เปิดใจครั้งแรก! กรีน อัษฎาพร เล่าสาเหตุเลิก ธันวา 8 ปีเหลือแค่เพื่อน

Home » เปิดใจครั้งแรก! กรีน อัษฎาพร เล่าสาเหตุเลิก ธันวา 8 ปีเหลือแค่เพื่อน


เปิดใจครั้งแรก! กรีน อัษฎาพร เล่าสาเหตุเลิก ธันวา 8 ปีเหลือแค่เพื่อน

เปิดใจครั้งแรก! กรีน อัษฎาพร เล่าสาเหตุเลิก ธันวา 8 ปีเหลือแค่เพื่อน

เปิดใจครั้งแรก! กรีน อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล เล่าหมดเปลือก สาเหตุปิดฉากความรักกว่า 8 ปีกับ ธันวา สุริยจักร

ความรู้สึกตอนนี้? “โอเคนะคะ ปกติขึ้นแล้วค่ะ จะมีช่วงแรกที่เราเคยมีความสัมพันธ์ในรูปแบบนึง พอวันนึงลดสถานะลง ภาพเก่าๆมันจะย้อนกลับมาที่มีความสุข มีความเสียใจ ใจหายบ้าง ตอนนี้ทำใจได้ เข้าใจสถานการณ์ ยินดีกับเขาด้วย ยินดีกับเราทั้งคู่ในสถานะ ณ ตอนนี้ แต่พอมันเห็นภาพก็มีบ้างๆนิดๆหน่อยๆ”

เลิกกันเพราะอะไร? “เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ ไลฟ์สไตล์ด้วย ความชอบที่ต่างกัน เรากับเค้าพยายามปรับกันแล้วก็ยังหาจุดตรงกลางไม่เจอสักที ไม่มีเรื่องมือที่ 3ค่ะ คอนเฟิร์มได้เลย ตั้งแต่คบกับเขามา 8 ปี ไม่เคยมีเรื่องเหล่านี้เลย เราสามารถเชื่อใจกันและกันได้”

ใช้เวลาปรับกัน 8 ปี? “จริงๆ ถ้าใครดูในยูทูบก็จะเห็นว่าเราตีกันบ้าง ทะเลาะกันบ้าง ตีกันบ่อยแต่เราก็ประคับประคองกันมาได้ แต่กรีนก็มีคำถามนี้ในใจ เราพยายามค่ะ เขาก็เป็นคนดีสำหรับเรา เขาเข้ามาในชีวิตเราก็ปรับนิสัยเราหลายๆอย่าง เรื่องการใช้เงินเขาก็คอยสอนเรา เราก็ได้อะไรจากเขาเยอะ แต่มันก็มีบางสิ่งเราไม่สามารถพูดได้เหมือนกัน”

ไลฟ์สไตล์แบบไหนไม่เข้ากัน? “ไม่มีอะไรพีค มันคือเรื่องเล็กๆน้อยๆ กรีนชอบถ่ายรูปเขาไม่ชอบ เขาไม่ยอมไปกับเราด้วย เหมือนเขาต้องไปรอ บางครั้งอยากให้เขาถ่ายให้แต่เราอยากได้แบบนี้ๆ ครั้งแรกๆไม่เป็นไร พอครั้งหลังๆเราเกรงใจเขา มันเหมือนช่วงนี้แหละที่ทำให้เราไม่เจอกัน มันเหมือนทำให้เราไม่มีโมเมนท์ที่คู่รักทำกัน ฟีลมันประมาณยังงี้ เรื่องอาหารการกินบางทีเลือกร้านจนทะเลาะกันก็มี”

จุคพีคสุด? “เกิดขึ้นมาประมาณ 2-3 ปีที่แล้ว ก่อนหน้านี้เขาทำอะไรหนูจะค่อนข้างตามเขา พอช่วงหลังเริ่มหันกลับมามองตัวเองมากขึ้น มีจุดยืนตัวเองมากขึ้น เลยไม่ค่อยเชื่อฟังเขาเท่าไหร่ เราทำตามใจของตัวเอง พอเรามีจุดยืนเขารู้สึกเหมือนคุยอะไรกับเราไม่ค่อยได้ มันเลยเกิดความชินชาบางอย่างเกิดขึ้น เริ่มเย็นชาใส่กัน มุมเขาก็เหมือนกัน ระยะห่างเกิดขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัว บวกกับถ่ายละคร ทำให้แทบจะไม่ได้เจอกัน”

