รีวิว “realme 11 Pro+ 5G” ไม่ได้มีดีแค่บอดี้สวยแต่มันทำอะไรได้มากกว่าที่คุณเห็น

Home » รีวิว “realme 11 Pro+ 5G” ไม่ได้มีดีแค่บอดี้สวยแต่มันทำอะไรได้มากกว่าที่คุณเห็น
รีวิว “realme 11 Pro+ 5G” ไม่ได้มีดีแค่บอดี้สวยแต่มันทำอะไรได้มากกว่าที่คุณเห็น

 กลับมาพบกับรีวิวจากทีม Sanook Hitech อีกครั้งหลังจากที่ realme 11 Pro Series เผยโฉมออกในตลาดโลกและในไทยไม่นาน วันนี้ ทีม Sanook Hitech จะพาคุณมาเจาะลึกรู้จักให้มากขึ้นกับ realme 11 Pro+ 5G ตัวนี้ว่ามันจะโดดเด่นอย่างไร พร้อมแล้วมาเริ่มกันเลย

batch_img_20230609_122517

รายละเอียดสเปกของ realme 11 Pro+ 5G

  • ขนาดตัวเครื่อง 161.6 x 73.9 x 8.2 – 8.7 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก 183 กรัม
  • หน้าจอขนาด 6.7 นิ้ว ใช้หน้าจอ AMOLED สีสัน 1 พันล้านสี
  • ความละเอียดหน้าจอ : 1080 x 2412 พิกเซล, Refresh Rate 120Hz ความสว่าง 950 nits
  • กระจกหน้าจอ : ไม่ได้ระบุ
  • มาตรฐานการกันน้ำ : ไม่ได้ระบุ
  • ชิปเซ็ต : MediaTek Dimensity 7050 | GPU: Mali-G68 MC4
  • RAM: 12GB + Dash Memory Engine เพิ่มแบบ VRAM สูงสุด 12GB
  • ความจำในตัว : 512GB 
  • ไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำได้
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 13 + realme UI 4.1
  • การเชื่อมต่อ 5G / 4G/ Wi-Fi 802.11 B/G/N/AC/AX(6), Bluetooth 5.2, GPS, A-GPS, NFC
  • ช่องเสียบ : USB-C
  • รองรับ Nano SIM ทั้งหมด 2 ช่อง
  • ระบบเสียง : ลำโพงคู่ทั้งบนและล่าง
  • ระบบไมโครโฟน : 2 ด้านบนและล่าง
  • กล้องมีหลังประกอบด้วย 3 ตัวด้วยกันประกอบด้วย
    • กล้องหลักความละเอียด 200 ล้านพิกเซล F/1.7 รองรับ PDAF, OIS
    • กล้องมุมกว้าง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มุมมองกว้าง 112 องศา
    • กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
    • รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K 30 FPS, 1080p 480/120/60/30 FPS, 720p 960 FPS
    • LED Flash
  • กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล FHD 30 FPS
  • แบตเตอรี่ 5000 mAh รองรับกำลังชาร์จไฟ 100W
  • ระบบความปลอดภัย : สแกนใบหน้า และสแกนนิ้วมือในหน้าจอ
  • สี : Sunrise Beige, Oasis Green

แกะกล่อง realme 11 Pro+ 5G

batch_img_20230609_122612

  • ตัวเครื่อง realme 11 Pro+ 5G
  • เคสใสของเครื่อง
  • สายชาร์จไฟ USB-C to USB-A
  • Adapter กำลัง 100W (Super VOOC)
  • คู่มือ / ระบบความปลอดภัย

รูปลักษณ์ดีไซน์ของ realme 11 Pro+ 5G

เริ่มต้นจาก realme 11 Pro+ 5G จะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.7 นิ้วและเป็นจอโค้งที่สามารถใช้งานได้ดีหลายคนกลัวขอบลั่นแต่จากที่ทดลองแล้วปรากฏว่าน้อยลงกว่ารุ่นเดิมเพราะไม่ได้โค้งมากอย่างที่คิด ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด FHD+ และได้ความสว่างที่มากอยู่

batch_dsc04350

ส่วนบนจะมีกล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล และมีเซนเซอร์ของเครื่องทั้งการจับหน้าจอเวลาโทรและแสงมากเกินไปหรือไม่

batch_dsc04353

ส่วนล่างมีปุ่มควบคุมระบบปฏิบัติการ Android สามารถเลือกได้ทั้งปุ่มปกติ หรือ การปัด โดยเปลี่ยนได้ในตั้งค่า > ค้นหาคำว่า การควบคุมหรือ Navigate

