อนุชา ควง หมอเปรม พบชาวขอนแก่น ชูโครงการ “โคล้านครอบครัว” สร้างความร่ำรวย ช่วยหลุดพ้นความยากจน ลั่น รทสช. พร้อมทำทันที
วันที่ 4 เม.ย.2566 ที่วัดมัชฌิมวิทยาราม ต.บ้านลาน อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น นายอนุชา นาคาศัย ทีมเศรษฐกิจ พรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมด้วย นายเปรมศักดิ์ เพียยุระ หรือ หมอเปรม ผู้สมัคร ส.ส. เขต 11 จ.ขอนแก่น เบอร์ 1 พรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางลงพื้นที่พบปะพูดคุยกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่เขตเลือกตั้ง 11 จ.ขอนแก่น ประกอบด้วย
อ.บ้านไผ่ อ.บ้านแฮด และ อ.ชนบท (เฉพาะ ต.ศรีบุญเรือง ต.ชนบท ต.โนนพะยอม ต.บ้านแท่น และ ต.กุดเพียขอม) ซึ่งการลงพื้นที่ครั้งนี้ นอกจากนายอนุชาฯ ได้มาพบปะพูดคุยกับพี่น้องประชาชนแล้ว ยังได้ร่วมรายการเลือกตั้ง 66 เปลี่ยนใหม่ หรือไปต่อ ตอนแม่ทัพอีสาน ที่ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ด้วย
นายอนุชา กล่าวว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ เกิดจากการรวมตัวกันของคนที่มีความมุ่งมั่น ตั้งใจทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน โดยยึดแนวทางการดำเนินงานตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ไว้ คือ “ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ” โดยที่ผ่านมามีหลายโครงการที่ผ่านการผลักดันจนประสบความสำเร็จ ประเทศเกิดการพัฒนา ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน
เช่น การขยายโครงข่ายคมนาคม การปรับปรุงและจัดระเบียบพื้นที่สาธารณะ การกระตุ้นการท่องเที่ยวผ่านโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ไทยเที่ยวไทย เป็นต้น ทั้งนี้ ทางพรรคเองได้มุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือประชาชนทุกระดับ โดยเริ่มต้นจากเศรษฐกิจฐานราก ที่มีกลุ่มเกษตรกร ซึ่งเป็นกลุ่มคนจำนวนมากของประเทศ
“ส่วนตัวผมให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งจะเป็นฟันเฟืองสำคัญในการพัฒนาฐานเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม ปัจจุบันเรากำลังทำโครงการ “โคล้านครอบครัว” โดยนำเอาภาคปศุสัตว์มาเป็นตัวแปรในการสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนให้เศรษฐกิจฐานรากมีความเข้มแข็ง การเลี้ยงโค เลี้ยงง่าย และให้ผลตอบแทนสูง ภายในระยะเวลาไม่เกิน 3 ปี มั่นใจว่าประชาชนสามารถปลดหนี้สิน หลุดพ้นความยากจน ขณะเดียวกันอาจเกิดเป็นอาชีพใหม่ที่สร้างรายได้มหาศาลแก่ชุมชนในอนาคตอีกด้วย” นายอนุชา กล่าว
นายอนุชา กล่าวด้วยว่า ซึ่งทางพรรคมีนโยบายโคล้านครอบครัว โคเงินล้าน เป็นเรื่องที่ทำได้จริง และประสบความสำเร็จมาแล้ว ซึ่งจะเรียกว่า โคคณิตศาสตร์แก้จน โดยโคเพศเมีย ที่แจกให้ครอบครัวที่ไปเลี้ยงในปีแรก จากนั้นจะให้ชาวบ้านผสมพันธุ์ในปีต่อมาก็จะได้ลูกวัวออกมา 2 ตัว ปีถัดไปก็ผสมพันธุ์โคอีก ก็จะได้โคเพิ่มขึ้นเป็น 4 ตัว หรือ 6 ตัว และจะทวีคูณเพิ่มจำนวนมากขึ้นในทุกปี
นายอนุชา กล่าวอีกว่า ส่วนอาหารก็เพียงหาหญ้าและน้ำให้โคกินซึ่งเป็นการเลี้ยงที่ง่าย ภายในระยะเวลา 5 ปี แต่ละครัวเรือนก็ จะมีโคมากถึง 10 ตัวเป็นอย่างน้อย และเมื่อนำไปขายก็จะได้เงินจำนวนมาก ต้นทุนในการเลี้ยงโคนั้น ก็จะใช้เพียงกำลังกับความตั้งใจที่จะเป็นคนรวย ก็จะทำให้โคที่เลี้ยงไว้นั้น สร้างรายได้ให้กับครอบครัว
นายอนุชา กล่าวว่า ในอนาคตลูกหลานก็จะมีโอกาสที่จะสร้างฐานะจากการเลี้ยงโคถือว่าเป็นวิธีง่าย ๆ เพราะเรามองข้ามมาตั้งอดีต ซึ่งขณะนี้ได้ทำโครงการนำร่องแล้ว 1 แสนครัวเรือน พร้อมเงิน 50,000 บาท ต่อครัวเรือน