จุดที่ต้องคุยกัน? “เขาเป็นคนเริ่มบอกหนู ทำไมมันไม่เหมือนเดิม หนูก็ขอโทษเขาที่เป็นแบบนี้ แต่ก่อนเขาคือที่ 1 ในเป้าหมายชีวิต วันนี้เขาก็ยังเป็นที่ 1 แต่มีเป้าหมายอื่นเข้ามาอยู่ข้างๆ หนูเป็นหัวหน้าครอบครัว มีภาระหนี้สินที่ต้องดูแล

หนูดูแลแม่ทำให้มีแต่ครอบครัว มีเขาน้อยลง เขามีความน้อยใจ คุยเรื่องนี้กันบ่อย ไม่ค่อยมีเวลาให้กัน เราก็บอกว่ามาอยู่ที่บ้านเราสิมาอยู่กับแม่ เราไม่ได้ออกไปอยู่ข้างนอกด้วยกัน เขาบอกว่าความรู้สึกไม่ได้หลายๆอย่าง”

เคยคุยกันมั้ย? “บอกค่ะ เขาเข้าใจทุกอย่างเลย เคยมีจุดที่ไม่เข้าใจนั่งจับเข่าคุยกันก็เข้าใจ แต่สุดท้ายมันไม่ใช่ประเด็น เรื่องนี้มันเป็นเรื่องเขาไม่มีความสุข ในมุมของหนูอาจดูเห็นแก่ตัว ถ้าผู้ชายคนนี้สามารถอดทนรอหนูได้ หนูก็คิดว่าเขาคือคนที่ใช่ แต่ถ้าหนูไปบอกว่าให้รอก่อนนะ ให้ใช้หนี้ให้หมดก่อน ให้ดูแลแม่ก่อนนะ มันดูเห็นแก่ตัว เรายังไม่มองเรื่องแต่งงาน มีลูก เราขอทำเป้าหมายบางอย่างในครอบครัวของเราก่อน”

ถ้ารอไม่ได้ก็ไม่ว่า? “ใช่ค่ะ ทำพร้อมกันไปอยู่ แต่ละคนไม่เหมือนกัน กรีนทำแล้ว จะไปสุดในด้านใดด้านนึง ไม่ใช่ไม่รักไม่ใส่ใจเขาแต่มันถูกลดลงหรือปล่าว (8 ปี อิ่มตัว?) จริงๆมันก็ยังไม่อิ่มนะคะ หนูยินดีที่จะคบเขาไปเรื่อยๆ ถ้าไม่มีปัญหาอะไร ถ้าเขาโอเค แต่สิ่งที่ทำให้ตัดสินใจเราลงโพสต์ เราคุยกันมาสักระยะแล้วตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว

เรื่องเล็กๆน้อยๆ เขาพูดว่าเขาไม่มีความสุขจริงๆ กรีนให้ในสิ่งที่เขาต้องการไม่ได้หลายๆอย่าง ก็จริง เขายังคบกับเราอยู่ เขาก็ไม่มีโอกาสไปเจอคนที่ให้ความสุขเขาได้มากกว่าเราเขาติดอยู่ที่เรา เขาจะพูดตลอดเลยว่าเขาไม่มีความสุขเลยทำยังไงดี

เราควรจะไปตรงไหนดี พอเขาพูดว่าเขาไม่มีความสุข กรีนไปต่อไม่ได้เหมือนกัน ตอนแรกเรารู้ว่าสุดท้ายผลลัพธ์ต้องออกมาเป็นแบบนี้ ฉันแข็งแกร่ง พอวันที่เขาบอกว่าเราไปต่อไม่ได้แล้ว ตอนนั้นยังรู้สึกว่าแข็งแกร่งอยู่ แต่วันที่เสียใจสุดๆ เลยคือวันที่เขาเดินไปหาแม่หนูเองเลยเดินไปบอกแม่ หนูไม่รู้ว่าเขาคุยอะไร แต่ขอลดความสัมพันธ์ลง ตอนเข้ามาเขาก็คุยกับทางแม่เหมือนกัน วันที่ออกเขาเลยอยากคุยกับแม่เหมือนกัน”