batch_dsc04354

รอบตัวเครื่องถูกเลือกใช้ผิวโครเมี่ยม แตกต่างกัน โดยสีที่เราได้รับมาคือ “Sunrise Beige” ขอบทั้งหมดจะเป็นสีทองและดูเงางาม เริ่มต้นจากฝั่งซ้ายไม่มีช่องเสียหรือช่องใส่ซิม ไว้ดูเป็นความเงาของเครื่อง

batch_dsc04365

ฝั่งขวาจะมีปุ่มเพิ่มลดระดับเสียง และ Power ปกติ เพราะรุ่นนี้สแกนลายนิ้วมืออยู่ในหน้าจอเหมือนกับ realme 10 Pro+ 5G ทั้งนี้การบันทึกหน้าจอหรือ Capture Screen ทำได้ 2 วิธี

batch_dsc04362

  • ใช้ 3 นิ้วปัดหน้าจอลงมา
  • กดปุ่ม Power + ลดระดับเสียง

ด้านบนจะมีลำโพงตัวที่ 2 และไมโครโฟนตัวที่ 2 ติดตั้งมาให้

batch_dsc04361

ด้านล่างมีทั้งช่องใส่ซิม Nano SIM 2 ช่อง, USB-C, ไมโครโฟน และลำโพงตัวหลัก

batch_dsc04358

batch_20230620_141527

ไฮไลท์มือถือรุ่นนี้คือด้านหลังที่ออกแบบดูแพงกับการใช้ Premium Lychee Vegan Leather เฉพาะสี Sunrise Beige, Oasis Green ส่วนสีดจะเป็นวัสดุกระจกแทน โดยมีการใช้เส้นสีส้มตรงกลางทำเหมือนซิปกระเป๋าที่ดูดีมีราคา แต่จริงๆ งานออกแบบของมือถือรุ่นนี้ตั้งใจทำให้เหมือนกับเป็นถนนที่ตัดผ่านตึก 2 ฝั่งนั่นเอง

batch_dsc04327

 

ต้องบอกว่ารอบนี้ realme กล้าเล่นดีไซน์แบบนี้ เพราะได้มือดีการออกแบบอย่าง Matteo Menotto (อดีตดีไซน์เนอร์ออกแบบลายพิมพ์ของแบรนด์ GUCCI) มาร่วมออกแบบ ช่วยให้ตัวเครื่องดูมีราคาแพง

ภาพรวมการออกแบบ / น้ำหนักของเครื่อง

batch_dsc04329

โดยรวมแล้ว realme 11 Pro+ 5G ออกแบบสมดุลเพราะน้ำหนักเครื่องที่รับรู้จากการถือโดยเฉพาะสีนี้อยู่ที่ 183 กรัมเท่านั้นกลายเป้นมือถือรุ่นหนึ่งที่มีน้ำหนักเบาอีกรุ่นในกลุ่ม และถ้าเป็นแบบ Premium Leather Vegan ใช้คำว่าไม่อยากใส่เคสเลย เพราะมันผิวสัมผัสมันนุ่มนิ่มกับมือมากพอตัวเลย ครับ

การแสดงผลหน้าจอ / ระบบเสียง

batch_20230615_125238

การแสดงผลหน้าจอของ realme 11 Pro+ 5G ยังให้ความคมชัดสูงนอกจากความละเอียด FHD+ แล้วยังมีค่าสีที่ตรงและสวยเพราะใช้หน้าจอ AMOLED นั่นเอง แถมยังแตะสัมผัสได้ทันใจเวลาเล่นเกม จะมีจุดสังเกตคือบาง Content เท่านั้นที่ได้ค่า Refresh Rate 120Hz

batch_dsc04358
batch_dsc04361

ส่วนลำโพงรุ่นนี้ติดตั้งมาให้ 2 ตัวเครื่องแต่จากการที่ลองฟังแล้วพบว่าลำโพงด้านล่างจะดังกว่าดานบนเหมือนกับด้านบนจะมีอาการอั้นกว่าชัดเจน อย่างไรก็ดียังรองรับการเสียบ ตัวแปลง 3.5 มิลลิเมตรและ Bluetooth A2DP, aptx เน้นคุณภาพเสียงอยู่นะ

