 1080p@30/60/120fps, Timelapse, Slowmotion
- LED Flash
- กล้องหน้าเซลฟี่ : ความละเอียดกล้องหลัก: 16 ล้านพิกเซล วิดีโอ 1080p 30 FPS
- รองรับ: สแกนใบหน้าแบบ 2D + ระบบสแกนนิ้วด้านข้าง
- ชนิดซิมการ์ด : nano SIM สามารถใส่ได้ 2 ช่อง
- ช่องเสียบ : USB-C 2.0
- แบตเตอรี่ : Li-Po 5000 mAh
- ระบบชาร์จไฟ : SuperVOOC 80W
- สี : Misty Green, Tempest Gray
แกะกล่อง OnePlus Nord 3
- ตัวเครื่อง OnePlus Nord 3
- คู่มือ
- เข็มจิ้มถาดใส่ซิม
- สายชาร์จไฟ USB-C
- Adapter ชาร์จไฟกำลัง 80W
รูปลักษณ์ดีไซน์ของ OnePlus Nord 3
เริ่มต้นกับด้านหน้าของ OnePlus Nord 3 จะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.74 นิ้ว แบบ AMOLED ที่จัดหนักจัดเต็มไม่น้อยเลยทีเดียว และกล้องหน้าเป็นแบบลอย
ส่วนบนจะมาพร้อมกับกล้องความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และมีเซนเซอร์ปิดหน้าจอและลำโพงสนทนา
ส่วนล่างจะมาพร้อมกับปุ่มควบคุมระบบปฏิบัติการ Android สามารถเลือกได้ทั้งปุ่มปกติ หรือ การปัด โดยเปลี่ยนได้ในตั้งค่า > ค้นหาคำว่า การควบคุมหรือ Navigate
รอบตัวเครื่องเป็นแบบเรียบและมีรายละเอียดที่ชัดเจนมากๆ โดยรอบนี้จะมาพร้อมกับฝั่งซ้ายมีปุ่มปรับระดับเสียง
ฝั่งขวามาพร้อมกับปุ่ม Power สำหรับไว้เปิด / ปิด และสามารถสั่งงานด้วยเสียงได้ด้วย แถมมีปุ่มปรับ Profile ของเสียงได้
ส่วนบนจะมาพร้อมกับไมโครโฟน, IR Blaster สั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้าและลำโพงตัวเครื่อง
ส่วนบ่างมาพร้อมกับช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Dual Nano SIM, USB-C และมีลำโพงตัวเครื่อง
พลิกมาด้านหลังจะมาพร้อมกับกระจกที่เงางามและมีกล้อง 50 ล้านพิกเซล และมีกล้องมุมกว้างและ Macro โดยกล้องจะอยู่ทางซ้ายมือด้านบนและมีโลโก้ OnePlus อยู่ตรงกลาง
น้ำหนัก / การจับถือ
ด้วยน้ำหนักเครื่องอยู่ที่ 190.3 กรัม เรียกว่ากำลังดีในการพกพา และบอดี้เป็นแบบดูดีมาก กระจกด้านหลัวอาจจะลื่นมือนิดหน่อยเท่านั้น แต่เรื่องการโดนน้ำมือถือรุ่นนี้รองรับ IP54 ใช้คำว่าพอโดนแบบน้ำกระเด็นได้ครับ และมีให้เลือกทั้งสีดำ และ เขียว
การแสดงผลภาพ / ระบบเสียง
ด้วยหน้าจอขนาด 6.74 นิ้ว แบบ Fluid AMOLEDdisplay ให้สีสันและความสว่างที่โดดเด่นไม่น้อยเลยครับพร้อมกับ Refresh Rate 120Hz ทำให้สามารถตอบสนองได้ดี โดยเฉพาะในการดูหนังและการเล่นเกม
ใส่ระบบเสียงมาพร้อมกับลำโพงทั้งบนและล่างรองรับระบบเสียง Dolby ATMOS ให้เสียงที่จัดหนักจัดเต็มอยู่ครับ แต่ความดังยังให้น้ำหนักทางด้านล่างมากกว่าด้านบน
ประสิทธิภาพ / การเล่นเกม / การเชื่อมต่อไร้สาย
คะแนนประสิทธิภาพ AnTuTu = 924,894 คะแนน
คะแนน Geekbench 6 : Single Core = 1142 | Multi Core = 3249
คะแนน 3DMark
คะแนนประสิทธิภาพที่เห็นถือว่าสูงพอสมควร และยังเกาะกลุ่มอยู่ ทั้งมือถือระดับหมื่นต้นไปจนถึงหมื่นปลาย เรียกได้ว่านี่เป็นอีกมือถือที่ใช้คำว่าเล่นเกมแล้วไม่น่าเป็นห่วงแต่อย่างใด ความร้อนพอมีบ้านแต่ถ้าปรับประสิทธิภาพสูงมันก็จะร้อนได้ง่าย
ส่วนฟีเจอร์การเล่นเกมนั้นจะมีฟีเจอร์ HyperBoost ตัวช่วยปรับประสิทธิภาพ และยังมาพร้อมกับการปิดแจ้งเตือนอัดหน้าจอและเพิ่มความแรงของเครื่องได่ระดับหนึ่งด้วยครับ
การเชื่อมต่อยังคงทำได้เหมือนกับมือถือในระดับเดียวกันคือรองรับ Wi-Fi 6, Bluetooth 5.2 รองรับ 5G การใช้นำทางถือว่าแม่นยำอยู่ตอบสนองได้ไว
ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์เด่น / ระบบความปลอดภัย
ในส่วนระบบปฏิบัติการของมือถือรุ่นนี้มาพร้อมกับ Oxygen OS 13 ใหม่ล่าสุดที่มีกลิ่นอายทั้ง Pure Android และ Color OS รวมกัน แต่เน้นความคล่องและว่องไวกว่า และยังสามารถใช้งานแบบ Popup และแบ่งหน้าจอได้
ฟีเจอร์ใช้งานทั่วไปยังมาพร้อมกับ มีทั้งเครื่องคิดเลข, เครื่องอัดเสียง, เข็มทิศ และอื่นๆ ถ้าไม่พอสามารถดาวน์โหลดเพิ่มได้
ระบบความปลอดภัยจะมาพร้อมกับสแกนลายนิ้วมือ, สแกนใบหน้ามาให้เหมือนเดิม
เปิดกล้องลองถ่ายภาพ
- กล้องหลัง 3 ตัว:
- ตัวแรกเป็นของ ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล F/1.8 multi-directional PDAF, OIS
- ตัวที่ สอง กล้องมุมกว้าง 8 ล้านพิกเซล
- ตัวที่ สาม กล้อง Macro 2 ล้านพิกเซล
- วิดีโอ 4K@30/60fps, 1080p@30/60/120fps, Timelapse, Slowmotion
- LED Flash
- กล้องหน้าเซลฟี่ : ความละเอียดกล้องหลัก: 16 ล้านพิกเซล วิดีโอ 1080p 30 FPS
ฟีเจอร์ของกล้องมือถือรุ่นนี้
หน้าตาของเมนูกล้องจะแอบคล้ายๆ กับ OPPO, realme เล็กน้อย โหมดต่างๆ มีให้เลือกใช้งานหมด ทั้งการถ่ายภาพปกติซูมได้ 20x วิดีโอ ซูมได้ 10x และมีลูกเล่นอื่นๆ เช่นการถ่ายรูปโหมด Pro ฟีเจอร์อื่นๆ อีกมากมายเลยครับ ส่วนกล้องหน้ามีลูกเล่นที่ใช้ลูกเล่นคล้ายๆ กับกล้องหลังอยู่
ตัวอย่างภาพจากกล้องของ OnePlus Nord 3
(กล้องหน้า)
(กล้องหลัง)
แบตเตอรี่ / ระบบชาร์จไฟ
ในส่วนของแบตเตอรี่ของ OnePlus Nord 3 จะมาพร้อมกับขนาด 5000 mAh จากการใช้งานถ้าไม่มีการเล่นเกมจะใช้ได้ยาวนาน แต่ถ้าไม่มีการเล่นเกมนั้นใช้คำว่า อยู่ได้หมดวันพอดีแล้วถ้าจะดีกว่านั้นต้องชาร์จไฟระหว่างวันอย่างน้อย 1 ครั้ง
สำหรับระบบชาร์จไฟของ OnePlus Nord 3 จะมาพร้อมกับกำลัง 80W ของ SuperVOOC ถือว่าไวมาก แต่ถ้าไม่ใช้ที่ชาร์จติดกล่องหรือรองรับระบบนี้จะเข้าแค่ 25W เท่านั้น
สรุปหลังสัมผัส OnePlus Nord 3 มาสักพักใหญ่
OnePlus Nord 3 ที่จะมาพร้อมกับสเปกที่พูดเลยว่าถือว่าทำได้ดีในรอบด้านงานประกอบเนียบหน้าจอไม่โค้งถูกใจกับคนที่ชอบมือถือจอเรียบกล้องถือว่าใช้ได้เพราะมีเทคโนโลยีของเลนส์หลักที่ดีแต่เลนส์มุมกว้างอาจจะต้องทำใจอยู่บ้าง แต่อย่างไรก็ตาม ใครที่ใช้มองหามือถือแบบ Lite Flagship ในราคา 19,990 บาท นี่เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยครับ ดังนั้น OnePlus อาจจะมีความต่างจากมือถือคู่แข่งปกติในเรื่องงานประกอบที่ดีกว่านั่นเอง
ข้อเด่น
- ดีไซน์สวยและลงตัว
- สเปกแรงไว้ใจได้
- กล้องสวยงามมาก
- ความร้อนจัดการได้ดี
- ฟีเจอร์ให้มาแบบครบครันในตัว
- ระบบกล้องทำผลงานได้ดี
ข้อสังเกต
- ราคาอาจจะสูงไปนิด
- ไม่มีเคสมาให้ในกล่อง