วันที่ตัดสินใจเป็นยังไง? “ไม่เจอกันแค่คุยโทรศัพท์กันว่าจะเอายังไง เขาถ่ายละคร แต่เราปิดกล้องแล้วจัดของไปเรียนต่อ ไม่มีเวลาเจอกันที่ผ่านมาเรื่องทะเลาะ เรื่องคืนดีกันเราก็คุยโทรศัพท์กัน คือเขาไปเลยค่ะ เขาก็ไม่ได้บอกกรีน พอเขาไปหาคุณแม่เสร็จ เขาก็โทรมาบอกกรีน คุยกับแม่แล้วนะ เสียงเขาดูปกติ แต่พอวางหูปุ๊ปหนูก็ร้องไห้เลย หนูก็ถามตัวเองว่าเป็นอะไร แต่สุดท้ายผลลัพธ์ที่ออกมา มันก็ดีที่เขาเดินไปบอกแม่เรา”

ตอนแรกตั้งใจจะจบเงียบๆ ทำไมตัดสินใจบอกทุกคน? “เป็นไอเดียธันวา ความคิดหนูไม่อยากให้เรื่องพัวพันโน่นนี่มีคำถามเยอะ คิดว่าผ่านๆไปก่อนเราจะไปเรียนต่อแล้วด้วยให้เรื่องเบาๆไปค่อยว่ากันอีกที หนูสามารถปล่อยเบลอไปได้เลยไม่ซีเรียสอะไร แต่ธันวารู้สึกว่าเขาอยากให้เกียรติคนใหม่ที่จะเข้ามา กรีนก็ลืมมองมุมนี้ถ้าเขาอยากจะเจอคนใหม่ มันไม่ควรมีอะไรผูกพันธ์กับคนนี้อยู่ ควรจะชัดเจนไปเลยมั้ย กรีนยังไงก็ได้หมด”

3 เดือนไปเรียนต่อมีผลมั้ยกับเรื่องแยกทาง? “จริงๆมันคนละเรื่อง เพียงแต่มันเข้ามาในช่วงเดียวกัน วางแผนจะเรียนตั้งแต่ช่วงโควิด”

ตอนโพสต์กระแสเป็นยังไงบ้าง? “ที่เห็นในไอจีส่วนใหญ่จะได้รับกำลังใจ ถ้าคอมเมนท์แง่ลบหนูจะปล่อยผ่านไม่ค่อยเอาเก็บไปคิดเท่าไหร่ เลยไม่ได้มีผลเท่าไหร่ (เสียดายเวลามั้ย?) 8 ปีเราผ่านเรื่องราวอะไรมาก็เยอะ มีมาหมด ก็เสียดายค่ะ แต่หนูจะเสียดายมากกว่าถ้าคบไปอีกเรื่อยๆ แล้วเรายังประคับประคองไปเรื่อย ผลลัพธ์ยังออกมาเป็นแบบนี้ แทนที่ธันวาจะเหลือเวลาในชีวิตเขาไปเจอคนใหม่หรือคนที่ดีกว่าไม่ดีกว่าหรอ”

ทำไมไม่มองว่าเราจะได้ไปเจอคนใหม่บ้าง? “เจออยู่แล้วค่ะ (หัวเราะ) หมายถึงว่ามันเหมือนเป็นกระจกสะท้อน ถ้าหนูคิดแบบนี้กับเค้าเราก็มีโอกาสเหมือนกันแล้วมันเป็นสิ่งแรกที่หนูคิดแบบนั้นจริงๆกับเค้า ตั้งแต่เริ่มมานั่งคุยกันว่าจะโพสต์มันควรจะเป็นแบบนั้น

