หญิงรายหนึ่งเสียชีวิตจากภาวะทุพโภชนาการอย่างรุนแรง เหตุเพราะปฏิเสธการรักษา หลังแพทย์ตรวจพบซากทารกหินในท้องนาน 9 ปี สร้างความประหลาดใจแก่แพทย์เป็นอย่างมาก
เว็บไซต์ต่างประเทศ รายงานว่า หญิงชาวคองโกรายนี้มีอาการปวดท้อง อาหารไม่ย่อย และมีลมในท้องหลังจากทานอาหารทุกมื้อ เธอจึงตัดสินใจไปพบแพทย์ที่เชี่ยวชาญในนิวยอร์ก แพทย์ตรวจพบ “ทารกหิน” ซึ่งเป็นก้อนเนื้อในครรภ์กำลังขวางอุดตันลำไส้เธออยู่ แพทย์แนะนำให้เธอรีบเข้ารับการผ่าตัดโดยด่วน แต่เธอปฏิเสธการผ่าตัดและเลือกที่จะติดตามอาการแทน โดยอ้างว่า กลัวการผ่าตัด ภายหลังพบว่าเธอเสียชีวิตหลังจากนั้น 14 เดือน
ด้านแพทย์เจ้าของคนไข้รายนี้ เผยสาเหตุว่า หญิงรายนี้เสียชีวิตจากทารกหินคอยบีบตัวในลำไส้ และทำให้เกิดการอุดตันของลำไส้ หมายความว่าร่างกายของเธอไม่สามารถดูดซึมสารอาหารได้อีกต่อไป จึงนำไปสู่การขาดสารอาหารอย่างรุนแรง โดยก่อนเสียชีวิตอายุครรภ์ของหญิงรายนี้หยุดพัฒนาเมื่ออายุครรภ์ได้ 28 สัปดาห์ ซึ่งแพทย์ ระบุว่า ภาวะทารกเป็นหินในครรภ์ (lithopedion) เกิดจากการที่ทารกตายระหว่างตั้งครรภ์ ก่อนจะหินปูนหรือแคลเซียมมาเกาะขณะทารกฝังตัวอยู่นอกมดลูก
ทั้งนี้ แพทย์ในสหรัฐ ชี้แจงว่า กรณีที่เกิดขึ้นเน้นย้ำถึงผลกระทบที่ไม่น่าพึงพอใจที่เธอไม่มีความไว้วางใจให้กับทีมแพทย์ ถ้าหญิงรายนี้ยอมเข้ารับการผ่าตัดตั้งแต่ตอนตรวจพบ ไม่เช่นนั้นเธอคงไม่ทุกข์ทรมานจนเป็นเหตุให้เสียชีวิตได้