ปานปรีย์ หัวหน้าคณะเที่ยวบินกลับไทย แจงหลังปฏิวัติปี 49 นั่งเครื่องบินกลับมาลำเดียวกับ ‘พิธา’ แต่ไม่ถูกคลุมหัว กักตัว ฟรีซเงิน

เมื่อวันที่ 27 เม.ย.2566 ที่จ.นครศรีธรรมราช นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ที่ปรึกษาคณะกรรมการเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะอดีตผู้แทนการค้าไทยสมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ปี 2549 กล่าวกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์อ้างว่าเดินทางกลับจากนิวยอร์ก หลังถูกรัฐประหารปี 49 โดยสารเครื่องบินลำเดียวกับนายปานปรีย์ว่า ก่อนเครื่องขึ้นจากนิวยอร์ก มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งนำนายพิธา มาฝาก โดยระบุว่าฝากน้องพิธากลับไทยด้วย แต่ตอนนั้นไม่รู้ว่านายพิธา จะมาเล่นการเมืองในอนาคต ขณะนั้นเข้าใจเพียงว่าเป็นน้องคนหนึ่ง ที่อาศัยเครื่องบินกลับมา

เมื่อเครื่องมาถึงกรุงเทพฯ ตนก็ไม่คิดว่าจะเจออะไร เพราะได้ส่งนายทักษิณ ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษแล้ว แต่เมื่อเครื่องถึงสนามบินดอนเมือง เครื่องบินจอดนิ่งประมาณครึ่งชั่วโมง ท่าทางไม่ค่อยดี ซึ่งตนในฐานะหัวหน้าคณะเดินทาง จึงเดินไปบอกคนในเครื่องรวมถึงนายพิธา ว่าเราคงไม่ได้ลงที่ดอนเมือง ตอนนี้เครื่องมาจอดที่ บน.6 แล้วขอให้ทุกคนอยู่ในความสงบ เชื่อว่าไม่มีปัญหาเพราะเราไม่ใช่นักการเมือง

เมื่อถามว่าขณะนั้นนายพิธา ขึ้นเครื่องในฐานะทีมงานนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯขณะนั้น หรือเป็นแค่คนไทยที่อาศัยเครื่องบินเดินทางกลับประเทศ นายปานปรีย์ กล่าวว่า ทราบเพียงว่าเป็นหลานของนายผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตเลขาส่วนตัวนาย ทักษิณ

เมื่อถามว่าเมื่อลงเครื่องที่บน.6 ถูกกักตัวหรือคลุมหัวตามที่นายพิธา กล่าวอ้างหรือไม่ นายปานปรีย์ กล่าวว่า เมื่อเครื่องถึงกรุงเทพฯ มีทหารเดินเข้ามาตรวจ แล้วปล่อยตัวออกไป ไม่ได้มีปัญหา สามารถกลับบ้านได้ทันที ส่วนคนอื่นนั้น ตนไม่ทราบเพราะต่างคนต่างแยกย้าย

เมื่อถามถึงนายพิธา อ้างมีการระงับธุรกรรมทางการเงินของผู้ที่อยู่บนเครื่องบินลำดังกล่าว นายปานปรีย์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบ ต้องไปถามนายพิธา แต่ตนในฐานะหัวหน้าคณะไม่โดนอะไรเลย