สิบโมงยังไม่ตื่น! แม่ผัวใช้ไม้แข็งปลุกสะใภ้ถึงเตียง กระชากผ้าม่าน-ผ้าห่ม ทำขนาดนี้แต่ตอนจบเรื่องพลิก แม่โดนลูกชายสั่งสอนเสียเอง

ความขัดแย้งระหว่างแม่ผัวกับลูกสะใภ้เป็นเรื่องที่พบเห็นได้ในหลายครอบครัว แต่ไม่ใช่ครอบครัวที่รู้วิธีจัดการอย่างประนีประนอม และแก้ไขอย่างเหมาะสม ดังเช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในมณฑลหูเป่ย์ ประเทศจีน การกระทำของแม่สามีทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลฯ อย่างมากมาย

เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน ที่ผ่านมา มีการแชร์ภาพแม่สามีบุกเข้าไปในห้องนอนของลูกชายและลูกสะใภ้ กระชากทั้งผ้าม่านและผ้าห่ม ไม่พอใจสิบโมงแล้วยังไม่ตื่นออกจากห้อง ผิดหวังสะใภ้ไม่ใช่แม่บ้านอย่างที่คิด

ตามรายงานพบว่า หนุ่มสาวคู่นี้เพิ่งแต่งงานกันได้ไม่นาน แม้ว่าจะอาศัยอยู่กับพ่อแม่ของสามี แต่ทั้งคู่ก็ยังมีห้องนอนให้พักผ่อนอย่างเป็นส่วนตัวและสะดวกสบาย แต่เพียงไม่นานแม่สามีก็เริ่มเอะใจเมื่อพบว่าลูกสะใภ้ไม่ใช่ “แม่บ้าน” อย่างที่คิด เพราะไม่ทำงานบ้าน ทำอาหารไม่เป็น นอกจากออกไปทำงานข้างนอก ก็ทำเพียงนอนอยู่บ้านเท่านั้น

แม่สามีไม่พอใจกับสิ่งนี้มากและต้องการให้บทเรียนแก่ลูกสะใภ้ วันหนึ่งเธอตื่นแต่เช้าเพื่อทำความสะอาดบ้านและทำอาหาร แล้วจึงเฝ้ารอลูกชายและลูกสะใภ้ตื่นลงมา แต่เพราะคู่รักหนุ่มสาวยังคงอยู่ในห้องนอนจนถึง 10 โมงเช้า ทำให้แม่สามีโกรธและเสียใจมาก ตัดสินใจเข้าไปในห้องนอนของพวกเขาทันที

เมื่อเธอเปิดประตูเข้าไป เธอเห็นว่าลูกชายตื่นแล้วแต่ยังนอนดูโทรศัพท์อยู่บนเตียง ส่วนลูกสะใภ้ยังคงนอนหลับอุตุอยู่ใต้ผ้าห่ม แม่สามีจ้องไปที่ลูกชายทันทีแล้วเดินไปที่หน้าต่างเพื่อเปิดผ้าม่านออก ก่อนเดินกลับมาดึงผ้าห่มที่คลุมตัวลูกสะใภ้ออก ลูกสะใภ้ที่เพิ่งตื่นมีอาการเขินอายเพราะชุดนอนที่ใส่อยู่ แต่แม่สามีไม่สนใจ รีบหอบผ้าห่มออกจากห้องทันที

เมื่อเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ ลูกชายจึงใช้วิธีตักเตือนแม่อย่างชาญฉลาดว่า คราวหน้าให้เคาะประตูก่อนเข้าไป เพราะนี่คือห้องส่วนตัวของพวกเขา อย่างไรก็ตาม แม่สามียังคงโต้ตอบกลับมาว่านี่คือห้องของลูกชายเธอเอง และลูกสะใภ้ก็เป็นผู้หญิงเหมือนเธอ ดังนั้นไม่มีอะไรต้องอาย

หลังจากภาพเหล่านี้ถูกโพสต์ลงโลกโซเชียลฯ การกระทำของแม่สามีทำให้เกิดความคิดเห็นที่หลากหลาย

“แม่สามีไม่ควรทำอย่างนั้น มีวิธีเตือนลูกสะใภ้ให้อ่อนโยนกว่านี้ ทำแบบนี้มีแต่จะทำให้ความขัดแย้งในครอบครัวตึงเครียดมากขึ้น”

“ถ้าฉันเป็นแม่สามี ฉันจะไม่ยอมรับลูกสะใภ้แบบนี้เหมือนกัน ขี้เกียจและไม่คิดจะเปลี่ยนแปลง”

“เรื่องครอบครัวอื่นๆ ผมไม่รู้ ผมไม่กล้าออกความเห็น แต่พฤติกรรมแบบนี้มันหยาบคายจริงๆ ที่บุกเข้าไปในห้องส่วนตัวของใครบางคนโดยไม่ได้รับความยินยอม”