รฎาวัญย้ำ พรรคเสมอภาค ดันบาร์ Gender Quota สร้างการเมืองเอื้อต่อความเท่าเทียมทางเพศ เพิ่มสัดส่วนผู้แทนเป็นผู้หญิงกับกลุ่มเพศสภาพมากขึ้น
เมื่อวันที่ 4 เมษายนที่ผ่านมา บรรดาหัวหน้าพรรคและผู้บริหารการเมืองทั้งพรรคใหญ่พรรคเล็กต่างพากันขนผู้สมัครบัญชีรายชื่อไปลงสมัครรับเลือกตั้ง ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร
ภายหลังจากรับสมัครแล้ว พรรคการเมืองต่างเปิดเผยลำดับบัญชีรายชื่อและกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้างถึงประเด็นสัดส่วนความเสมอภาค หญิง ชาย และความหลากหลายทางเพศ ในจำนวนผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองต่างๆ
โดยเฉพาะใน 10-20 ลำดับแรก พรรคการเมืองควรให้ความสำคัญกับสัดส่วน “เพศสภาพ” ของผู้สมัครในโลกออนไลน์กันอย่างกว้างขวาง
พรรคเสมอภาค นำโดย คุณรฎวัญ วงศ์ศรีวงศ์ นำทีมผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ ย้ำทำให้ดูเป็นตัวอย่าง
รฎาวัญย้ำว่า สังคมการเมืองของประเทศไทยยังติดอยู่ในกรอบความคิดของสังคมชายเป็นใหญ่ ซึ่งระบบที่ไม่ได้เอื้อให้ผู้หญิง และบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ สามารถส่งเสียงบอกเล่าถึงปัญหาที่กระทบต่อวิถีชีวิตของพวกเขาได้ดังเท่าที่ควร เรียกได้ว่าตะโกนให้ตายก็ไม่มีใครได้ยิน
โดยหลักการแล้ว หากประเทศต้องการสร้างแรงกระเพื่อมต่อกระบวนการนิติบัญญัติได้คือ จะต้องมีสัดส่วนของผู้หญิงและความหลากหลายทางเพศสภาพไม่น้อยกว่า 30% แต่ปัจจุบัน iLaw รายงานว่ามีจำนวน ส.ส.หญิง ในประเทศไทยยังมีจำนวนเพียง 73 คน คิดเป็น 16% และมี ส.ส.ที่มีความหลากหลายทางเพศที่เปิดเผยตัวตนเพียง 3 คนจากจำนวน ของส.ส.ทั้งหมด
“วันนี้ดิฉันของเปิดเผยรายชื่อของผู้สมัคร ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อของพรรคเสมอาภาคทั้งหมด 41 คน มีผู้สมัครเป็นผู้หญิงและกลุ่มบุคคลทีมีความหลากหลายทางเพศรวมกันกว่า 40% เพื่อตอกย้ำว่าตลอดระยะเวลา 30 ปีในเส้นทางการเมืองของดิฉันเราต้องแสดงให้พี่น้องประชาชนได้เห็นถึงศักยภาพ การเป็นผู้นำและแก้ปัญหาปากท้อง ทุกข์สุขของประชาชนได้อย่างแข็งขัน
ที่ผ่านมาเราจะพบว่าสตรีที่มีบทบาททางเมืองได้นั้น ส่วนใหญ่มีความเชื่อมโยงหรือสายสัมพันธ์กับเครือข่ายนักการเมือง จึงสามารถเข้าสู่สนามการเมืองได้ แต่พรรคเสมอภาคเปิดพื้นที่ให้คนทำงานจากภาคส่วนต่างๆเข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ
หากพิจารณาถึงลำดับ ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคเสมอภาค 5 ลำดับแรก ที่มีทั้งผู้หญิง และบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ ที่เป็นต้นแบบในการต่อสู้ทำงานเพื่อประชาชนทั้งในมิติกฎหมายสิทธิมนุษยชน เศรษฐกิจชุมชน ชาวไร่ชวนสวน”
รฎาวัญ กล่าวทิ้งท้ายว่า เกมการเมืองจะถูกพลิกได้ก็ด้วยพลังของเหล่าสตรีและผู้มีความหลากหลายทางเพศ ปัญหาความรุนแรงทางเพศที่มีสถิติเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง การที่รัฐสภาใช้เวลา 4 ปีแต่ไม่สามารถผ่านกฎหมายสมรสเท่าเทียมได้ ยังไม่นับร่างกฎหมายที่ส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศอีกหลายฉบับที่จำเป็น
อาทิ กฎหมายรับรองเพศสภาพ แก้ไขกฎหมายเพื่อทวงคืนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีเพื่อให้บุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศได้ใช้สิทธิประโยชน์ได้อย่างเสมอภาค ไปจนถึงการแก้ไขกฎหมายเพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์ด้านอนามัยเจริญพันธุ์สำหรับบุคคลทุกเพศ ที่ขับเคลื่อนได้ช้า
“ดิฉันขอยืนยันว่าการที่พรรคเสมอภาค ผลักดันประเด็น Gender Quota นั้นมีสมมุติฐานจากงานวิจัยทั่วโลกว่า การเพิ่มสัดส่วนผู้แทนที่เป็นผู้หญิงกับกลุ่มเพศสภาพมากขึ้น ทำให้ปัญหาคอร์รัปชั่นของหลายประเทศลดลง ทั้งยังส่งเสริมธรรมาภิบาล คุณภาพชีวิตโดยรวมของประชาชนดีขึ้น และที่สำคัญ มันคือสัญลักษณ์ของประชาธิปไตยแบบตัวแทน ที่ทั่วถึงและเป็นธรรม” .