อนุทิน ลั่น พร้อมเป็นนายกฯ ชูจุดแข็งพรรค พูดแล้วทำ อาสาเชื่อมประสานทุกพรรค สร้างความสามัคคี โว รมต.ภูมิใจไทย ทำงานเข้าขาข้าราชการ-นักการเมือง
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 13 มี.ค. 2566 ที่โรงแรม พูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ (รางน้ำ) เครือมติชนจัดแคมเปญ “มติชน: เลือกตั้ง 2566 บทใหม่ประเทศไทย” เปิด 5 เวที 10 ยุทธศาสตร์ 2 กลยุทธ์ ซึ่งวันนี้เป็นเวทีแรก ประชันนโยบาย “ย้ำจุดยืน ชูจุดขาย ประกาศจุดแข็ง” ที่มีตัวแทนจาก 8 พรรคการเมืองร่วมขึ้นเวทีประชันนโยบาย
ในรอบที่ 3 นำเสนอจุดขายและจุดแข็งของพรรค นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวในหัวข้อ จุดแข็งของพรรคภูมิใจไทย ว่า เมื่อสักครู่ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานยุทธศาสตร์การเมืองพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เริ่มว่าถ้าเลือกพรรคพลังประชารัฐ จะได้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกฯ ตนจึงขอเริ่มคำพูดว่า ถ้าเลือกพรรคภูมิใจไทย จะได้ตนเป็นนายกฯ
พรรคภูมิใจไทย ชูจุดยืน คือ จะไม่เป็นปัจจัยความขัดแย้ง จะไม่ต้องการเอาชนะพรรคการเมืองด้วยกัน หรือกลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่งแล้วบอกว่าตัวเองชนะ เพราะไม่มีประโยชน์ คนที่ชนะพรรคภูมิใจไทยได้มีกลุ่มเดียว คือประชาชน ส่วนจุดขาย คือ พรรคภูมิใจไทย พูดแล้วทำ เสนออะไรต้องปฏิบัติได้จริง ทำได้เลย ทำได้เร็ว กล้าตัดสินใจสนับสนุนในสิ่งที่เป็นประโยชน์ กล้าคัดค้านสิ่งที่ไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะการทุจริตต่อบ้านเมือง
พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคที่มีระเบียบวินัย เราเคารพกติกา ทั้งกติกาทางกฎหมาย กติกาในสภาฯ กติกาการอยู่ร่วมกัน และผลักดันเพื่อให้ประเทศเดินไปข้างหน้า ที่สำคัญคือ พรรคภูมิใจไทยจะทำให้รากฐานของประชาชนเข้มแข็ง ผ่านระบบที่เป็นเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำต่างๆ คนไทยต้องมีสุขภาพดี ต้องมีโอกาสประกอบธุรกิจ และอาชีพโดยไม่มีการกีดกัน
พรรคภูมิใจไทยมีคนที่เข้าใจบริบทนี้อยู่เต็มพรรค ในยุคที่พรรคภูมิใจไทยทำงานในกระทรวงสาธารณสุขมา 4 ปี ยืนยันได้ว่า คนไทยจะไม่มีวันล้มละลายจากปัญหาสุขภาพตัวเอง พรรคภูมิใจไทยจะให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาถิ่นกำเนิดของตัวเอง ด้วยการมีภาษีบ้านเกิดเมืองนอนไปจัดการเอง
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า สำหรับจุดแข็ง คือ พรรคภูมิใจไทยทำได้แน่นอน เพราะเราเป็นพรรคที่มีขนาดพอสมควร สามารถที่จะประสานเชื่อมทุกพรรคได้ ทำให้เกิดความสามัคคี และความสงบของคนในชาติ พรรคภูมิใจไทยทำได้ทั้งระดับท้องถิ่น คือทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่อย่างดี และระดับนานาชาติ คือไปไหนไม่อายใครอย่างแน่นอน สามารถทำให้นานาอารยประเทศให้ความเชื่อมั่น เชื่อถือต่อประเทศไทย
“รัฐมนตรีทุกคนของพรรคภูมิใจไทยสามารถทำงานเข้ากับข้าราชการได้ ด้วยความเข้าใจและให้เกียรติซึ่งกันและกัน ทั้งยังทำงานร่วมกันระหว่างการเมืองต่อการเมืองได้ ในกรณีที่เราไม่มีความเห็นที่ขัดแย้งกันในเรื่องของอุดมการณ์ พรรคภูมิใจไทยจึงอยากจะย้ำจุดยืน ชูจุดขาย และประกาศจุดแข็ง ให้ประชาชนทราบ เราจะทำทันทีตามที่ได้พูด หลังจากที่เราได้เป็นพรรคจัดตั้งรัฐบาล และถ้าเป็นไปได้ ผมจะได้เป็นนายกฯ” นายอนุทิน กล่าว