กู้ภัยวอนอย่าทำแบบนี้ หลังคนขว้างก้อนหินใส่รถกู้ชีพฯ กระจกหน้ารถแตก จนไม่สามารถใช้ออกเหตุ หรือตั้งจุดบริการช่วงเทศกาลสงกรานต์ได้ ฝากตำรวจล่าตัว
วันที่ 11 เม.ย. 66 นายจัตุภัทร เพ็ชรสง หรือปอ อายุ 33 ปี หัวหน้ามูลนิธิสว่างภักดีตรังธรรมสถาน จุด อ.รัษฎา จ.ตรัง นำผู้สื่อข่าวไปชี้ให้เห็นถึงร่องรอยที่คนร้ายใช้ก้อนหินขนาดใหญ่เขวี้ยงใส่กระจกหน้ารถกู้ชีพของมูลนิธิฯ โตโยต้า สีขาว ทะเบียน นข 555 ตรัง ซึ่งเป็นรถตู้ที่จัดซื้อโดยเงินบริจาคของประชาชนที่ร่วมกันทำบุญ เพื่อนำมาใช้ในช่วยเหลือประชาชนและผู้ประสบภัยต่าง ๆ ในพื้นที่ อ.รัษฎา และเขตรับผิดชอบ โดยกระจกบริเวณฝั่งคนขับได้รับความเสียหาย ซึ่งในที่เกิดเหตุยังพบว่าก้อนหินขนาดใหญ่ดังกล่าวตกหล่นอยู่ด้วยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 เม.ย. ที่ผ่านมา
นายจัตุภัทร กล่าวว่า วันเกิดเหตุมีคนร้ายไม่ทราบจำนวน และไม่ทราบว่าเป็นวัยรุ่น หรือวัยผู้ใหญ่ ปาก้อนหินใส่หน้ารถซึ่งจอดอยู่หน้าศูนย์ฯ โดยที่ตอนเกิดเหตุไม่ได้มีใครอยู่ภายในศูนย์ฯเลย เพราะช่วงนี้ลูกข่ายในช่วงกลางคืนจะไม่ค่อยมี ส่วนใหญ่จะอยู่กันเพียงช่วงกลางวัน ประกอบกับที่ศูนย์ฯไม่มีกล้องวงจรปิด ก่อนที่ช่วงเช้าได้มีลูกข่ายของมูลนิธิฯ เข้าไปที่ศูนย์ฯ จึงเห็นสภาพรถถูกทำลาย และมีก้อนหินติดอยู่บนกระจก จึงแจ้งตนในทันที หลังจากเกิดเหตุก็ได้ไปแจ้งลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.รัษฎา
นายจัตุภัทร กล่าวอีกว่า เหตุการณ์เกี่ยวกับการถูกทำลายรถที่ผ่านมาไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หลังเกิดเหตุความรู้สึกของตน อยากจะบอกว่าไม่สมควรทำ เพราะเป็นรถที่นำมาช่วยเหลือผู้คน ช่วยเหลือสังคม ไม่น่าจะมาทำกันแบบนี้ เพราะรถคันนี้ก็ได้มาจากเงินบริจาคใช้งานมาได้ประมาณ 2 ปี ตอนนี้ก็ยังไม่ทราบเลยว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุ หรือสาเหตุใดที่ลงมือกระทำ และยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหากับหน่วยกู้ชีพกู้ภัยในพื้นที่ด้วยกันแต่อย่างได เพราะต่างก็รู้จักและเป็นพี่เป็นน้องกัน
อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะรถคันนี้ไม่ได้ช่วยแค่คนเจ็บ หรือเก็บคนตายเท่านั้น แต่ยังช่วยในงานของทางราชการด้วยเช่นกัน สำหรับความเสียหายของกระจก 1 บานนั้น ได้เช็กราคาไปแล้วอยู่ที่ประมาณ 4,800 บาท โดยที่มีประชาชนที่ใจบุญติดต่อจะช่วยเหลือในการซ่อมแซมแล้ว เหลือเพียงแค่นำรถไปเปลี่ยนกระจก
ทั้งนี้ก็อยากจะฝากไปถึงคนที่ก่อเหตุว่า อย่าไปทำลายทรัพย์สินของคนอื่น หรือทรัพย์สินส่วนรวม ที่คนส่วนใหญ่และสังคมได้รับประโยชน์จากมัน เพราะรถกู้ชีพ 1 คันสามารถช่วยเหลือคนอื่นได้อีกเยอะ หากมีปัญหาหรือไม่พออะไรก็เข้ามาพูดคุยกันจะดีกว่า อย่างในครั้งนี้ตรงกับช่วง 7 วันอันตรายในเทศกาลสงกรานต์อีกด้วย ทำให้รถคันนี้ ซึ่งเสียหายไม่สามารถนำไปจอดสแตนด์บาย เพื่อคอยช่วยเหลือเหตุต่างๆ ไว้ที่จุดบริการหน้าโรงเรียนบ้านโพธิ์น้อยได้อีกด้วย แต่เหตุการณ์นี้ก็ไม่ได้ทำให้บั่นทอนขวัญกำลังใจในการทำประโยชน์ให้สังคมของตนและลูกข่ายลงไปแต่อย่างใด