เด็ก 16 ขับเก๋ง กลับรถไม่เปิดไฟเลี้ยว ชนเด็ก 14 ขี่ จยย. มาทางตรง สาหัส แม่ข้องใจ คู่กรณีบอกให้ตำรวจ ลงคดีเป็นประมาทร่วม
วันที่ 19 เม.ย.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า น.ส.เสาวณี อ่อนจุติ อายุ 32 ปี และ นางชลิตา ทำยาง อายุ 35 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 5 ต.ชะรัด อ.กงหรา จ.พัทลุง ร้องขอความเป็นธรรมหลังจากคาใจ คู่กรณีบอกให้พนักงานสอบสวน สภ.กงหรา อ.กงหรา จ.พัทลุง ทำคดีลูกชายประสบอุบัติว่าประมาทร่วม ทั้งที่พยานหลักฐาน คลิปวงจรปิดช่วงก่อนเกิดเหตุ ตอนเกิดเหตุ สามารถจับภาพเหตุการณ์ไว้ได้ ซึ่งไม่เป็นธรรมกับลูกทั้ง 2 คน ที่อาการสาหัส ขาหัก แขนหัก และต้องใช้เวลารักษานาน อีกทั้งครอบครัวฐานะยากจน จึงอยากร้องขอความเป็นธรรม
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 28 มี.ค.2566 ขณะที่ลูกชาย ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี คนขับ บาดเจ็บขาขวาหัก แขนขวาหัก กระดูกสะโพกหัก ต้องผ่าตัดใส่เหล็ก และมีแผลฉกรรจ์ตรงขาช้าย และ ด.ช.บี (นามสมมติ) อายุ 14 ปี บาดเจ็บขาขวาหัก ต้องผ่าตัดใส่เหล็กเช่นกัน
ชึ่งก่อนเกิดเหตุเด็กทั้ง 2 ขับรถจักรยานยนต์กลับจากไปรับน้ำอ้อยมาขายสร้างรายได้ให้กับครอบครัว ชนกับรถยนต์เก่ง โตโยต้า สีเทา ทะเบียน กต.4208 ตรัง มี น.ส.ซี (นามสมมติ) อายุ 16 ปี เป็นคนขับ ซึ่งกำลังเลี้ยวหัวกลับรถ แต่ไม่เปิดไฟเลี้ยวทำใหห้ลูกชายขับรถมายังทางตรงเอาไม่อยู่พยายามหลบแต่พุ่งชนเข้าอย่างจัง จนบาดเจ็บสาหัส
น.ส.เสาวณี กล่าวอีกว่า ในตอนเกิดเหตุคู่กรณีบอกจะรับผิดชอบดูแลเสียหาย แต่พอเวลาผ่านไป กลับไปแจ้งพนักงานสอบสวนว่าอุบัติเหตุดังกล่าวเป็นการประมาทร่วม ซึ่งตนไม่เข้าใจเหมือนกัน เกรงว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะมีการเข้าข้างคู่กรณี เพราะญาติของคู่กรณีเป็นตำรวจ
ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ยังจุดเกิดเหตุ บริเวณถนนสายทุ่งนาชี -หัวถนนท่านช่วย ท้องที่ ม.5 ต.ชะรัด อ.กงหรา สอบถามผู้เห็นเหตุการณ์กับเรื่องราวที่เกิดขึ้นโดยชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ระบุว่ารถเก่งขับมาจอดแล้วกลับรถโดยไม่เปิดสัญญานไฟเลี้ยว ทำให้รถจักรยานยนต์ที่ขับมาทางตรงพุ่งชนจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าวตามคริบวงจรปิด ถ้ารถเก่งไม่เลี้ยวกลับรถในช่วงดังกล่าว อุบัติคงจะไม่เกิด
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง สภ.กงหรา จ.พัทลุง เพื่อพบพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ในเบื้องต้นระบุว่าในคดีดังกล่าวยังไม่ได้มีการสรุปคดีว่าใครผิดใครถูกและพยานหลักฐานพนักงานสอบสวนได้จัดเก็บไว้หมดแล้ว เพียงรอให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บอาการดีขึ้น แล้วจะเรียกตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติม เนื่องจากคู่กรณี ทั้ง 2 เป็นเด็กและเยาวชน ต้องใช้สหวิชาชีพร่วมสอบปากคำด้วย ก่อนสรุปสำนวนส่งอัยการอีกครั้ง