ลำปางโรคฉี่หนูระบาดหนักพบคนตายแล้ว 2 ราย เตือนประชาชนป้องกันโรคไข้ฉี่หนู พบอัตราป่วยสูงกว่าปีก่อน 7 เท่า
นายแพทย์ประเสริฐ กิจสุวรรณรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง แจ้งเตือนสถานการณ์โรค ที่มากับน้ำขังที่อาจปนเปื้อนจากปัสสาวะของสัตว์นำโรคในฤดูฝน เช่น หนู สุกร ม้า นั่นคือ โรคฉี่หนู (เล็ปโตสไปโรซิส)
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำปาง สถานการณ์จังหวัดลำปาง ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 5 กรกฎาคม 2556 พบผู้ป่วยจำนวน 35 ราย คิดเป็น อัตราป่วย 4.85. ต่อแสนประชากร เสียชีวิต 2 ราย มีอัตราป่วยสูงกว่า ช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา 7 เท่า
อำเภอที่มีอัตราป่วยมากที่สุด คือ อำเภอวังเหนือ 7 ราย อำเภองาว 6 ราย และ อำเภอแจ้ห่ม 5 ราย กลุ่มอายุที่พบมากที่สุด คือ กลุ่มอายุ 55-64 ปี รองลงมากลุ่มอายุกลุ่มอายุ 65 ปีขึ้นไป ส่วนการ เสียชีวิตพบที่อำเภอเมืองปาน 1 ราย และอำเภองาว 1 ราย
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง กล่าวว่าขอให้ประชาชนชาวลำปางสังเกต อาการโรคฉี่หนู ผู้ป่วย มักมีอาการหลังได้รับเชื้อเข้าไป 1- 2 สัปดาห์ โดยมีอาการที่สำคัญ คือ ไข้สูงเฉียบพลัน ปวดศีรษะอย่างรุนแรง ปวด กล้ามเนื้อบริเวณน่อง/โคนขา คลื่นไส้อาเจียน ท้องเดิน ตาแดง มีจุดเลือดออกตามผิวหนังไอมีเลือดปน ปัสสาวะน้อย ซึม อาการเหล่านี้หากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้เสียชีวิตได้
ดังนั้น ถ้ามีไข้ ปวดศีรษะรุนแรง ปวดกล้ามเนื้อ (โดยเฉพาะที่ โคนขาหรือน่อง) หลังจากแช่น้ำ เยียบย่ำ พื้นที่ชื้นแฉะ ภายใน 7 วัน ให้สงสัยว่าเป็นโรคนี้ และรีบไปพบแพทย์ เพื่อรับการวินิจฉัยรักษาที่ถูกต้อง จึงขอเตือนประชาชนชาวลำปางทุกท่าน ช่วยกันเฝ้าระวังควบคุม ป้องกันโรค
เนื่องจากช่วงนี้เข้าสู่ฤดูฝน จึงมีโอกาสเสี่ยงสัมผัสกับน้ำที่อาจปนเปื้อนเชื้อโรค Leptospirosis หรือโรคฉี่หนู จึง ควรหลีกเลี่ยงการแช่น้ำ ลุยน้ำในขณะที่มีน้ำท่วมขัง ถ้าหากจำเป็น ต้องพยายามไม่ให้น้ำเข้าตา หรือปาก
สำหรับผู้ที่มีอาชีพต้องแช่น้ำนานๆ หรือต้องเหยียบพื้นดินแฉะอยู่เสมอ ควรสวมรองเท้าบู๊ทที่เหมาะสมสามารถ ป้องกันน้ำได้ เพื่อเป็นการป้องกันเชื้อโรค จมูก • ถ้ามีบาดแผลหรือรอยถลอก ควรปิดปลาสเตอร์ก่อนลงน้ำ • ปรับสภาพสิ่งแวดล้อม เช่น ระบบระบายน้ำ ทำแนวทางเดินให้สูงกว่าพื้นปกติ ถางหญ้าบริเวณทางเดินและใกล้