ประสิทธิภาพ / การทดลองเล่นเกม / การใช้งานกับเครือข่าย และการเชื่อมต่อ

 batch_screenshot_2023-06-15-1

batch_screenshot_2023-06-15-0

batch_screenshot_2023-06-25-0

จากที่เห็นคะแนน ทั้ง Antutu, 3DMark และ Geekbench 5 ต้องบอกว่าขุมพลัง MediaTek Dimensity 7050 ไม่ได้เน้นคะแนนที่สูงมากนักเท่ากับการเล่นเกม มันทำได้แต่การประมวลผล 3D หรือการ Render อาจจะต้องรอคอยสักหน่อยครับ

batch_re_11_game

แต่อย่างไรก็ตาม realme ก็ติดตั้งตัวช่วยการเล่นเกมทำให้สามารถในเครื่องมีทั้งปรับประสิทธิภาพสูงขึ้น บันทึกหน้าจอ ปิดการแจ้งเตือน และแสดงผล Popup หน้าจอได้เช่นเดียวกัน

batch_20230615_093352

ส่วนการเชื่อมต่อรองรับ 5G/4G, Wi-Fi 6, Bluetooth 5.2, ระบบการเชื่อมต่อ GPS, A-GPS การใช้นำทางถือว่าตอบโจทย์ได้ดีอยู่ครับมีความแม่นยำ แต่ใส่ซิม 5G จะเป็น Dual Standby

ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ภายใน / ระบบความปลอดภัย

batch_re11_pro_ui

batch_re11_pro_mu

ทางด้านระบบปฏิบัติการของ realme 11 Pro+ 5G จะมาพร้อมกับ Android 13 ใหม่ล่าสุดและ realme 4.0 ตัวระบบปฏิบัติการสามารถปรับได้ตามใจคุณตั้งแต่ Folder, รูปแบบ icon และ สีสันของภายใน และยังสามารถใช้งานแบบ Multi Window และ การ Popup Apps

batch_re_11_tools

ฟีเจอร์ภายในถือว่าครบเครื่อง มีทั้งเครื่องคิดเลข, เครื่องอัดเสียง, เข็มทิศ และอื่นๆ ถ้าไม่พอสามารถดาวน์โหลดเพิ่มได้

batch_re_11_fing

ระบบความปลอดภัยจะมาพร้อมกับสแกนลายนิ้วมือ, สแกนใบหน้ามาให้เหมือนเดิม

เปิดกล้องลองถ่ายภาพ realme 11 Pro+ 5G ประกอบด้วย

batch_dsc04332

  • กล้องมีหลังประกอบด้วย 3 ตัวด้วยกันประกอบด้วย
    • กล้องหลักความละเอียด 200 ล้านพิกเซล F/1.7 รองรับ PDAF, OIS
    • กล้องมุมกว้าง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มุมมองกว้าง 112 องศา
    • กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
    • รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K 30 FPS, 1080p 480/120/60/30 FPS, 720p 960 FPS
    • LED Flash
  • กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล FHD 30 FPS

ฟีเจอร์ภายในของกล้อง

batch_re_11_cam

มาดูฟีเจอร์การถ่ายภาพกันพบว่าคล้ายๆ กับ realme 9 Pro+ เป็นต้นมา มีให้เลือกทั้งโหมด Street เล่นฟิลเตอร์ได้ วิดีโอมีฟีเจอร์การช่วยกันสั่นที่ดีมากขึ้นหนักแน่นขึ้น นอกจากนี้ยังฟีเจอร์โหมดโปรมาให้เลือกใช้อยู่ พร้อมกับระบบ Auto Zoom แตะแล้วซูมได้ทันที

batch_re_11_fcam

เช่นเดียวกับกล้องหน้าเพราะมีลูกเล่นช่วยละลายหลังได้เยอะ แต่ว่ามีข้อสังเกตหน่อย ถ้าปรับให้ละลายหลังสำหรับวิดีโอและภาพนิ่ง โดยไม่ใช้ฟิลเตอร์พบว่ามันจะลดความละเอียดลงเหลือ 720p

ผลงานตัวอย่างภาพของ realme 11 Pro+ 5G

 (กล้องหลัง)

ภาพกลางวัน

batch_img20230610172416
batch_img20230610172418
batch_img20230610172420
batch_img20230610172422
batch_img20230610172427
batch_img20230610172431
batch_img20230610175325
batch_img20230610181743

ภาพกลางคืน

batch_img20230101075553
batch_img20230101080314
batch_img20230101080320
batch_img20230101080335
batch_img20230101080339

ภาพอื่นๆ 

batch_img20230610172337
batch_img20230610175745
batch_img20230614130042

(กล้องหน้า)

batch_img20230101081826
batch_img20230610174653

แบตเตอรี่ / ระบบชาร์จไฟ

batch_re11_pro_batt

ขนาดแบตเตอรี่อยู่ที่ 5000 mAh ถือว่าใหญ่ สามารถใช้งานได้ทั้งวันได้สบายๆ และมีลูกเล่นช่วยประหยัดพลังงานและรักษาแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้นาน การทดสอบ PCMark อยู่ได้ 16:33 ชั่วโมง (จาก 100 – 19%)

batch_screenshot_2023-06-13-2

ส่วนระบบชาร์จไฟของเครื่องรุ่นนี้จะรองรับกำลัง 100W และให้ติดกล่องมาให้ในกล่องด้วยครับ ถ้าใครทำแบตฯหมด และต้องการชาร์จไฟให้เร็วแกะที่ชาร์จติดกล่องมาให้ได้เลย แต่ถ้าใช้ที่ชาร์จอื่นๆ เสียบกับมือถือรุ่นนี้จะได้กำลังสูงสุด 18W เท่านั้น

สรุปหลังสัมผัส realme 11 Pro+ 5G มือถือสุดสวยและความรู้สึกหลังที่ทีม Sanook Hitech ได้ลอง

batch_dsc04366

มาทั้งหมดนี้ต้องบอกว่า realme 11 Pro+ 5G เป็นอีกมือถือรุ่นหนึ่งที่ใช้งานออกแบบสวยมาก แต่ภายในเน้นเรื่องการถ่ายภาพ มากกว่ารองมาคือการใช้งานทั่วไป เกมสักน้อยหน่อย ดังนั้นใครที่มองหามือถือรุ่นกลางที่ถ่ายภาพดี realme 11 Pro+ 5G ผมว่าเลือกได้เลย

เพราะ นานๆ ที realme จะทำมือถือสวยแบบน่าจดจำจนเรียกว่า ถ้าใครได้จับมีต้องหลงอย่างแน่นอน เพราะราคาของเครื่องมีดังนี้

  • realme 11 Pro 5G = 12,999 บาท มีสี Sunrise Beige และ Astral Black
  • realme 11 Pro+ 5G = 16,999 บาท มีให้เลือก 2 สีคือ Sunrise Beige และ Oasis Green

โปรโมชั่นของทั้งคู่ สามารถพรีออเดอร์ได้ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน – 6 กรกฎาคมผ่านช่องทาง realme Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ โดยสามารถสั่งจองได้ในราคาเพียง 500 บาท พิเศษสำหรับช่วงพรีออเดอร์รับของแถมฟรี! มูลค่า 9,999 บาท และรับส่วนลดเพิ่มเติมตามแต่ละ ช่องทาง หรือสามารถเป็นเจ้าของได้พร้อมกันตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคมเป็นต้นไป รับฟรี realme Gift Box มูลค่า 1,999 บาท

และส่วนลด 1,000 บาทจากช่องทางออนไลน์ (Lazada) ตั้งแต่ 30 มิถุนายน – 6 กรกฏาคม (ในรุ่น realme 11 Pro 5G จะเริ่มก่อนในวันที่ 29 มิถุนายน – 6 กรกฎาคม)

แต่ถ้าราคาของตัวท็อปแพงไปรุ่น 11 Pro 5G ก็ยังน่าเลือกต่างกันที่ความละเอียดและตัดเลนส์มุมกว้างออกไปเท่านั้น แต่งานออกแบบเหมือนกันเลย โดยสรุปแล้ว realme 11 Pro Series เน้นเรื่องการออกแบบที่โดดเด่นและยังฟีเจอร์ไม่ขาดตกบกพร่อง เหลือแค่คุณมีงบและความต้องการแบบไหนเลือกได้ทั้งคู่เลยครับ

 batch_dsc04333

จุดเด่น

  • งานออกแบบสวยและน่าจดจำ
  • กล้องโดดเด่นโดยเฉพาะตัวหลักทำงานได้รวดเร็วและโฟกัสดี
  • ระบบปฏิบัติการใหม่ ยังไงก็ได้ไปต่อแน่นอน
  • ระบบชาร์จไฟเร็วมาก
  • แบตเตอรี่ถือว่าโดดเด่นใช้งานได้นาน
  • ความจำเยอะที่สุดของมือถือ Number Series ของ realme

ข้อสังเกต

  • ขุมพลังใหม่แต่ไม่ได้เน้นแรง
  • ชาร์จไฟด้วยอุปกรณ์ที่ไม่ใช่ในกล่อง จะช้าไปหน่อย

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