พิธา ปลื้มกระแสตอบรับก้าวไกล พุ่งทะยาน เปิดวิสัยทัศน์อีสาน 2574 หายจนใน10ปี

Home » พิธา ปลื้มกระแสตอบรับก้าวไกล พุ่งทะยาน เปิดวิสัยทัศน์อีสาน 2574 หายจนใน10ปี


พิธา ปลื้มกระแสตอบรับก้าวไกล พุ่งทะยาน เปิดวิสัยทัศน์อีสาน 2574 หายจนใน10ปี

พิธา ปราศรัยหนองคาย ปลื้มกระแสตอบรับ พรรคก้าวไกล พุ่งทะยาน เปิด ‘วิสัยทัศน์อีสาน 2574’ สร้างเศรษฐกิจให้อีสานหายจนใน 10 ปี

เมื่อวันที่ 17 เม.ย.2566 ที่จ.หนองคาย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยนายอภิชาติ ศิริสุนทร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล และน.ส.นายิกา ศรีเนียน หรือ แคนแคน ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ร่วมเวทีปราศรัยแนะนำผู้สมัครและนโยบายพรรคก้าวไกล

โดยช่วงเช้า ได้เปิดเวทีที่หน้าวัดหายโศก ต.ในเมือง อ.เมืองหนองคาย หาเสียงให้ น.ส.อภิญญา บุญจันทร์ ผู้สมัคร ส.ส.หนองคาย เขต 1 เบอร์ 10 ส่วนช่วงบ่ายเปิดเวทีที่วัดหนองคอน ต.โพนแพง อ.รัตนวาปี หาเสียงให้ นายแสวง ราชพลแสน ผู้สมัคร ส.ส.หนองคาย เขต 2 เบอร์ 8 โดยทั้งสองเวทีต่างได้รับความสนใจจากประชาชนเข้าร่วมรับฟังอย่างคับคั่ง

พิธา ปลื้มกระแสตอบรับพุ่ง

พิธา ปลื้มกระแสตอบรับพุ่ง

นายพิธา ระบุว่า พรรคก้าวไกลในช่วงที่ผ่านมาได้รับความเชื่อมั่นจากประชาชนมากขึ้น เป็นเพราะเราเป็นพรรคของคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจคนรุ่นใหญ่ นโยบายไม่ได้มีแต่สำหรับคนรุ่นใหม่ แต่มีนโยบายเพื่อคนรุ่นใหญ่ด้วย ทั้งรัฐสวัสดิการ เบี้ยผู้สูงอายุ ฯลฯ

นอกจากนี้ แม้พรรคก้าวไกลจะเป็นคนติดดิน ป้ายหาเสียงอาจจะน้อยไปหน่อย และเป็นพรรคที่ไม่มีหัวคะแนน แต่เวลามีปัญหาประชาชนเข้าถึงได้ทันที ไม่ต้องผ่านใคร ผู้สมัครของพรรคก้าวไกลคือนักการเมืองสายเลือดใหม่ ที่ไม่ใช่นักการเมืองหน้าเก่าในขวดใหม่หรือลูกหลานของใคร ประชาชนคนธรรมดาก็มาเป็น ส.ส. ได้ และเราพร้อมต่อสู้ร่วมกับประชาชนเสมอ พรรคก้าวไกลเป็นอย่างเสื้อที่ตนใส่มาในวันนี้ ที่เขียนข้อความว่า ‘ตรงไปตรงมา’ นี่เป็นคุณค่าที่ประชาชนต้องการ เราคือความตรงไปตรงมาทางการเมือง เศรษฐกิจ และอนาคต

