จากผู้เสียหายกลายเป็นผู้ต้องหา เมียสร้างเรื่องว่าถูกคนร้ายปล้นเงินแสน ตำรวจไล่กล้องไม่พบคนร้าย สุดท้ายรับสารภาพสร้างเรื่องตบตาสามี หวังเชิดเงินใช้เอง
วันที่ 31 มี.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงาน มีเหตุผู้หญิงคนหนึ่งถูกคนร้ายตามประกบกระชากกระเป๋า จนรถล้มและคนร้ายได้เงินพร้อมกระเป๋าไปรวมกว่า 102,000 บาท เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่าย ที่ผ่านมา ริมถนนเทพารักษ์ กม 17 ตรงข้ามตลาดนัดเรือบิน ตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
ล่าสุด พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.บางพลี เปิดเผยว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นจริงแต่เป็นเรื่องโอละพ่อ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งเหตุว่ามีอุบัติเหตุในจุดดังกล่าวจึงประสานจราจรและสายตรวจที่อยู่ใกล้เคียง พร้อมทั้งประสานกู้ภัยไปตรวจสอบเพื่อให้ความช่วยเหลือ แต่พอเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึง พบว่ามี นางสาวฉันทนา อายุ 44 ปี บ้านเกิดอยู่จังหวัดกำแพงเพชร นั่งรอความช่วยเหลือจากทางเจ้าหน้าที่อยู่
โดยอ้างว่า ตนเพิ่งไปกดเงินจำนวน 1 แสน 2 พันบาท มาและกำลังจะไปฝากเงินเพื่อโอนกลับไปที่ต่างจังหวัด โดยนำเงินจำนวนดังกล่าวใส่กระเป๋าคาดเอวมาพอขี่รถมาถึงที่เกิดเหตุ มีคนร้ายชายหนึ่งคนขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียน มาประกบและก่อเหตุกระชากกระเป๋าได้เงินสดจำนวนแสนกว่าบาทไป ส่วนตนก็รถล้มจนบาดเจ็บ พอเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากหญิงสาวผู้เสียหายรายนี้ก็รีบรายงานมายัง ผกก.สภ.บางพลี
จากนั้น ผกก.สภ.บางพลี ทราบเรื่องจึงรีบสั่งการระดมฝ่ายสืบสวนของ สภ.บางพลี นำโดย พ.ต.ท.พรชัย เทแก้ว รองผกก.สส.สภ.บางพลี พ.ต.ท.พิศาล กล่ำไพ สว.สส.สภ.บางพลี พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.บางพลี เร่งไล่ล่าตัวคนร้ายที่ผู้เสียหายกล่าวอ้างมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว
หลังจากที่ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ ส่วนหนึ่งไปสอบปากคำผู้บาดเจ็บ อีกชุดไปไล่ภาพจากกล้องวงจรปิด ในละแวกที่เกิดเหตุ จากการสอบปากคำผู้บาดเจ็บหรือผู้เสียหายที่โรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนไม่พบอาการบาดเจ็บ ไม่พบบาดแผลถลอกใด ๆ ตามร่างกายตามที่กล่าวอ้างว่า
พอฝ่ายสืบสวนสอบปากคำอย่างละเอียดเริ่มพบพิรุธของผู้เสียหายมากขึ้น โดยอ้างว่าตนพักอยู่ย่านศรีนครินทร์ และ กำลังนำเงินจำนวนแสนกว่าบาทมาฝากธนาคารที่แยกคลองขุดที่บางพลี ตำรวจเลยเอะใจว่าเหตุใดถึงไม่ฝากเงินย่านศรีนครินทร์ เนื่องจากผ่านธนาคารมาหลายธนาคาร
พอสอบถามไปสอบถามมา เจ้าตัวยังอ้างต่ออีกว่า ที่ต้องตั้งใจจะมาฝากเงินที่แยกคลองขุดนั้น ก็เพราะว่าตั้งใจจะมาซื้อของที่ห้างย่านบางพลี แต่พอมาแล้วไม่มีของที่ต้องการ จึงขี่รถมาดูหาซื้อที่ตลาดเรือบินแต่ก็ยังไม่เจอที่ต้องการและกำลังจะกลับรถวนกลับไปฝากเงินที่แยกคลองขุดแต่มาถูกคนร้ายก่อเหตุเสียก่อน
ตำรวจจึงเชิญตัวมาชี้ที่เกิดเหตุเพื่อหาเบาะแสของคนร้าย พอมาถึงเจ้าตัวยังชี้ที่เกิดเหตุและเล่าเหตุการณ์เป็นตุเป็นตะ แต่ความแตกและจำนนด้วยหลักฐาน ก็พบว่าฝ่ายสืบสวนของ สภ.บางพลี อีกชุดที่เขาแบ่งกำลังลงพื้นที่หาเบาะแสของคนร้ายตั้งแต่เส้นทางก่อนก่อเหตุและหลังเกิดเหตุ จนไปไล่กล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่ผู้เสียหายรายนี้กล่าวอ้าว ตำรวจพบว่า นางสาวฉันทนา คนนี้ ขี่รถจักรยานยนต์มาจริงในเส้นทางที่ให้การจริง
แต่ที่ไม่จริง คือ พอมาถึงจุดเกิดเหตุตามที่กล่าวอ้างว่าถูกคนร้ายก่อเหตุ ภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐานชัดเจนว่าผู้เสียหายจอดรถแล้วลงไปนั่งที่ขอบฟุตปาธ ไม่ได้มีคนร้ายมาประกบ หรือ รถล้มแต่อย่างใด
ก่อนจะยอมรับว่าเรื่องราวทั้งหมดที่บอกมาไม่เป็นความจริง สร้างเรื่องขึ้นมาเพราะจะเอาเงินจำนวนดังกล่าวที่เป็นเงินของสามี โอนไปให้ทางบ้านที่ต่างจังหวัด แต่ไม่รู้ว่าจะโกหกสามียังไงว่าเงินหายไปไหน จึงคิดวางแผนด้วยการสร้างเรื่องว่าถูกคนร้ายก่อเหตุเพื่อหวังหลอกสามี ส่วนเงินจำนวนดังกล่าวมีจริงแต่ไม่ได้หายตามที่บอก ตอนนี้เงินอยู่บ้าน
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเชิญตัวมาทำบันทึกจับกุมและคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีในข้อหา แจ้งความเท็จต่อเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ต้องชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลี ที่เร่งสืบสวนลงพื้นที่จนทราบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว และ หากเป็นเหตุการณ์จริงก็ทำให้เห็นการเอาใจใส่และความรวดเร็วในการทำงานของฝ่ายสืบสวน