ชูวิทย์ ชี้ก้าวไกล อย่าหลงกลอำนาจเก่า ได้ไม่คุ้มเสีย ย้ำเสนอชื่อ พิธา วนไป

Home » ชูวิทย์ ชี้ก้าวไกล อย่าหลงกลอำนาจเก่า ได้ไม่คุ้มเสีย ย้ำเสนอชื่อ พิธา วนไป


ชูวิทย์ ชี้ก้าวไกล อย่าหลงกลอำนาจเก่า ได้ไม่คุ้มเสีย ย้ำเสนอชื่อ พิธา วนไป

ชูวิทย์ ชี้ก้าวไกล อย่าหลงกลอำนาจเก่า ได้ไม่คุ้มเสีย กุม 14 ล้านเสียงเป็นยันต์ ย้ำเสนอชื่อ พิธา เป็นนายกฯ ไปเรื่อยๆ ไม่ผ่านก็เสนออีก

วันที่ 20 พ.ค. 2566 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีพรรคก้าวไกลดีลจับมือพรรคชาติพัฒนากล้าร่วมรัฐบาล แต่ต่อมาถูกประชาชนวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดแฮชแท็กร้อนในทวิตเตอร์ขึ้นอันดับ 1 #มีกรณ์ไม่มีกู กระทั่งกลางดึกพรรคก้าวไกลได้ออกแถลงการณ์ขอโทษประชาชน และประกาศไม่จับมือร่วมกับพรรคชาติพัฒนากล้าแล้ว

  • อ่านข่าว ไม่เอาแล้ว! ก้าวไกล ขอโทษประชาชน ยันไม่ร่วมรัฐบาลกับ ” ชาติพัฒนากล้า”
  • อ่านข่าว “พิธา” ขอโทษประชาชน ลั่น “พรรคใหญ่กว่าคน ประชาชนใหญ่กว่าพรรค”
  • อ่านข่าว สุวัจน์ แถลงเข้าใจ ก้าวไกล ยุติดีลเข้าร่วมรัฐบาล ขอบคุณที่เชิญ ลั่นเป็นได้ทั้งฝ่ายค้าน-รัฐบาล

โดยนายชูวิทย์ ระบุว่า 2 เสียง แลก 14 ล้านเสียง พรรคก้าวไกลได้คะแนนจากประชาชนที่ความศรัทธาล้วนๆ แตกต่างจากพรรคการเมืองอื่นที่ต้องอาศัยระบบ “หัวคะแนนและกระสุน” พรรคก้าวไกลมี “หัวคะแนนธรรมชาติ” ลูกหลานคนในบ้านบอกเล่าให้พ่อแม่เลือก

การดำรงอยู่ของพรรคก้าวไกลจึงต้องรักษา “อุดมการณ์” อย่างมั่นคงแน่นแฟ้น เพราะเป็นสมบัติเดียวที่มี การนำเอาพรรคชาติพัฒนากล้าที่มี นายกรณ์ เป็นแกนนำพรรค มีเสียงอยู่ 2 เสียง มาเติมเพื่อให้นายพิธาได้เป็นนายกฯ มันได้ไม่คุ้มเสีย

พรรคก้าวไกลตอบรับเสียงของประชาชน จนตอนดึกเมื่อคืนบอกลา 2 เสียง บางคนบอกว่าให้มองข้าม และรวมเสียงให้ได้มากที่สุด เพื่อจะพึ่งเสียงของ ส.ว. ให้น้อยที่สุด แต่คะแนน 14 ล้านเสียงเป็น “ยันต์” ให้ก้าวไกลมั่นใจในเกมการขู่จาก “อำนาจเก่า”

ส.ว. ต้องการโหวตอย่างไร ก็เป็นเรื่องของ ส.ว. หากเสนอนายพิธาแล้วไม่ผ่าน ส.ว. ก็เสนอไปเรื่อยๆ จะอีกกี่ครั้งก็ได้ เพื่อทำให้เห็นว่า นายพิธาจะเป็นนายกฯ ได้ ย่อมมาจาก “บุญคุณของประชาชน” ไม่ใช่ “บุญคุณของ ส.ว.”

ยันไว้แบบนี้ อย่าหลงไปเล่นการเมืองยุค 2 G เพราะจำนวน 313 เสียงที่รวมมา เกินครึ่งไปมากแล้ว ในขณะที่คู่แข่งยังใช้ 2 G อยู่ อำนาจของกระแส 5 G ที่พรรคก้าวไกลใช้อยู่ จะพัฒนาได้ทัน

ในอีก 4 ปีข้างหน้าพรรคก้าวไกลจะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นเสมือน “สึนามิการเมือง” ได้ถึง 300 เสียง จัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว ไม่ต้องไปยืมจมูกคนอื่นหายใจ ที่ว่า “พรรคใหญ่กว่าคน ประชาชนใหญ่กว่าพรรค” แต่โซเชียลจะใหญ่ที่สุด

พรรคก้าวไกลไม่จำเป็นต้องไปปวดเศียรเวียนเกล้ากับ “MOU” ที่พรรคร่วมติติงว่า เท่ากับเอานโยบายของก้าวไกลไปใส่ไว้ ก้าวไกล คือ ผู้คนและการเดินทาง นี่แค่เริ่มต้น ผู้คนยังต้องเดินทางอีกไกลครับ

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