หนูมีหนทางที่ให้ความสุขกับตัวเองหลายอย่างเลย ไม่จำเป็นรูปแบบของแฟน หนูมีครอบครัว มีงานที่เป็นความสุข เรื่องความรักถ้ามันใช่เดี๋ยวจะเข้ามาเองแหละ หนูเคยคิดว่าถ้าผ่านไป 10 ปี เส้นทางที่เราเคยคู่ขนานกันวันนึงมันจะย้อนมาเจอกันได้มั้ย

ในอนาคตอาจกลับมาได้? “ทุกวันนี้ยังคุยโทรศัพท์กับเขา สัญญาที่เขาเคยให้ไว้ จริงๆเขาไม่ต้องทำตามสัญญาก็ได้ เขายังทำ อย่างเขารู้ภาระหนี้สินที่บ้านกรีน เขารู้เรื่องการเงินที่บ้าน เรากำลังศึกษาเรื่องการลงกันอยู่ เขาศึกษาหนักมากๆ กรีนจะตามเขาเรื่องนี้ เขาบอกว่าสัญญานะ เขาวางการเงินไว้เขาบอกจะทำให้เราแบบนี้ เราจะไม่ทิ้ง”

เลิกกันแล้ว รักกันมากขึ้นในฐานะเพื่อน? “ค่ะ แปลกนะวันที่ประกาศลดสถานะ ความคาดหวังมันไม่มี เหมือนเราคุยได้ทุกเรื่องไปเลย ไม่ต้องไปงอนไปน้อยใจ เขาเป็นเพื่อนที่ดีเลย (เลิกกันแบบชั่วคราวมั้ย?) ไม่น่านะคะ หนูคิดว่าไม่นะคะ เราเคยมีโมเมนต์แบบนี้มาหลายครั้งเหมือนกัน แต่ครั้งนี้มันชัดเจนและเป็นเรื่องจริงไปเลย

ถ้าเรากลับไปเป็นแบบเดิมมันจะเข้าสู่วงจรเดิมผลลัพธ์เดิมคือเขาไม่มีความสุข ที่น่าจะช่วยพวกเรื่องทั้งคู่ได้คือเรื่องเวบาอย่างเดียวเลย ทำให้เติบโตมากขึ้น ปกติคุยกันทุกคืน โทรศัพท์เข้าก็คิดว่าเป็นเขา มันไม่ได้เสียใจนะคะ

คุยกันเรื่องอะไรบ้าง? “เรื่องพัฒนาตัวเอง คุยงานซะส่วนใหญ่เลย กรีนเป็นผู้ฟังที่ดี จะปล่อยให้เขาพูดเป็นชั่วโมง เหมือนเขาไม่มีใครเขาเป็นคนลาว มาอยู่ที่เมืองไทยเขาตัวคนเดียว เขาไม่มีใคร เขามีแค่เรา คุยกับเราได้ เขารู้ว่าเราไม่พูดต่อ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องงาน”

พูดถึงเขามีแต่สิ่งดีๆ? “แปลกนะ ตอนคบกันเราจะมองแต่สิ่งที่ไม่ดีของเขา พอลดสถานะเรามองแต่สิ่งที่ดีของเขา (เข็ดกับความรักมั้ย?) ให้โอกาสตัวเองมากกว่า ไม่เชิงว่าเข็ด ถ้าคนที่จะเข้ามาต้องใช้เวลาในการเรียนรู้เยอะกว่าเดิม เพราะเวลาทำอะไรไปภาพเก่าๆมันอาจจะกลับมา ทำแบบนี้เค้าจะไม่ชบหรือปล่าว ไลฟ์สไตล์จะไม่ตรงกันอีกมั้ย”

สเปค? “ไม่มีเลยค่ะ กรีนแพ้คนดูแลเอาใจใส่เรา เป็นคนดีสำหรับเราเอื้อเฟื้อ เหมือนมองเพื่อนมนุษย์คนอื่นเป็นเหมือนคนในครอบครัว

3 เดือนที่จะไปเกาหลีคือไปพักใจ? “ไม่ใช่ค่ะ เป็นแพลนไปเรียนภาษาหาประสบการณ์ อยากพักผ่อนด้วย อยากไปที่ๆ เราชอบ แล้วมันใกล้ประเทศไทยด้วย”

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