ข้อมูลจากโครงการวิจัยการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันและความปลอดภัยหลังได้รับวัคซีนโควิด-19 ในบุคลากรทางการแพทย์ภายในโรงพยาบาลศิริราช กรุงเทพมหานคร โดย รศ.พญ.ณสิกาญจน์ อังคเศกวินัย, ผศ.ดร.นพ. จตุรงค์ เสวตานนท์, ศ.เกียรติคุณ ดร. โกวิท พัฒนาปัญญาสัตย์, รศ.นพ.รุจิภาส สิริจตุภัทร, รศ.นพ.วินัย รัตนสุวรรณ, ผศ.พญ.อรศรี วิทวัสมงคล, ผศ.ดร.พญ.สุวิมล นิยมในธรรม, ศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
ผลการวิจัยเบื้องต้น
- หลังฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เข็มที่ 1 เป็นเวลา 3-4 สัปดาห์ พบว่า อาสาสมัครทุกคนมีภูมิคุ้มกันสูงเทียบเท่ากับผู้ที่หายป่วยจากโควิด-19
- หลังฉีดวัคซีนซิโนแวค เข็มที่ 1 พบว่า 75% ของกลุ่ม มีภูมิคุ้มกันที่สูงเทียบเท่ากับผู้ที่หายป่วยจากโควิด-19
- หลังฉีดวัคซีนซิโนแวค เข็มที่ 2 พบว่าทุกคน (100%) มีภูมิคุ้มกันในระดับสูงเทียบเท่าผู้ที่หายป่วยจากโควิด-19
- แสดงให้เห็นว่าหลังฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เข็มที่ 1 และซิโนแวค เข็มที่ 2 ภูมิคุ้มกันสูงเทียบเท่าผู้ที่หายป่วยจากโควิด-19
แปลผลได้ว่า วัคซีนทั้ง 2 ชนิดน่าจะป้องกันโควิด-19 ได้ดี
- 75% ของอาสาสมัครที่ได้วัคซีนจะมีอาการไม่พึงประสงค์ โดยมีอาการเพียงเล็กน้อย เช่น ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย มีไข้ ปวดศีรษะ อาการดังกล่าวสามารถหายได้เอง
- กลุ่มที่ฉีดแอสตร้าเซนเนก้า พบอาการไม่พึงประสงค์ค่อนข้างมากกว่ากลุ่มที่ฉีดซิโนแวค โดยเฉพาะในคนอายุน้อย (น้อยกว่า 30 ปี)
- ขณะนี้กำลังตรวจผลของภูมิต่อสายพันธุ์ต่างๆ เช่น สายพันธุ์อังกฤษ แอฟริกา และอินเดีย ร่วมกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งหากทราบผลจะแจ้งเป็นลำดับถัดไป