ผู้ว่าฯ อุดรธานี ขอบคุณ “ลิซ่า BLACKPINK” ที่สร้างมูลค่า “ผ้ามัดหมี่ย้อมครามหมักโคลน” ทำให้คนทั่วโลกรู้จัก ยอดขายพุ่ง กลุ่มทอผ้ามีรายได้
หลังจากนักร้องสาวคนดังอย่าง ลิซ่า BLACKPINK หรือ ลลิษา มโนบาล โพสต์อินสตาแกรมสวมผ้าไทย “ผ้ามัดหมี่ย้อมครามหมักโคลน” ซึ่งเป็นผ้าทอลายโบราณจากร้านชานเรือน ตลาดผ้านาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี ไปเที่ยววัดที่ จ.พระนครศรีอยุธยา กับกลุ่มเพื่อนๆ เป็นการปลุกกระแสผ้าไทยโด่งดังรู้จักไปทั่วโลก
- “ลิซ่า” ใส่ผ้าไทยเที่ยวอยุธยา สุดปังเตรียมรับพลังซอฟต์พาวเวอร์
- ลิซ่านุ่งซิ่น ทำยอดขายถล่มทลาย เปิดใจแม่ดาราดังเจ้าของร้าน ดีใจแต่ก็หนักใจ
ล่าสุด วันนี้ (7 มิ.ย.) นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้ออกมาขอขอบคุณน้องลิซ่า BLACKPINK น.ส.ลลิษา มโนบาล ที่ทำให้ผ้ามัดหมี่ย้อมครามหมักโคลนจากร้านชานเรือนนาข่า ตลาดผ้าบ้านนาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี ได้เป็นที่รู้จักแก่สายตาชาวโลก ทำให้เกิดกระแสมีคนมาติดตามซื้อผ้าที่น้องลิซ่าสวมใส่เป็นจำนวนมาก
“จังหวัดอุดรธานี มีกลุ่มที่ทำการทอผ้ากว่า 500 กลุ่ม มีสมาชิกจำนวน 2,500 คน มีรายได้จากการจำหน่ายผ้าในปีที่ผ่านมา 3 พันกว่าล้านบาท และจังหวัดอุดรธานียังได้มีการส่งเสริม เพิ่มทักษะให้กับกลุ่มอาชีพอย่างสม่ำเสมอ
โดยเฉพาะการอบรมให้ความรู้ในด้านการย้อมสีธรรมชาติ เพื่อให้ได้ผ้าที่มีความสวยงามและเป็นการลดการใช้สารเคมี รวมทั้งสอดคล้องกับกรอบแนวคิดสิ่งทอรักษ์โลก BCG Model
เชิญชวนผู้ที่สนใจซื้อผ้าย้อมครามหมักโคลนอุดรธานี ได้ที่เบอร์ 09-8996-4465 หรือติดต่อสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุดรธานี โทร 0-4222-1592” ผู้ว่าฯ อุดรธานี กล่าว
ขณะที่ นางสุวิมล ไชยวงศ์ อายุ 61 ปี เจ้าของร้านชานเรือน นาข่า และเป็นคุณแม่ของนางเอกสาว เดียร์น่า ฟลีโป นักแสดงสังกัดช่อง 3 เล่าว่า มียอดสั่งซื้อเข้าเป็นจำนวนมาก ผ้าลาย “ขอนาค”ไม่มีในสต็อก ตอนนี้เร่งทอตามคำสั่งซื้อจากลูกค้า ซึ่งลูกค้าต้องรออย่างน้อย 1 เดือน ตามคิวสั่งจอง เพราะเป็นงานทอมือ
ซึ่งคนที่จะตามรอยน้องลิซ่าต้องเป็นผ้าทอมือเท่านั้น โดยผ้าซิ่นที่ตัดสำเร็จแล้วราคาจะอยู่ที่ 2,800 บาท ทุกไซส์ ทุกขนาด ขอบคุณที่ช่วยให้ทุกคนหันมาอุดหนุนผ้าทอมือ เป็นการสร้างมูลค่าให้กับผ้าทอมือในทุกขั้นตอน เริ่มจากมัดหมี่ ย้อมคราม ทอมือ ซึ่งตอนนี้จะทำลายที่น้องลิซ่าสวมใส่ เพื่อรอรับลูกค้าที่เป็นแฟนคลับน้องลิซ่า
ส่วน นางรัชนก วงแก้ว เจ้าของร้านวงแก้ว ผ้าทอมือที่ตลาดผ้านาช่า เล่าว่า อยากขอบคุณลิซ่า ที่ทำให้คนไทยหันมาใส่ผ้าซิ่น ผ้าทอมือ เพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมไทยให้คงคู่สังคมไทย วันนี้ผ้าทอมือเงียบเหงามาก
ทุกคนหันไปสวมใส่ผ้าพิมพ์ที่ทำเลียนแบบผ้าทอมือ เพราะราคาถูกกว่าสวยกว่า แต่สวมใส่ไม่สบายเพราะเนื้อผ้าแข็ง สีตก ใส่นานๆ สีซีด ในขณะที่ผ้าทอมือสวมใส่เย็นสบาย ยิ่งใส่ยิ่งนิ่ม สีไม่ตก สีสันคงทนสวยงาม
จึงอยากเชิญชวนประชาชนอุดหนุดผ้าทอมือ เพื่อช่วยกระจายรายได้แก่ชุมชน ผ้าทอมีคุณค่าทางจิตใจ เป็นจิตวิญญาณ ภูมิปัญหาบรรพบุรุษ ช่วยอุดหนุดผ้าทอมือ ผู้ผลิต ผู้ประกอบการอยู่ได้ รายได้หมุนเวียนในชุมชน