ที่มุมหนึ่งของเมืองเล็กๆ อย่างเจียวจั้ว มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน มีร้านขายซาลาเปาร้านเล็กๆ ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องซาลาเปาแสนอร่อย ไม่เพียงแต่นุ่มเท่านั้น แต่ยังมีรสชาติเข้มข้นด้วย อีกทั้งเจ้าของยังเป็นคนใจดีมีเมตตา มักจะให้อาหารฟรีแก่ผู้ที่ต้องการ โดยที่ไม่คาดคิดว่าวันดีคืนดีน้ำใจที่ให้ไป จะได้รับผลตอบแทนเป็นการเอาซาลาเปาฟาดหน้า
หนึ่งในคนที่เข้าไปรับซาลาเปาฟรีมาทานทุกวัน คือหญิงชราผู้น่าสงสารวัย 80 ปี เธอมักจะหาเลี้ยงชีพด้วยการเก็บขยะ และชีวิตของเธอก็ลำบากมากๆ เริ่มจากวันหนึ่งที่คุณยายเดินเข้ามาที่ร้าน ได้รับการต้อนรับเธออย่างอบอุ่นจากพนักงาน อีกทั้งยังยื่นตะกร้าซาลาเปาอบสดใหม่ให้ทาน คุณยายรับมันอย่างซาบซึ้ง น้ำตาก็รื้นหยิบซาลาเปาทานด้วยมือที่สั่นเทา หลังจากนั้นเธอก็มาที่นี่เพื่อรับประทานอาหารเช้าฟรีทุกวัน ร้านแห่งนี้กลายเป็นร่องรอยของความอบอุ่นในชีวิตประจำวันของเธอ
อย่างไรก็ตาม เช้าวันหนึ่งในปีต่อมา เธอพบว่าซาลาเปาที่ได้รับมีตำหนิเล็กน้อย เนื้อแป้งแตกเผยให้เห็นไส้เล็กๆ ซึ่งดูไม่สมบูรณ์ คุณยายเริ่มบ่นอย่างไม่พอใจและขอซาลาเปาชิ้นใหม่ พนักงานพยายามอธิบายว่ามันเป็นเพียงปัญหาเล็กน้อย และไม่ได้ทำให้รสชาติของซาลาเปาเปลี่ยนแปลง แต่เธอยังยืนยันที่จะเปลี่ยนซาลาเปาชิ้นใหม่ และเริ่มอารมณ์เสียเพราะเอาเองว่า เจ้าของร้านคงเอาแป้งเน่าๆ มาให้กินทุกเช้า
ในเวลาเดียวกัน คุณยายเห็นซาลาเปาอีกตะกร้าที่เพิ่งออกจากหม้อ ทุกลูกอวบอ้วนน่าทาน เธอจึงพยายามคว้าซาลาเปาที่เพิ่งอบใหม่ด้วยมือ แต่พนักงานก็รีบย้ายหม้อนึ่งหนีด้วยเหตุผลด้านสุขอนามัย การกระทำนี้ทำให้คุณยายโกรธมากขึ้นไปอีก เธอหยิบซาลาเปาที่ได้มาขว้างไปฟาดกับหน้าพนักงานเต็มๆ
หลังจากที่เจ้าของร้านกลับมา เขาตรวจสอบกล้องวงจรปิดและบอกว่าเขาเสียใจมากกับสถานการณ์นี้ เพราะความใจดีเล็กน้อยของเขาทำให้คนอื่นก้าวร้าว และสุดท้ายก็ทำให้พนักงานในร้านได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าใจหายจริงๆ
ขณะที่ชาวเน็ตเมื่อได้รับชมคลิปแล้วต่างประณามพฤติกรรมของหญิงชรา โดยคิดว่าเธอโชคดีที่ได้อยู่ในสังคมที่ผู้คนมีจิตใจอบอุ่น แต่นอกจากเธอจะไม่เข้าใจน้ำใจของผู้อื่น และไม่รู้จักขอบคุณแล้ว ยังทำพฤติกรรมแย่ๆ เพราะชินกับการเป็น “ผู้รับ” อีกทั้งยังโหยหาและเรียกร้องมากขึ้น
ทั้งนี้ หากมองกันตามกฎหมาย พฤติกรรมของหญิงชราต้องสงสัยว่าฉกชิงวิ่งราว และจงใจทำร้ายร่างกาย ซึ่งการฉกชิงวิ่งราวเป็นการละเมิดกฎหมายอาญา และการกระทำให้ได้รับบาดเจ็บโดยเจตนา เป็นการละเมิดกฎหมายบริหารความมั่นคงสาธารณะ มาตรา 43 จะต้องถูกควบคุมตัวเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5-10 วัน และจะต้องถูกปรับไม่น้อยกว่า 200-500 หยวน
ดังนั้นจะเห็นว่าพฤติกรรมของหญิงชราอาจมีโทษทั้งกักขังและปรับ แต่เนื่องจากพฤติการณ์ของพฤติกรรมยังน้อย และอายุของเธอเกิน 70 ปีแล้ว เธอจึงอาจได้รับเพียงการอบรมและตักเตือนเท่านั้น