ทักษิณ ขออย่าผลักดันกม.นิรโทษ คาดเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง แต่ต้องตั้งรัฐบาลผสม เผยมีโอกาสน้อยที่จะจัดตั้งกับพรรคที่อิงทหารอย่างพลังประชารัฐ
วันที่ 24 มี.ค.66 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว “เกียวโด นิวส์” ของญี่ปุ่นว่า เขาพร้อมที่จะกลับมารับโทษจำคุกในประเทศไทย โดยขอใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับครอบครัว ไม่ว่าผลการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นในเดือน พ.ค. นี้จะออกมาเป็นอย่างไรก็ตาม
นายทักษิณ กล่าวอีกว่า เขากำลังรอเวลาก่อนที่จะกลับมาประเทศไทยในปีนี้ หลังจากใช้ชีวิตลี้ภัยในต่างประเทศมาหลายปี เขาถูกขับออกประเทศหลังการรัฐประหารในปี 2549 และออกจากประเทศไทยในปี 2551 เพื่อไม่ต้องเผชิญหน้ากับโทษในคุก
“ตอนนี้ผมเหมือนติดอยู่ในคุกขนาดใหญ่มา 16 ปีแล้ว เพราะพวกเขากีดกันไม่ให้ผมอยู่กับครอบครัว ผมทรมานมามากพอแล้ว ถ้าผมต้องทนทุกข์ทรมานอีกครั้งในคุกที่เล็กกว่านั้น ก็ไม่เป็นไร จริงๆ แล้วมันไม่ใช่ราคาที่ผมต้องจ่าย แต่ผมยอมจ่าย เพราะผมอยากอยู่กับลูกหลาน ผมควรจะใช้ชีวิตที่เหลือกับลูก ๆ หลาน ๆ ของผม” ทักษิณกล่าวถึงชีวิตที่ต้องห่างไกลจากบ้านเกิด
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการเลือกตั้งในประเทศไทยที่กำลังจะมีขึ้นในเดือน พ.ค.ที่จะถึงนี้ ทักษิณ อดีตนายกฯ แสดงความเชื่อมั่นว่า พรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งโดยได้เสียงข้างมากอย่างแน่นอน
อดีตนายกฯ ทักษิณซึ่งเดินทางออกจากไทยตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2551 ก่อนที่ศาลฎีกาตัดสินจำคุก กล่าวว่า จะไม่เดินเรื่องนิรโทษกรรมผ่านสภาต่อให้พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง
“ผมบอกลูกสาวผมไปแล้วว่าอย่าให้พรรคไปผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมให้ผม ผมไม่ต้องการให้พวกที่ต่อต้านไม่พอใจ” นายทักษิณกล่าวและว่า การจะกลับไปรับโทษครั้งนี้ไม่ใช่การทรยศต่อกลุ่มผู้สนับสนุนที่ช่วยต่อสู้ให้ตนด้วยการลงคะแนนให้พรรคการเมืองที่สนับสนุนตนและการชุมนุมใหญ่หลายครั้ง
“นี่ไม่ใช่ว่าเพราะผมยอมรับว่าผมทำผิดนะ” นายทักษิณกล่าวย้ำ โดยระบุว่า เรื่องที่เกิดขึ้นมาจากระบบที่มีอคติ ต่อต้านตน
อดีตนายกฯ คาดการณ์ว่า พรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ อย่างน้อยจะได้เก้าอี้ครึ่งหนึ่งจาก 500 ที่นั่ง และอาจสูงถึง 310 ที่นั่น เพราะประชาชนเบื่อหน่ายกับการปกครองของพล.อ.ประยุทธ์มาหลายปี
นายทักษิณกล่าวว่า ถึงแม้เพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้ง ก็จำเป็นต้องจัดตั้งรัฐบาลผสมกับพรรคอื่น และมีโอกาสน้อยที่จะจัดตั้งกับพรรคที่อิงทหารอย่างพลังประชารัฐ
“นั่นน่าจะเป็นทางเลือกสุดท้าย ไม่ใช่ทางเลือกแรก” นายทักษิณกล่าว
เมื่อพูดถึงลูกสาว นายทักษิณกล่าวว่า น.ส.แพทองธารพร้อมสำหรับเส้นทางชีวิตทางการเมือง เพราะลูกเรียนรู้การเมืองจากตนตั้งแต่ยังเด็ก และคิดว่าน่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดีกว่าตนด้วยซ้ำ
“เธอน่าจะดีกว่าผมนะ เธอนิ่งกว่าผม อดทนกว่าผม และผมคิดว่าเธอมีความรอบรู้มากด้วย”