เมืองคอนร่วมหมื่น แห่ฟัง ‘โรม’ ลั่น 14 พ.ค. นี้ มาเริ่มยุคสมัยใหม่ไปกับ ‘ก้าวไกล’ และทำให้เป็นวันสุดท้ายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
8 พ.ค. 2566 – นายรังสิมันต์ โรม ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ ที่สวนศรีธรรมาโศกราช อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ท่ามกลางประชาชนกว่า 1 หมื่นคนที่เข้ามาร่วมรับฟัง และให้กำลังใจ
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนมีครอบครัวอยู่ที่นี่ เรียนที่นี่ แต่ต้องไปทำงานที่ภูเก็ต เพราะรายได้มันดีกว่า งานมันดีกว่า ตนเข้าใจดี แต่เมื่อเรามองมาที่นครศรีธรรมราช เราก็จะเห็นว่า บ้านเรามีทรัพยากรมากมาย ทั้งทางบุคคลที่มากสุดในภาคใต้ เรามีหมู่บ้านคีรีวง ที่อากาศบริสุทธิ์ที่สุด เรามีทะเลที่สวนไม่แพ้จังหวัดไหน แต่ทำไมนครศรีธรรมราชในหลาย 10 ปี มันถึงเหมือนเดิม มันเกิดอะไรขึ้น
ที่ผ่านมาเรามีเลือกตั้งมาหลายครั้ง เขาบอกว่ามันมีพรรคการเมืองหนึ่ง พรรคของเรา คนของเรา แล้วที่สุดแล้วไอ้คนของเราที่ว่านี้มีชีวิตที่สุขสบายหรือไม่ มากไปกว่านั้นตอนเลือกตั้ง 2562 บอกกับพี่น้องประชาชนว่าจะไม่สนับสนุน ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่ถึงที่สุดแล้วไปยกมือให้ใคร ลั่นวาจาไปแปบเดียวก็หลอกลวงประชาชน
เราพอได้หรือยังกับ ประยุทธ์ ดังนั้นไม่ต้องลังเลเลือกตั้งคราวนี้ เราจะเลือกด้วยความหวัง เลือกให้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกคนที่ 30 ตนบอกกับพี่น้องเลยว่าถ้า 4 ปีที่ผ่านมา หลายคนบอกว่าเราคือพรรคฝ่ายค้านที่ดีที่สุด ตั้งแต่มีประขาธิปไตยมา แต่คราวนี้ เราจะเป็นพรรครัฐบาลที่ดีที่สุดตั้งแต่มีประชาธิปไตยมาเช่นกัน เพราะพรรคก้าวไกล เราไม่เป็นหนี้บุญคุณใครนอกจากประชาชน
พวกเราพรรคก้าวไกลขอสัญญาตรงนี้ ถ้า พิธา ได้เป็นนายกฯ เรื่องตั๋วช้างจะไม่มีอีกเป็นอันขาด ตำรวจน้ำดีจะได้ดี ส่วนตำรวจชั่วก็จะได้ชั่ว และเราสัญญาว่าเราจะพา พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ ที่ต้องถูกลี้ภัยไปอยู่ออสเตรเลียกลับบ้าน
พรรคก้าวไกล เราสัญญาว่าเราจะรักษาความฝัน เราจะทำให้ความฝันที่ต้องการเห็นแผ่นดินนี้มีความยุติธรรมเกิดขึ้นได้จริง เราจะทำให้ความฝันพี่น้องที่ต้องการใช้ชีวิตในประเทศนี้อย่างคนเท่ากันเกิดขึ้นจริง ดังนั้นเรื่องตั้งครั้งนี้เราจะทำให้ 14 พ.ค.นี้ เป็นวันสุดท้ายของ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นวันสุดท้ายของยุคลุง แล้วมาเริ่มต้นใหม่ในยุคเรา