ผัวเมียร่ำไห้โฮ! เป็นดีลเลอร์บริษัทอาหารไก่ สุดปังทำยอดขายได้ปีละ 90 ล้าน จู่ๆเป็นหนี้ 7 ล้าน เหตุบริษัท ไม่แจ้งเพิ่มราคาต่อกระสอบ เซลล์ไม่แจ้งให้ทราบ
เมื่อวันที่ 22 พ.ค.66 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นายสมบูรณ์ อายุ 49 ปี และน.ส.ยศพร อายุ 45 ปี 2สามีภรรยาชาว จ.อุดรธานี เมื่อคืนวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา ว่ากำลังเดือดร้อนและทุกข์ใจอย่างหนัก หลังจากเป็นตัวแทนจำหน่ายหรือดีลเลอร์ขายอาหารสัตว์ไก่ ให้กับบริษัทชื่อดังที่นครนายก ทำมาเกือบ 1 ปี ทำยอดขายให้กับบริษัทเกือบร้อยล้าน จู่ๆ กลับเป็นหนี้โดยไม่ทันตั้งใจ เหตุเพราะขายอยู่ดีๆ บริษัทไม่แจ้งเพิ่มราคาต่อกระสอบ ทำให้เป็นหนี้เกือบ 7 ล้าน
นายสมบูรณ์ ชาวจ.อุดรธานี เปิดเผยว่า ตนเปิดเพจกลุ่มคนเลี้ยงไก่มาหลาย 10 ปี ต่อมาเมื่อต้นปี 2564 มีบริษัทฯ อาหารสัตว์แห่งหนึ่งใน จ.นครนายก เจ้าของเป็นอดีตนายกสมาคมค้าไข่ส่งออกแห่งประเทศไทย เพิ่งเปิดโรงงานใหม่ติดต่อมายังตน ขอให้ขายอาหารสัตว์ให้ โดยจะให้ลูกละ 5 บาท (กระสอบละ 5 บาท) และยอดโปรโมชั่นอีก ตนเห็นเป็นช่องทางที่จะทำให้เพิ่มรายได้ให้กับครอบครัวได้ จึงตัดสินใจลองทำดู
จากนั้นตนก็นำไปโพสต์กับกลุ่มสมาชิก ปรากฏว่าได้ผลตอบรับเป็นอย่างดี ยอดขายของบริษัทดีมาก จากบริษัทที่โนเนม ตนทำยอดขายให้กับบริษัทนี้ได้ยอดปีละ 90 ล้านบาท พอขายมาได้ 1 ปี ปรากฏว่าเซลล์ไม่แจ้งการปรับราคาของอาหารสัตว์ ให้พวกตนทราบเลย จู่ๆ ตนก็เป็นหนี้กว่า 7 ล้านบาท เราก็ตกใจทำไมขายให้อยู่ดีๆ เป็นหนี้ถึงเพียงนี้ ในเมื่อคุณไม่แจ้งการปรับราคาต่อกระสอบให้เลย
“ผมเลยโทรไปหาเซลล์มีอะไรปิดผมหรือเปล่า เขาจึงเอาใบแจ้งราคาใหม่มาให้ จากราคากระสอบละ 350 บาท เป็น 380 บาท ทำแบบนี้ทำให้ครอบครัวลำบากมาก ยิ่งขายดียิ่งขาดทุน ยอมรับผมเครียดมากจากบริษัทโนเนมอาหารสัตว์แห่งนี้ ผมทำยอดขายให้ปีละ 90 ล้านบาท แต่จู่ๆ มาเป็นหนี้แบบนี้ อยากให้เห็นใจพวกผมบ้าง แถมลูกค้าเก่าผมหลายรายเซลล์ ยังไปขายตีกินไปติดต่อกับลูกค้าเอง” นายสมบูรณ์ กล่าว
