ซีเกมส์ – เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2566 นายธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย พร้อมด้วย นายศิริ สาระผล อุปนายกสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย ในงาน “มีต เดอะเพรส กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32” เพื่อประเมินความหวังของนักกีฬาไทยในซีเกมส์ ที่กัมพุชา ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 5-17 พ.ค.66 โดยงานจัดขึ้นที่ชั้น 4 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย โดยมีผู้แทนจาก 8 สมาคมกีฬา ร่วมแถลงความพร้อม
“โค้ชอ๊อด” เกียรติพงศ์ รัชตเกรียงไกร อุปนายกสมาคมวอลเลย์เผยว่า ซีเกมส์นั้นเป็นรายการที่สมาคมฯ ให้ความสำคัญในแง่ที่จะต้องแสดงความเป็นอันดับหนึ่งของภูมิภาคนี้เอาไว้ให้ได้ โดยเฉพาะในวอลเลย์บอลชายหาดปีนี้สำคัญมากเพราะเป็นบันไดขั้นแรกสู่การควอลิฟายไปโอลิมปิกเกมส์ ต้องเป็นแชมป์เท่านั้นจึงจะผ่านเข้าสู่รอบต่อไป ส่วนในร่มนั้นเราก็ต้องป้องกันแชมป์ทีมหญิงให้ได้ ส่วนทีมชายเองก็อยากกลับมาเป็นเบอร์ 1 ของอาเซียนอีกครั้ง โดยเราตั้งเป้าไว้ทั้งหมด 2 ทองจากทีมหญิงทั้งในร่มและชายหาด ส่วนทีมชายก็อยากจะเข้าชิงให้ได้เช่นกัน
เรื่องการเตรียมตัว มีการเตรียมทีมอย่างต่อเนื่อง ในปีนี้ทีมชาย ได้ปาร์ค กี วอน ซึ่งเป็นโค้ชประสบการณ์สูงจากเกาหลีใต้ เคยเป็นโค้ชทีมชาติอิหร่าน เข้ามาดูแลทีมชาติไทย ซึ่งจะทำให้ทีมพัฒนาขึ้นแน่นอน เช่นเดียวกับทีมชายหาดที่ได้ อาเดรียน่า โค้ชชาวบราซิเลี่ยนเข้ามาช่วยดูแล
“โค้ชด่วน” ดนัย ศรีวัชรเมธากุล หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมหญิง กล่าวว่า นักกีฬาชุดนี้จะเป็นการผสมผสาน เน้นตัวในประเทศที่ได้เก็บตัวฝึกซ้อมร่วมกันเป็นหลัก แล้วเติมด้วยนักกีฬาที่เล่นอยู่ต่างประเทศในช่วงท้าย ซึ่งจบจากซีเกมส์จะมีเนชั่นส์ลีกรออยู่ ก็จะเป็นการเตรียมทีมควบคู่กันไป
นายกิตติศักดิ์ ชัยมงคลตระกูล เลขาธิการสมาคมกอล์ฟแห่งประเทศไทยฯ เผยว่า เราตั้งความหวังกวาดทั้ง 4 เหรียญทอง โดยฝ่ายชาย นำโดย “ทีเค” รัชชานนท์ ฉันทนานุวัฒน์ ซึ่งเราส่งนักกีฬาไปฝึกซ้อมที่สนามกอล์ฟที่กัมพูชา และมีความคุ้นเคยเป็นอย่างดี
ขณะที่ น.อ.วิวัฒน์ ขวัญสูงเนิน ผู้จัดการทีม เรือพาย เผยว่า เรือพายชิง 13 เหรียญทอง ในจำนวนนี้เป็นเรือประเภทใหม่ที่เจ้าภาพคิดถึงเอง 2 เหรียญ และ เจ้าภาพกำหนดให้ประเทศที่เคยได้เหรียญทองส่งได้ 8 รายการ ความหวังเราตั้งเป้าไว้ที่ 1 เหรียญทอง
ด้าน นายสหพล นาควานิช นายกสมาคมกีฬาหมากรุกฯ เผยว่า เจ้าภาพจัดแข่งขันหมากรุกกัมพูชา 7 ทอง ซึ่งกติกาคล้ายคลึงกับหมากรุกไทย เกือบ 90% เราตั้งความหวังที่ 4 ทองและอาจจะได้มากกว่านี้ หาก เจ้าภาพไม่จำกัดอายุนักกีฬาต้องอายุ 18 ปีขึ้นไป ซึ่งนักกีฬาอันดับ 1 ในการคัดตัวคือ สโรชา เชื่อมสกุล อายุแค่ 14 ปี เราจึงต้องดันอันดับ 2 คือ สิริกานต์ สุขปานเจริญ ที่อายุ 18 ปี 2 เดือน และ สิรินทร์ บุตรสำราญ อันดับ 3 ที่อายุผ่านเกณฑ์มาแทน
วิสุทธิ์ ตั้งวาริธร นายกสมาคมมวยปล้ำ เผยว่า การชิงชัย 18 ทอง เราส่งนักกีฬา 15 รุ่น โดยจะเน้นที่รุ่นน้ำหนักเบาถึงกลาง เนื่องจาก เจ้าภาพ โอนนักกีฬาอิหร่านมาลงแข่งเอาดื้อๆ เราตั้งความหวังไว้ที่ 1 เหรียญทอง