กัปตัน ชลธร ยัน! ยังรับงานแสดง หลังหายหน้าร่วม 3 ปี รับเคยคิดเฟดออกจากวงการ
หายหน้าหายตาไปจากงานแสดงเกือบ 3 ปี สำหรับนักแสดงหนุ่ม กัปตัน ชลธร คงยิ่งยง ทำเอาแฟนๆ สงสัยว่าจะไม่รับงานในวงการแล้วหรือเปล่า ล่าสุดมีโอกาสได้เจอเจ้าตัวในงาน “Central Edition” ที่ ชั้น 1 เซ็นทรัล ลาดพร้าว เลยเอาคำตอบเรื่องนี้มาฝาก
ช่วงนี้หายหน้าหายตาไปเลย? “จริงๆ ที่หายหน้าหายตาเพราะว่าไปปลุกปั้นการแสดงกับการเล่นซีรีส์อยู่ ตอนนี้ถ่ายซีรีส์เสร็จแล้ว เตรียมออนแอร์ช่วงปลายปีนี้ แล้วก็มีละครของทางช่อง3 รักสุดใจ ยัยตัวแสบ เรื่องนี้ก็ถ่ายใกล้เสร็จแล้วเหมือนกัน คิดว่าปีนี้น่าจะมีผลงานออกมาให้แฟนๆ ได้ชมกัน แล้วก็คิดว่าจะไม่หายไปไหนแล้วครับ”
“อย่างช่วงหายหน้าหายตาไปก่อนหน้านี้มันด้วยอะไรหลายๆ อย่าง เจอทั้งโควิดด้วยหลังจากที่เราเล่นซีรีส์เรื่องสุดท้ายเสร็จ เพราะฉะนั้นมันก็จบไป 3 ปี ช่วงนั้นก็ไม่ได้ถ่ายซีรีส์ด้วยครับ พอสถานการณ์มันเริ่มเปิดเราก็มาเริ่มถ่ายซีรีส์มาช่วงปลายปีที่แล้ว เลยอาจจะช้ากว่าคนอื่นไปบ้าง แต่ว่าตอนนี้เสร็จแล้วก็รู้สึกสบายใจขึ้น”
แฟนๆ หลายคนตกใจนึกว่าจะไม่รับงานแสดงแล้ว? “มันก็มีช่วงหนึ่งที่เราอยากพักเบรกในการแสดงด้วย เหมือนกลับมาทบทวนตัวเอง กลับมาใช้ชีวิตค้นหาอะไรกับตัวเอง แต่ว่าตอนนี้ก็รู้สึกว่าทุกอย่างพร้อมเต็มที่ที่จะกลับมา ยอมรับว่าเคยมีช่วงหนึ่งที่มีความคิดที่อยากจะเฟดออกจากวงการ แต่กลับมาทบทวนตัวเองแล้วว่าตัวเองชอบทางนี้จริงๆ”
“แฟนๆ ก็สบายใจได้ว่าผมยังอยู่เหมือนเดิม ขอบคุณแฟนๆ ทุกคนนะครับที่ยังรอ ไม่ว่าจะคนที่ยังอยู่และคนที่ไม่อยู่แล้วก็ขอบคุณทุกคนจริงๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต หลังจากนี้เราจะเจอกับคนใหม่ๆ หรือว่าคนเก่าๆ ที่อยากแวะเวียนมาหาเราก็ยินดีต้อนรับเสมอ สัญญาว่าจะไม่หายไปไหนแล้วครับ”
กลัวแฟนๆ จะหายไปเหรอ? “จริงๆ มันก็หลายปีนะครับช่วงที่เราไม่ได้ออกหน้าออกตา ซึ่งมันก็ต้องยอมรับแหละว่าเขาก็ต้องไปหาคนอื่น แต่เราก็ไม่คิดเสียใจเพราะมันอยากเบรกไปค้นหาตัวเองจริงๆ อยากกลับไปใช้ชีวิตแล้วรอวันที่พร้อม”
น้อยใจไหมที่แฟนๆ หายไป? “จริงๆ ไม่ได้น้อยใจหรอกคือเรายอมรับอยู่แล้วเพราะเราเป็นคนที่เหมือนเฟดออกไปเอง พอกลับมาครั้งนี้เราเองก็ไม่กล้าคาดหวังว่าจะได้รับการต้อนรับเหมือนเดิมไหม เพราะหน้าที่ของเราคือนักแสดง ฉะนั้นเราก็ไม่ได้คาดหวังว่าเราจะมีกระแสหรือเปล่า แต่เราต้องมีหน้าที่ในการแสดงบทที่ผู้กำกับหรือว่าโปรดิวเซอร์โยนมาให้เราตรงนั้นมากกว่าครับ”
เคยถึงขั้นมีคนแซวว่าเพราะมีแฟนติดแฟนหรือเปล่า เลยจะไม่รับงานแล้ว? “จริงๆ เขาก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราอยากกลับมาเร็วขึ้นด้วย เขาก็สนับสนุนในการทำงานในวงการนี่แหละ เพราะเขาเห็นว่าเราชอบทางนี้ แล้วก็เหมือนบอกกับเราว่ามันอาจจะใช่ทางของเราจริงๆ”