น.ส.ยศพร เปิดเผยว่า บริษัททำไมทำกับพวกเราอย่างนี้ เราซื่อสัตย์ต่อโรงงาน เราค้าขายกันมาเป็นปี สามีทำตลาดให้กับบริษัทอาหารสัตว์แห่งนี้ มียอดหลายพันตัน ปีละเกือบ 90 ล้าน เงินที่ลูกค้าโอนมาให้พวกตน ตนก็โอนให้บริษัทไปทันที แม้เราจะได้เครดิต 30 วัน แต่จู่ๆ เดือนก.พ.65 บริษัทบอกว่าเราเป็นหนี้ 7 ล้าน ทั้งๆ ที่การปรับขึ้นราคาต่อกระสอบไม่แจ้งเราเลย บริษัทก็โทรมาให้เราใช้หนี้ หากไม่มีก็เอาบ้านไปค้ำประกันก็ได้ เขาพาไปที่ดินแต่การค้ำประกันบ้านเรื่องหนี้กลับเป็นขายฝาก
“ดิฉันโทรไปหาลูกเขยของเจ้าของบริษัท เขาบอกว่าพยายามปิดหนี้ให้ได้ อย่าไปฟ้องคนก่อตั้งบริษัท ทำแบบนั้นชีวิตคุณจะมีปัญหา ตอนนี้ตนและสามีเครียดมาก จนสามีป่วยเป็นเส้นเลือดสมองตีบพูดไม่ชัด อยากจะวิงวอนบริษัทเห็นใจพวกเราบ้าง มูลหนี้ที่เราไม่ได้ก่อ และทางบริษัทไม่แจ้งการปรับราคาอาหารสัตว์ต่อกระสอบให้เรารู้เลย” น.ส.ยศพร กล่าว
ด้าน นายภาณุมาศ จิตรวศินกุล หรือ เฮียเปี๊ยกช่วยด้วย เปิดเผยว่า จากการที่ได้มาพูดคุยพบว่า 2สามีภรรยาถูกบริษัทอาหารสัตว์ที่ จ.นครนายก หลอกให้ขายอาหารสัตว์ พอยอดขายโตและมียอดสั่งเยอะ ความอยากได้ดันไม่ส่งราคาอาหารสัตว์ให้เขาทราบว่าปรับราคา จู่ๆ เขาก็เป็นหนี้อีก ทำอย่างนี้ได้ไง
มูลหนี้ไม่ได้เกิดจาก 2 สามีภรรยา เป็นมูลหนี้ที่จะตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจ การไม่แจ้งราคาปรับขึ้นให้กับดีลเลอร์ทราบ และไม่แจ้งการปรับราคาให้เขาทราบเลย คุณมีเจตนาอะไรหรือเปล่า พอนายสมบูรณ์ไปทวงถามจึงแจ้งมาทำให้ 2 สามีเป็นหนี้โดยไม่รู้เรื่อง
เงินที่ 2 สามีได้จากลูกค้าเขาก็โอนให้บริษัทเลย ทั้งๆ ที่เขาได้เครดิต 30 วันทำไมบริษัทไม่ท้วงว่าเงินไม่ครบ แบบนี้มีเจตนาแอบแฝงหรือไม่ ความผิดไม่ใช่อยู่ที่ดีลเลอร์แน่นอน ฝากถึงเจ้าของบริษัทไปสอบสวนเซลล์และผจก.มีอะไรเงื่อนงำหรือเปล่า จะโยนภาระหนี้เป็นล้านให้แก่ดีลเลอร์แบบนี้หรือ
แถมบอกทาง 2 สามีภรรยาแบบมัดมือชก ถ้าอยากค้าขายกันต่อต้องรับมูลหนี้ตรงนี้และให้เขาเอาบ้านไปค้ำประกัน แต่ดันเป็นขายฝาก และยังเสนอช่องทางจะช่วยปลดหนี้อีก 2% แต่ต้องเป็นลูกค้าใหม่ และเซลล์ไปตีกันเอาลูกค้าเก่าเขาไปหมด
ทำแบบนี้ได้ไง เขาปั้นแบรนด์ของคุณให้จนติดตลาด จากคุณที่เลี้ยงไก่แล้วมาทำอาหารสัตว์จนคนรู้จักแบรนด์คุณ ต้องถือว่าคุณน้องและสามีเขาทำรายได้ให้คุณ ปีละเกือบร้อยล้าน นอกจากนี้ ยังพบว่าดีลเลอร์อีกหลายจังหวัดฯ ก็เจอบริษัทโกงแบบนี้ด้วย เรื่องนี้จะพา 2 สามีภรรยาชาวจ.อุดรธานีไปร้อง สบค.แน่นอน