ราชทัณฑ์ชี้แจงสาเหตุ ย้าย “เพนกวิน” ไปอยู่เรือนจำปทุมธานี ชี้ เป็นสถานที่ควบคุมผู้ต้องขังที่มีอัตราโทษเบากว่าการควบคุมในเรือนจำทั่วไป

จากกรณีศาลอาญา ออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนคดีละเมิดอำนาจศาล โดยผู้อำนวยการสำนักอำนวยการประจำศาลอาญา หรือ ผอ.ศาลอาญา กล่าวหา นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน จำเลยคดี ม.112 และความผิดฐานชุมนุมโดยฝ่าฝืนกฎหมาย เป็นผู้ถูกกล่าวหา คดีละเมิดอำนาจศาล และตัดสินจำคุก 1 เดือน ลดโทษเหลือกักขัง 15 วัน เนื่องจากรับสารภาพ และเมื่อวานนี้ (22 มี.ค.) ได้ย้ายตัวนายพริษฐ์ ไปกักขังที่สถานกักขัง จังหวัดปทุมธานีนั้น

วันนี้ (23 มี.ค.) นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ชี้แจงว่า การย้ายสถานที่ควบคุมนายพริษฐ์ จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ไปกักขังที่สถานกักขังกลาง จังหวัดปทุมธานี เป็นไปตามคำสั่งศาลอาญา ที่สั่งลงโทษกักขัง นายพริษฐ์ ฐานละเมิดอำนาจศาล เป็นเวลา 15 วัน ที่สถานกักขังกลาง จัุงหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นสถานที่ควบคุมผู้ต้องขัง ที่มีอัตราโทษเบากว่าการควบคุมในเรือนจำทั่วไป ยืนยันว่าไม่ได้ส่งตัวนายพริษฐ์ ไปที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 ตามที่มีกระแสข่าวออกมาแต่อย่างใด

นอกจากนี้กรมราชทัณฑ์ ยังได้ประสานส่งข้อมูลเรื่องสุขภาพของนายพริษฐ์ ที่อยู่ระหว่างการอดอาหารประท้วง ให้ผู้ดูแลควบคุมสถานกักขัง รวมถึงเจ้าหน้าที่พยาบาล ติดตามดูแลเรื่องสุขภาพผู้ต้องขังตามมาตรฐาน เช่นเดียวกับผู้รับโทษรายอื่น

ขณะที่ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ทวีตภาพ และข้อความ ระบุว่า ที่สถานกักขังกลางปทุมธานี ทนายความเครือข่ายศูนย์ทนายฯ ได้พบกับนางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ มารดานายพริษฐ์

“คุณแม่ได้คุยกับเพนกวินผ่านวิทยุสื่อสาร แต่เข้าเยี่ยมไม่ได้ จะเปิดให้เยี่ยมในเวลา 8.30-14.30 น. ให้เฉพาะทนายที่แต่งตั้งเท่านั้น”