สืบ บก.น.5 รวบสองผัวเมียแก๊งโจรกรรมรถ จยย.ออกอุบายจ่ายดาวน์ ก่อนส่งขายชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน
เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 9 พ.ค. 66 พ.ต.อ.ศริณวิชญ์ อินทร ผกก.สส.บก.น.5 พร้อมด้วย พ.ต.ท.วิสูตร เต็งเฉี้ยง สว.กก.สส.บก.น.5 นำกำลังฝ่ายสืบสวน บก.น.5 เข้าจับกุมตัว นางสาวอริสา มีไชยธร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง ที่638/2565 และนายอำนาจ สุขเลิศ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาพระโขนงที่ 639/2565 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ และร่วมกันพยายามลักทรัพย์ ,อั้งยี่,ซ่องโจร ได้ที่หน้าบ้าน ม.5 ต.หมอนนาง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 เม.ย. 65 เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากนางกิ๊ก (นามสมมุติ) พนักงานร้านขายรถจักรยานยนต์ ย่านบางจาก เขตพระขโนง ว่า ถูกกลุ่มของผู้ต้องหา ที่มี น.ส.อริสาและนายอำนาจ พร้อมพวกอีก 5 คน ทำทีมาขอเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ที่ร้าน โดยมีนายอธิติยา และนายธีรยุทธ ติดต่อขอเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเอดีวี 150 ซีซี ราคา 87,000 บาท โดยชำระเงินดาวน์ 35,400 บาท และผ่อนต่ออีก 24 งวด
จากนั้นได้นำสลิปการโอนเงินดังกล่าวที่มีชื่อ น.ส.มธุริน ซึ่งเป็นผู้ร่วมขบวนการมาแสดงให้กับทางร้านดู ก่อนทางร้านส่งมอบรถ จึงมีการสอบถามนายอธิติยา ผู้เช่าซื้อว่าจะนำรถไปใช้ที่ไหน ซึ่ง นายอธิติยา แจ้งว่าจะไปใช้ที่บ้าน ปากซอยอุดมสุข 14 จากนั้น นางกิ๊ก (พนักงาน) จึงไปตรวจสอบตามขั้นตอน ว่า รถ จยย.คันดังกล่าว จอดอยู่ที่บ้านจริงหรือไม่ แต่ปรากฏว่าไปพบจอดอยู่ภายในคอนโด ซอยอุดมสุข 56
ต่อมาช่วงเย็นวันเดียวกัน ได้มีลูกค้าโทรศัพท์มาติดต่อขอเช่าซื้อรถ จยย.อีกคัน เป็นยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก 150 ไอ สีส้ม ทางร้านจึงส่งรูปภาพรถไปให้เลือก จากนั้นได้มี น.ส.มณีรัตน์ เดินทางมาเช่าซื้อรถจยย.ฮอนด้า รุ่นคลิก คันเดียวกับ ที่ก่อนหน้านี้มีลูกค้าโทรมาสอบถามกับทางร้าน แต่น.ส.มณีรัตน์ปฏิเสธว่า ไม่ใช่คนที่โทรศัพท์มาสอบถามแต่อย่างใด
ต่อมาวันรุ่งขึ้น นางกิ๊ก ได้เดินทางไปตรวจสอบ ดูรถจยย.ฮอนด้า เอดีวี ที่ผู้ต้องหามาเช่าซื้อไป บริเวณคอนโด อุดมสุข 56 และไปติดตั้งเครื่อง GPS โดยจะแสดงตำแหน่งตลอดเวลา กระทั่งช่วงสายระบบ GPS แจ้งเตือนว่า รถจยย.คันดังกล่าว ไปอยู่ที่จังหวัดชลบุรี ก่อนจะไปโผล่ที่จังหวัดตราด นางกิ๊ก จึงติดตามไปพบเป็นโกดังบ้านพัก ไม่ทราบเลขที่ ริมถนนสุขุมวิท ตำบลหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด ซึ่งอยู่ใกล้แนวชายแดนประเทศกัมพูชา
พบรถจยย.จอดอยู่ประมาณ 6 คัน แต่ไม่พบรถจยย.คันที่ติดตามไป จากนั้นได้สังเกตเห็นประตูสังกะสี จึงเปิดออก ปรากฏว่า พบรถจยย.ฮอนด้า เอดีวี ที่นายอธิติยา ผู้ต้องหามาเช่า นางกิ๊ก จึงขี่จยย.คันดังกล่าว กลับมายังร้านของตนที่ กทม. ขณะเดียวกันนั้น น.ส.มณีรัตน์ ได้เดินทางมาทำสัญญาเช่าซื้อรถจยย.ฮอนด้า คลิก 150 ไอ สีส้ม ในราคา 50,000 บาท โดยใช้สลิปโอนเงินชื่อบัญชีของ น.ส.จริษา ผู้ร่วมขบวนการ โอนเงินดาวน์มาในราคา 25,000 บาท นางกิ๊ก เกิดความสงสัยจึงพยายามสอบถามว่าใช้บัญชีใครโอนเงินมา
ซึ่ง น.ส.มณีรัตน์ อ้างว่าบัญชีแฟนของตน นางกิ๊ก ได้สอบถามอีกว่า ทำไมถึงมาออกรถไกลเนื่องจากบัตรประชาชนอยู่คนละที่กัน จากนั้นนางกิ๊ก พยายามเค้นสอบถามให้พูดความจริงว่าจะนำรถไปใช้ทำอะไร และไปให้ใครใช้ และบอกเหตุผลว่ามีผู้ที่มาเช่ารถจยย.ก่อนหน้านี้ และทุจริตแต่ตามไปยึดกลับมาได้แล้ว หากโกหกจะดำเนินคดีเด็ดขาด
กระทั่งนางสาวมณีรัตน์ ยอมรับกับนางกิ๊กว่า มี น.ส.มธุริน ผู้ต้องหาที่ปรากฏในสลิปโอนเงินดาวน์ จยย.คันที่ตามไปยึดได้ที่ จ.ตราด สั่งให้มาดาวน์รถ จยย.และนำไปส่งให้ น.ส.มธุริน จากนั้น น.ส.มธุริน มาเดินทางมาที่ร้านพบกับนางกิ๊ก พร้อมกับให้การรับสารภาพว่า ได้มีการพูดคุยกับเพจเฟซบุ๊กชื่อ “ร่ำรวยเงินทอง สวยวันสวยคืน”
โดยมี น.ส.อริสา ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมเป็นเจ้าของเพจ พร้อมกับแสดงข้อความแชทวางแผนดาวน์รถเพื่อนำไปขายต่อส่งออกชายแดน โดยจะมีนายอำนาจ เป็นผู้มารับรถที่คอนโดซอยอุดมสุข 56 เพื่อไปยังชายแดนจังหวัดตราด จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงติดตามไปจับกุมตัว นางสาวอริสาและนายอำนาจได้ที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งยังมีผู้ต้องหาอีกรายที่ยังหลบหนี
เบื้องต้นจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางนา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป