มนุษย์เงินเดือนอย่างเรา ห้ามลืมทำเด็ดขาด! “การยื่นภาษีเงินได้” ซึ่งเป็นการยื่นแบบแสดงรายได้ของทั้งปี 2565 ที่ผ่านมา โดยยื่นปีละ 1 ครั้ง คนที่มีรายได้มากกว่า 10,000 บาทต่อเดือน จะต้องยื่นภาษีในช่วง ม.ค. – มี.ค. 2566 ซึ่งวิธีการยื่นภาษีออนไลน์นั้นถือว่าเป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกมาก ๆ สามารถยื่นได้ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 10 เมษายน 2566 ผ่านเว็บไซต์ของกรมสรรพากรได้เลย
- ใกล้หมดเขตแล้ว! วิธีลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า มีขั้นตอนยังไงบ้างมาดู
- เชียงใหม่ ฝุ่นมลพิษหนัก! ทะลุขึ้นอันดับ 1 ของโลก
- คลิปไวรัล ลูกเจี๊ยบสองหัว เกิดมาพึ่งเคยเห็น! คอหวยแห่ตีเลขเลขเด็ด
เอกสารที่ต้องเตรียมก่อนการยื่นภาษีออนไลน์
- เอกสารแสดงรายได้ อย่างหนังสือรับรองเงินเดือน (50 ทวิ) จากบริษัท ซึ่งเป็นเอกสารที่ระบุว่าในปีนั้น ๆ เรามีรายได้รวมเท่าไหร่ มีการหักภาษีล่วงหน้าเท่าไหร่บ้าง
- รายการลดหย่อนภาษีที่รวบรวมไว้ตลอดทั้งปี เช่น ค่าเลี้ยงดูบิดา-มารดา หรือบุตร
- เอกสารประกอบการลดหย่อนภาษีเพื่อนำมาใช้ในการกรอกแบบฟอร์มยื่นภาษี เช่น จำนวนเงินที่ซื้อกองทุนลดหย่อนภาษี, เบี้ยประกันชีวิต, เบี้ยประกันสุขภาพ หรือใบกำกับภาษีเต็มรูปของช้อปดีมีคืน เป็นต้น
- เอกสารแสดงรายได้ อย่างหนังสือรับรองเงินเดือน (50 ทวิ) จากบริษัท ซึ่งเป็นเอกสารที่ระบุว่าในปีนั้น ๆ เรามีรายได้รวมเท่าไหร่ มีการหักภาษีล่วงหน้าเท่าไหร่บ้าง
- รายการลดหย่อนภาษีที่รวบรวมไว้ตลอดทั้งปี เช่น ค่าเลี้ยงดูบิดา-มารดา หรือบุตร
- เอกสารประกอบการลดหย่อนภาษีเพื่อนำมาใช้ในการกรอกแบบฟอร์มยื่นภาษี เช่น จำนวนเงินที่ซื้อกองทุนลดหย่อนภาษี, เบี้ยประกันชีวิต, เบี้ยประกันสุขภาพ หรือใบกำกับภาษีเต็มรูปของช้อปดีมีคืน เป็นต้น
วิธียื่นภาษีออนไลน์ปี 2566
ขั้นตอนที่ 1 เข้าไปที่เว็บไซต์ของกรมสรรพากร https://efiling.rd.go.th/
- กด “ยื่นแบบออนไลน์” (สามารถยื่นภาษีออนไลน์ได้ตั้งแต่วันนี้ – 10 เม.ย. 66)
- ทำการ “เข้าสู่ระบบ” ด้วยเลขบัตรประชาชน แต่หากใครที่ยื่นครั้งแรกให้กด “สมัครสมาชิก” แล้วทำตามขั้นตอนก่อน
- ยืนยันตัวตนด้วยรหัส OTP ผ่านเบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียนไว้
- กดยื่นแบบ ภ.ง.ด. 90/91
ขั้นตอนที่ 2 ดึงข้อมูลค่าลดหย่อนอัตโนมัติ
- กรอกข้อมูลรหัสหลังบัตรประชาชน แล้วกด “ตรวจสอบข้อมูล”
- ระบบจะแสดงข้อมูลค่าลดหย่อนต่าง ๆ ที่เรามีให้อัตโนมัติ จากนั้นกด “ตรวจสอบข้อมูลสำหรับยื่นแบบ”
- เลือกข้อมูลที่จะใช้ในการยื่นภาษี จากนั้นกด “เริ่มยื่นแบบ”
ขั้นตอนที่ 3 ตรวจสอบข้อมูลส่วนตัว และใส่สถานะ
- ระบบจะแสดงข้อมูลส่วนบุคคลต่าง ๆ ของเรา ทั้งเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร, ชื่อ-นามสกุล, วันเดือนปีเกิด, สถานที่ติดต่อ, ร้านค้า/กิจการส่วนตัว (ถ้ามี) ให้เราทำการตรวจสอบความถูกต้อง จากนั้นให้ระบุ “สถานะ” โสด / สมรส / หม้าย
ขั้นตอนที่ 4 ระบุข้อมูลตามแหล่งที่มาของรายได้
- ระบบจะแสดงหน้ารายได้ต่าง ๆ โดยแยกตามแหล่งที่มาของรายได้ เช่น รายได้จากเงินเดือน, รายได้จากฟรีแลนซ์, รายได้จากทรัพย์สิน, รายได้จากการลงทุน และรายได้จากมรดกหากเป็นพนักงานประจำที่มีรายได้ช่องทางเดียวจากเงินเดือน ให้เลือก “ระบุข้อมูลช่อง 40(1)”
ขั้นตอนที่ 5 กรอกรายได้ทั้งปีตามใบ 50 ทวิ
ในหน้านี้ให้เรากรอกรายได้ทั้งปีตามใบ 50 ทวิ ที่ทางบริษัทให้มา ดังนี้
- เงินได้ทั้งหมด คือ รายได้ในปีที่ผ่านมาของเราทั้งหมด
- ภาษีหัก ณ ที่จ่าย ให้ดูว่าบริษัทมีการหักภาษีล่วงหน้าไปหรือไม่ หากไม่มีให้ระบุ 0 หรือถ้ามีก็ให้ระบุตามใบ 50 ทวิ
- เลขผู้จ่ายเงินได้ของบริษัทที่เราทำงานอยู่
ขั้นตอนที่ 6 ตรวจสอบค่าลดหย่อนทั้งหมด
- ในระบบจะแสดงข้อมูลค่าลดหย่อนที่เรามีมาให้อัตโนมัติอยู่แล้ว แต่หากมีค่าลดหย่อนอื่น ๆ เพิ่มเติมในปี 2565 ที่ผ่านมา ก็สามารถใส่เพิ่ม หรือปรับแก้ไขได้
ขั้นตอนที่ 7 ตรวจสอบข้อมูลทั้งหมด
- จากการที่เราใส่ข้อมูลรายได้ทั้งปี และค่าลดหย่อนต่าง ๆ ระบบจะทำการคำนวณเงินที่ต้องเสียภาษี หรือได้คืนภาษีมาให้อัตโนมัติ โดยให้เราตรวจสอบความถูกต้อง แล้วเลือกว่าจะขอคืนภาษีและอุดหนุนพรรคการเมืองหรือไม่ จากในตัวอย่างจะได้คืนภาษีทั้งหมด 10,215 บาท
ขั้นตอนที่ 8 กดยืนยันการยื่นแบบ
- ให้ทำการตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง หากเรียบร้อย ถูกต้องแล้ว ให้ “กดยืนยันการยื่นแบบ” ก็เป็นการเสร็จสิ้นการยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ต้องอัปโหลดเอกสารค่าลดหย่อนอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วย เพื่อความรวดเร็วในการขอคืนภาษี
แหล่งที่มา ttbbank
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่นๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY