สรุปคดี ผอ.กอล์ฟ ฆ่าชิงทองลพบุรี สู่การปิดคดี นานร่วมปี ยืนโทษประหารชีวิต

Home » สรุปคดี ผอ.กอล์ฟ ฆ่าชิงทองลพบุรี สู่การปิดคดี นานร่วมปี ยืนโทษประหารชีวิต
ฆ่าชิงทองลพบุรี

สรุปคดีดัง ผอ.กอล์ฟ ฆ่าชิงทองลพบุรี คดีสุดสะเทือนขวัญ กราดยิงกลางห้างดังลพบุรี พิจารณาโทษนานร่วมปี สู่การปิดคดี ยืนโทษประหารชีวิต

วันที่ 26 เมษายน 2566 ศาลฎีกา พิพากษายืนโทษประหารชีวิต โดยศาลเห็นว่า พฤติการณ์ของจำเลยกระทำอย่างอุกอาจในห้างฯ อันเป็นที่สาธารณะ กระทำต่อผู้บริสุทธิ์ที่ไม่เกี่ยวข้องตาย 3 คนบาดเจ็บ 1 คน เป็นพฤติการณ์อุกอาจโหดเหี้ยมอันตรายร้ายแรงผิดมนุษย์ แม้จำเลยจะยื่นขอลดโทษแต่ไม่มีเหตุสมควรที่เพียงพอ จึงมีความคิดเห็นเดียวกันกับ ศาลชั้นต้น ที่มีการพิพากษามา

1-75

การพิพากษาครั้งนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ (9 ม.ค. 63) ที่ห้างแห่งหนึ่งกลางเมืองลพบุรี นายประสิทธิชัย นำอาวุธปืนติดท่อเก็บเสียง บุกเข้าไปภายในห้างสรรพสินค้า แล้วยิง นายธีระฉัตร พนักงานรักษาความปลอดภัยของห้างฯ รวมทั้งใช้อาวุธปืนยิงบุคคลทั่วไปจนเป็นเหตุให้ ด.ช.ภาณุวิชญ์ และ น.ส.ธิดารัตน์ พนักงานร้านทองโอโรร่า ถึงแก่ความตาย และจำเลยยังได้ยิงบุคคลอื่นอีก 4 คน จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนชิงสร้อยคอทองคำจำนวน 33 เส้น คิดเป็นเงินรวมมูลค่าทั้งสิ้น 664,470 บาท

  • ศาลฎีกา พิพากษา ผอ.กอล์ฟ กราดยิงลพบุรี ยืนโทษประหารชีวิต
  • ด่วน! แอม ไซยาไนด์ ถูกหามเข้า รพ. เพราะความดันโลหิตสูง
  • ฝากขัง! แอม ไซยาไนด์ หลังอาการป่วยดีขึ้น จนท. จะคุมตัวไปศาลวันนี้

หลังจากถูกจับกุม ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 27 ส.ค.64 ว่าจำเลยมีความตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 (6) ประกอบมาตรา 60, 289 (6) ประกอบมาตรา 80, 289 (7), 339 วรรคสอง วรรคสี่ และวรรคท้ายประกอบมาตรา 340 ตรี, 371, 376, พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ.2490, พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ.2530 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดต่างกรรมให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ฐานมีอาวุธปืน จำคุก 8 เดือน, ฐานมียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครอง จำคุก 6 เดือน, ฐานพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุสมควร จำคุก 3 ปี, ฐานฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการหรือเพิ่มความสะดวกในการจะกระทำผิดให้ประหารชีวิต, ฐานพยายามฆ่าผู้อื่น จำคุกตลอดชีวิต, ฐานชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยมีและใช้อาวุธปืนและโดยใช้ยานพาหนะ ให้ประหารชีวิต เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว ให้ลงโทษประหารชีวิตจำเลย สถานเดียว ปรับ 1,000 บาท

2-70

ต่อมา จำเลยยื่นอุทธรณ์ขอลดโทษ ศาลอุทธรณ์ ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือเเล้วว่า แม้จำเลยชดใช้ความเสียหายเพื่อบรรเทาผลร้ายสำนึกผิด หรือมีคุณความดีดังที่อุทธรณ์ก็ไม่เป็นเหตุผลเพียงพอที่จะสมควรใช้ดุลยพินิจลดโทษให้แก่จำเลยได้ ที่ศาลชั้นต้นให้ลงโทษประหารชีวิตจำเลยโดยไม่ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 นั้นย่อมเหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งรูปคดีแล้ว จึงไม่มีเหตุที่ศาลอุทธรณ์จะเปลี่ยนแปลงแก้ไข อุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น และเมื่อถึงศาลชั้นสุดท้าย ศาลฎีกา พิจารณาแล้วว่า ให้ยืนตามการตัดสินที่ผ่านให้ให้ “ประหารชีวิต”

ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่น ๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