แม่น้องชมพู่เปิดตัว วินัย ชุมสวัสดิ์ หัวหน้าทีมทนาย เป็นโจกท์ร่วมสู้คดี ด้าน อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ เป็นที่ปรึกษา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (9 มิ.ย.) ความคืบหน้าการเสียชีวิตของน้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ขวบ หลังจากศาลออกหมายจับ นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ลุงเขยเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตน้องชมพู่โดยในส่วนของลุงพล มีนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เป็นทนายความ ทางด้านฝั่งของ แม่น้องชมพู่ หรือคุณสาวิตรี วงศ์ศรีชา วันนี้ ก็ตั้งโต๊ะแถลงข่าว เปิดตัวทีมทนายความ ขอเป็นโจกท์ร่วมในการต่อสู้คดีให้น้องชมพู่ โดยทีมทนายมี 4 คน
โดยมี นายวินัย ชุมสวัสดิ์ เป็นหัวหน้าทีมทนายความ ที่มีทั้งหมดรวม 4 คน โดยคดีนี้ยังอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวน รอส่งอัยการ หากอัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง ก็จะเป็นโจกท์ร่วม แต่หากอัยการสั่งไม่ฟ้องก็จะยื่นฟ้องเอง โดยมีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลืออาชญกรรมเป็นที่ปรึกษาคดีนี้ กล่าวว่า ตนได้รับมอบจากแม่ชมพู่ และครอบครัว ให้เป็นที่ปรึกษาและจัดหาทนาย เป็นโจกท์ร่วม ทำในนามชมรมช่วยเหลืออาชญกรรม มีทนายความ 4 คน แยกเป็น 2 คน ทำคดีน้องชมพู่ และอีก 2 คนเป็นคนทำคดีการปกป้องสิทธิ์ กับคนที่ละเมิดให้ร้ายกล่าวหาทั้งทางแพ่งและทางอาญา
นายวินัย ทนายความ กล่าวว่า ไม่ได้หนักใจการต่อสู้คดีตำรวจ เราไม่ใช่อัศวินขี่ม้าขาว คนที่เป็นอัศวินคือตำรวจ และเจ้าหน้าที่และพนักงานอัยการ ที่ให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย กรณีศึกทนาย ไม่ได้สนใจ เป็นวาทกรรม แต่เรื่องจริงคือแม่คือผู้สูญเสีย ฝ่ายผู้ต้องหาและเสียหายเท่านั้น การโต้แย้งไม่ใช่สาระ หลักฐานสำคัญในคดีนี้ การทำงานพนักงานสอบสวนจะเปิดออกมาน้อยมาก สิ่งที่เปิดออกมาเป็นหน้าปกสำนวน
ด้าน นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่ของน้องชมพู่ กล่าวขอบคุณและดีใจที่มีทีมทนายเข้ามาช่วย ไม่กังวลใจอะไร รวมทั้งหลักฐาน เหมือนยกภูเขาออกจากอก ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องกังวลอะไรแล้ว สบายใจ โล่งอก เรื่องเครื่องซินโครตรอน เรื่องนี้ไม่กังวล ทุกอย่างเป็นมาตรฐาน และเชื่อมั่น ตอนนี้โล่งใจ ดีใจ มีความสุข
โดย นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ตนไม่อนุญาตให้นายสิระมาพบกับคุณแม่ เพราะเชื่อมั่นในหลักฐาน ไม่ใช่คดีการเมือง และขอบคุณ ส.ส.สิระ ที่จะมา แต่ไม่ใช่คดีการเมือง เชื่อมั่นในผู้บัญชาการตำรวจ ที่เอาผิดคนร้ายคดีนี้ได้แน่นอน คดีนี้เกิดความผิดเพี้ยน ผู้สูญเสียกลับถูกกล่าวหาฆ่าลูกตัวเอง ผู้ต้องหาเป็นซูเปอร์สตาร์ และเชื่อว่าตลอดเวลาที่ลงพื้นที่ 7 เดือน ตนพอจะรู้ และอีกฝั่งเพิ่งลงมาทำคดี ก็ฟังแต่ลูกความของตัวเอง รับไม่ได้ผู้ต้องหาเป็นดารา ผู้สูญเสียเป็นดารา และช่วยโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ส่วนการยื่นคำร้องขอค้านปล่อยตัวชั่วคราว เป็นหลักทั่วไป ที่ศาลให้ความเป็นธรรมกับผู้ต้องหา ถ้ามีการทำผิดเงื่อนไข ก็จะยื่นคำร้องต่อศาล ส่วนสาระการต่อสู้คดีจะไม่ขอเปิดเผย เพราะเป็นการต่อสู้คดี
บรรยากาศการแถลงข่าวเปิดตัวทนายแม่น้องชมพู่เป็นไปอย่างคึกคัก ชาวบ้านบ้านกกกอกและกลุ่มแฟนคลับคุณแม่น้องชมพู่ ก็พากันนำดอกไม้มาให้กำลังใจแม่น้องชมพู่และทนายความ โดยชาวบ้านบอกส่งกำลังใจคือสิ่งสำคัญในการต่อสู้คดีนี้ ชาวบ้านกกกอกจะไม่ทิ้งแม่ชมพู่
ส่วนหลังจากที่นายไชย์พลได้ประกันตัวก็ไม่ได้มาข้องเกี่ยวกับชาวบ้านหรือพยาน โดยหนึ่งในพยานสำคัญคดีนี้ คือ นายวัชรินทร์ กงแก่นท้าว อายุ 48 ปี หรือ พ่อแบม พยานปากสำคัญ ให้ข้อมูลว่า ตอนนี้สบายใจไม่ได้กังวลอะไร และก็โล่งใจที่ต่อไปนี้ พวกพยานต่างๆ ไม่ต้องไปให้ปากคำตำรวจแล้ว ที่ผ่านมาตลอด 1 ปี ชาวบ้านและพยาน ต้องวนเวียนไปให้ปากคำตำรวจ อยู่หลายครั้ง แต่ทุกคนก็เต็มใจและให้ปากคำตามสิ่งที่เห็นในวันนั้น