นายพิธากล่าวว่า ส่วนภาคอีสานนั้น สิ่งที่เรามองเห็นตลอดเวลาที่ผ่านมา คือทั้งสภา เรามี ส.ส.อีสานถึง 132 คน จาก 500 คน หรือ 1 ใน 3 ของรัฐสภา แต่คำถามคือทำไมอีสานยังเจ็บยังจน มีแหล่งน้ำมากมายแต่ทำไมยังแล้งซ้ำซาก นั่นแปลว่าระบบการเมืองและความเป็นประชาธิปไตยของประเทศไทยมีปัญหาแน่นอน พรรคก้าวไกลจึงเสนอว่าประชาชนทุกคน รวมทั้งที่ภาคอีสาน ต้องได้เลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดของตัวเอง แก้ปัญหาด้วยมือของประชาชนเอง และหากพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล จะทำประชามติทันที ถามประชาชนว่าเห็นชอบหรือไม่ ให้มีการยกเลิกราชการส่วนภูมิภาค และโอนถ่ายอำนาจการบริหารจังหวัดไปสู่ท้องถิ่นในทุกจังหวัดภายใน 5 ปี

นายพิธา กล่าวว่า เมื่อ 2 ปีที่แล้ว พรรคก้าวไกลเคยนั่งคิดว่าจะแก้คำสาปห้ามพัฒนา หยุดการแช่แข็งภาคอีสานได้อย่างไร จนนำมาสู่วิสัยทัศน์อีสาน 2574 ของพรรคก้าวไกล ที่มีเป้าหมายในการทำให้ภาคอีสานหายเจ็บหายจนภายใน 10 ปี แก้ปัญหาที่ที่ผ่านมาเศรษฐกิจ ปัญหาหนี้สิน การสาธารณสุข และตัวชี้วัดคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกอย่างของภาคอีสาน ตามหลังประเทศไทยในภาพรวมกว่า 2 เท่าเสมอ

เช่นที่หนองคาย เป็นจังหวัดที่เน้นเศรษฐกิจชายแดน ที่ผ่านมาเป็นได้เพียงการค้าผ่านแดน ไม่ใช่การค้าชายแดน เป็นเพียงทางผ่านของสินค้าจากต่างประเทศที่จะไปที่ลาว มาลงแหลมฉบัง ส่งมาผ่านที่หนองคาย แล้วค่อยส่งต่อไปให้ลาว แต่สิ่งที่ขาดไปคือศูนย์กลางการค้าในระดับภาคอีสาน

นายพิธากล่าวว่า หากจะทำให้เศรษฐกิจชายแดนเป็นการค้าชายแดนได้อย่างแท้จริง เอสเอ็มอีในจังหวัดชายแดนจะต้องเข้มแข็งมากกว่านี้ ซึ่งพรรคก้าวไกลมีนโยบายส่งเสริมเอสเอ็มอีหลายนโยบาย เช่น หวยเอสเอ็มอี ทุนสร้างตัว ทุนตั้งตัว ที่ไม่ต้องมีคนค้ำประกัน ให้เศรษฐกิจติดดินของประชาชนได้เติบโต ควบคู่ไปกับการสร้างรัฐสวัสดิการ รีดงบประมาณไขมันกองทัพมาทำสวัสดิการให้ประชาชน พร้อมกับการสร้างเทคโนโลยีที่เป็นของประเทศไทยเอง เช่น น้ำประปาดื่มได้ รถเมล์ไฟฟ้า ที่จะนำไปสู่อุตสาหกรรมใหม่และการจ้างงานใหม่ๆ ด้วย

“ภาพอนาคตของภาคอีสานในปี 2574 สำหรับพรรคก้าวไกล เป็นเรื่องที่เรียบง่าย เพียงแค่การทำให้ทุกคนตื่นมาตอนเช้ามีน้ำสะอาดใช้ ส่งลูกไปโรงเรียนก็เรียนฟรีจริง เดินทางไปไหนมีคมนาคมสาธารณะใช้ มีงานที่ดีใกล้บ้านตัวเอง ไม่ต้องเดินทางไปหางานไกลๆ ทำ ตอนเย็นกลับบ้านมาได้กินข้าวพร้อมหน้าทั้งครอบครัว ไม่ต้องรอมาเจอกันทุกวันหยุดเทศกาล นี่คือเป้าหมายที่เรียบง่าย ไม่ต้องคิดถึงตัวเลขสวยหรูที่จับต้องไม่ได้” นายพิธากล่าว

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