แมน ศุภกิจ ร้องตำรวจไซเบอร์ ถูกหลอกซื้อ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า

Home » แมน ศุภกิจ ร้องตำรวจไซเบอร์ ถูกหลอกซื้อ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า


แมน ศุภกิจ ร้องตำรวจไซเบอร์ ถูกหลอกซื้อ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า

แมน ศุภกิจ ร้องตำรวจไซเบอร์ ถูกหลอกซื้อ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า โอนเงินแล้วไม่ได้สินค้า เผยส่งคนตามไปดูถึงโกดัง พบเป็นบ้านใครก็ไม่รู้ คาดโดนกันหลายราย

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 8 พ.ค. 2566 ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ นายศุภกิจ ตังทัตสวัสดิ์ (แมน) ศิลปินดารา เข้าพบ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 พ.ต.อ.ทำนุรัฐ คงมั่น รอง ผบก.สอท.1 พ.ต.อ.รชตโชค ลีวาณิชคุณ ผกก.(สอบสวน) บก.สอท.1 เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มมิจฉาชีพ กรณีถูกหลอกลวงซื้อมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า สุดท้ายไม่มีการจัดส่งของแต่อย่างใด ทั้งนี้เพื่อไม่ให้ประชาชนคนอื่นๆตกเป็นเหยื่ออีก

นายศุภกิจ กล่าวว่า ช่วงก่อนสงกรานต์ตนเห็นโฆษณาขายรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในอินสตาแกรม ประกอบกับช่วงนั้นแม่ยายอยากจะได้ไว้ใช้ขับพาหลานไปซื้อของหน้าหมู่บ้าน ซึ่งลงขายไว้ในราคาคันละ 5,900 บาท จากนั้นได้มีการเข้าไปในไลน์ออฟฟิตเชียล ซึ่งได้มีการสอบถามต่อรองราคากันจนเหลือ 5,500 บาท มีการการันตีสินค้า รับประกัน 1 ปี ไม่พอใจรับคืบ 100%

ตอนนั้นไม่ได้มีอะไรที่ทำให้เรารู้สึกว่าจะถูกหลอก ตนเองจึงตัดสินใจซื้อมา 1 คัน และโอนไปยังบัญชีที่คนร้ายส่งมาให้ทีแรกบอกจะส่งให้เลยไม่เกิน 2 วัน ก่อนจะแจ้งว่าติดสงกราต์จะส่งได้ช่วงหลังสงกรานต์ พอใกล้ถึงกำหนดส่งของ คนร้ายได้ส่งข้อความมาถามว่าจะเอาแบตรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ด้วยมั้ย มีให้เลือก 2 แบบ 2600 กับ 2800

ตอนนั้นตนเองก็เริ่มแปลกใจว่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแต่ทำไมไม่ให้แบตมาด้วย ซึ่งมีการพูดคุยกันมาตลอดมีการส่งที่อยู่โกดังแถวจังหวัดชลบุรีพร้อมเบอร์มาให้จึงทำให้ตนเองเชื่อว่ามีโกดังจริงๆ และยอมจ่ายไปอีก 2,800 บาท เพื่อเป็นค่าแบต ซ้ำยังเรียกเก็บเงินค่าประกันความเสียหายของสินค้าระหว่างขนส่งอีก 2,500 บาท แต่ตนเองไม่ไดโอนเงินไปเพิ่มเติม รวมทั้งหมดที่โอนเงิน 8,300 บาท

พอมาถึงตรงนี้ตนเองเริ่มรู้สึกแปลกเพราะว่าบัญชีก่อนหน้านี้ เป็นบัญชีธนาคารเดียวกันแต่คนละชื่อ จึงไม่ได้โอนเพิ่มไป ทางมิจฉาชีพยังบอกถ้าไม่โอนค่าประกันสินค้าก็จะออกจากโกดังไม่ได้ ด้วยความอยากรู้จึงส่งคนไปยังโกดังที่เขาให้มาปรากฏว่าเป็นบ้านใครก็ไม่รู้ไม่ใช่โกดังรถไฟฟ้าแต่อย่างใด

จากนั้นได้เดินทางแจ้งความไว้ที่สน.บางเขน และมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์เพื่อให้ตรวจสอบเพื่อไม่ให้ไปหลอกใครเพิ่มอีก

พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ กล่าวว่า หลังจากนี้จะประสานข้อมูลจากพนักงานสอบสวนสน.บางเขน เบื้องต้นจากการพูดคุยพบว่าเข้าข่ายฉ้อโกง แต่จะถึงขั้นฉ้อโกงประชาชนหรือไม่นั้นต้องมาดูว่ามีผู้เสียหายรายอื่นๆด้วยหรือไม่ ถ้ามีก็จะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

อย่างไรก็ตามอยากฝากไปยังพี่น้องประชาชนที่จะซื้อของทางออนไลน์ให้ตรวจสอบที่มาที่ไปของร้านว่ามีตัวตนหรือไม่ ก่อนจะโอนตรวจสอบเครดิตผู้ขาย อย่าโอนก่อนหรือให้ดีให้ไปซื้อที่ร้านค้าจะดีที่สุด

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