บิ๊กตู่ นั่งหัวโต๊ะ ถก คณะรัฐมนตรี จับตาเป็นนัดสุดท้าย ก่อนยุบสภาหรือไม่ ขณะที่ มท.1 ยอมรับเสนอ ครม. ปรับเพิ่มเงินตอบแทน กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน แต่ไม่รู้จะนำมาพิจารณาหรือไม่
14 มี.ค. 66 – ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)
โดยวันเดียวกันนี้ คาดว่าเป็นการประชุม ครม.นัดสุดท้ายในฐานะรัฐบาลที่มีอำนาจเต็ม ก่อนที่ตะมีการประกาศยุบสภา เนื่องจากรัฐบาล “ประยุทธ์2” จะครบวาระในวันที่ 23 มี.ค.66
ทั้งนี้ ก่อนการประชุม นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และคณะผู้บริหาร เข้าพบเพื่อนำเสนอระบบแจ้งเหตุฉุกเฉินทางสังคม (Emergency Social Services : ESS Thailand)
จากนั้น พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย () และคณะผู้บริหาร เข้าพบเพื่อนำเสนอนิทรรศการพัฒนาระบบรองรับการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล (Digital ID) ผ่านแอปพลิเคชัน “ThaID”
ก่อนการประขุม ครม. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยอมรับว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย มีการเสนอการปรับเพิ่มอัตราเงินตอบแทนตําแหน่ง กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจําตําบล สารวัตรกํานัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายปกครอง และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบ และขอยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2565 เรื่อง แนวทางการจัดทํางบประมาณและปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจําปีงบประมาณ พ.ศ.2567 แต่ไม่ทราบว่า ครม.จะมีการพิจารณาหรือไม่
อย่างไรก็ตาม บริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรึงกำลังและดูรักษาคสามปลอดภัยอย่างเข้มงวด เนื่องจากมีรายงานกิจกรรมการชุมนุมในพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล ที่ต้องติดตามสถานการณ์
โดยเมื่อเวลา 05.00 น. กลุ่มสหพันธ์เกษตรกรแห่งประเทศไทย (สกท.) นำโดย นายยศวัจน์ ชัยวัฒนสิริกุล (ประธานที่ปรึกษา กลุ่ม สกท.) เดินทางมาเพื่อให้กำลังใจ พล.อ.ประยุทธ์ และขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ดำเนินอนุมัติงบประมาณในการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาหนี้สินฯ ตามโครงการการแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกร ในการปรับโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้เดิม ตามที่ ครม. มติเห็นชอบไปแล้วตั้งแต่ 22 มี.ค.65 ที่ผ่านมา
รวมทั้ง เพื่อฟังผลการประชุม ครม.เรื่องการจ่ายเงินชดเชยให้ 4 ธนาคารรัฐ เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ตามมติ ครม.เมื่อ 22 มี.ค.65 และกดดันนายกรัฐมนตรี ให้อนุมัติเงินงบกลาง เป็นค่าใช้จ่ายในกิจการของสำนักงานกองทุนฟื้นฟูฯ (กฟก.) ประจำปี 2566 จำนวน 1,415 ล้านบาท (กฟก.ได้รับอนุมัติงบกลางทั้งสิ้น 4,415 ล้านบาท อนุมัติใช้จ่ายแล้ว 3,000 ล้านบาท)
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมทำการปิดการจราจร บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ จนถึงแยกแยกสวนมิสกวันในช่วงเช้ามืด และจะเปิดการจราจรให้สัญจรปกติในช่วงสาย เพื่อป้องกันมวลชนและรถเครื่องขยายเสียงเข้ามาในพื้นที่
ขณะที่แยกมัฆวาน (ถ.ราชดำเนินนอก) จะปิดการจราจรในช่องทางคู่ขนาน โดยทาง จนท.ตร. จะขอความร่วมมือให้ทางกลุ่มฯ ทำกิจกรรม บริเวณด้านหน้า มทร.พระนคร (ถ.พิษณุโลก) โดยไม่อนุญาตให้กลุ่มฯ ใช้พื้นที่โดยรอบทำเนียบฯ