วันที่ 8 ก.ค. 66 พ.ต.ต สุภัทรพงศ์ บุญกำเหนิด สว.(สอบสวน) สภ.เมือง ระยอง ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุ รถยนต์ชนแผงทุเรียน เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดบน ถ.สาย36 (ขาออกเมืองระยอง) ต.ทับมา อ.เมือง จ.ระยอง

จึงประสานแพทย์เวร รพ.ระยอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่และหน่วยกู้ภัยสว่างพรกุศลเดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นแผงทุเรียนที่ขายอยู่ห่างจากถนนประมาณ 5เมตร มีคูน้ำกั้นอยู่

ตรวจสอบพบว่า แผงทุเรียน พังระเนระนาด ทั้งร่มบังแดด และ ลูกทุเรียนกระเด็นเกลื่อน พบ รถยนต์ ยี่ห้อโตโย้ตา ฟอร์จูนเนอร์สีขาว จอดอยู่ห่างจากแผงทุเรียนไปประมาณ 50 เมตร

โดยพบคนขับได้รับบาดเจ็บอยู่ในรถยังมีสติอยู่มีอาการแน่นหน้าอก จึงรีบช่วยออกมาปฐมพยาบาล นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 3 ราย ประกอบด้วยผู้หญิงสองราย ได้รับบาดบริเวณใบหน้าและตามลำตัว

ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บอีกรายเป็นผู้ชายซึ่งเป็นลูกค้าถูกชนจนกระเด็นไปตกในคูน้ำห่างจากแผงถึง 30 เมตร อาการสาหัส เจ้าหน้าที่ทำ CPR ณ จุดเกิดเหตุ ก่อนจะนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 4 ราย ส่งรพ.ระยอง และ รพ.กรุงเทพระยอง

จากการตรวจสอบทราบว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง4ราย ประกอบด้วย นางประนอม อายุ 50 ปี และลูกสะใภ้ชื่อ นางอ้อมจิต อายุ 32 ปี (แม่ค้าแผงทุเรียน) และ นายอุเสน อายุ 71 ปี คนขับรถพุ่งชน

ส่วนอีกรายซึ่งเป็นลูกค้ามาซื้อทุเรียนกับภรรยาคือ นายทรงศักดิ์ อายุ 36 ปี ล่าสุดทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตแล้วที่ รพ.กรุงเทพระยอง

จากการสอบสวนนางอนงค์ อายุ 47 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิต ให้การว่า ตนเองกับสามีที่เสียชีวิต กำลังซื้อทุเรียน โดยตนเองเลือกซื้อทุเรียนได้แล้วจึงถอยออกมาหนึ่งก้าว ส่วนสามียังยืนอยู่โดยหันหลัง

จู่ ๆ รถก็พุ่งมาจากถนนด้วยความเร็ว กวาดเอาร่างสามีและแม่ค้าทั้งสองคนพร้อมลูกทุเรียนกระเด็นกระดอนไป โดยร่างสามีติดคารถไปก่อนจะกระเด็นตกลงไปในคูน้ำ ตกใจมาก เสียใจมากที่สามีต้องมาจากไป ทั้งที่ร้านทุเรียนก็อยู่ห่างจากถนน แต่กลับมาเกิดเหตุขึ้น

นายเทวัญ อายุ 32 ปี บุตรชายเจ้าของแผงทุเรียน ที่ทั้งแม่และภรรยาได้รับบาดเจ็บ ได้เปิดเผยว่า ตนเองหันไปเห็นพบว่ารถคันที่พุ่งชนขับมาด้วยความเร็ว โดยไม่ได้เหยียบเบรคเลย

พุ่งจากคูน้ำข้ามมาชนที่แผงทุเรียน จนลูกทุเรียนกระเด็นใส่ตัวมารดาและภรรยา ก่อนจะกวาดเอาร่างลูกค้าติดคารถไปด้วย

จากการสอบถามคนขับรถได้บอกว่าวูบหลับใน

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้อายัดตัวคนขับรถแล้ว เตรียมเข้าสอบสวนหลังหายจากอาการบาดเจ็บ เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป